“หมัก” ออกอาการใจปลาซิว สั่ง รมว.คมนาคม ถอนวาระการเช่ารถแอร์เติมก๊าซ NGV จำนวน 6 พันคัน ตามคาด หลังกระแสข่าวบิ๊กในรัฐบาลงาบหัวคิว 6 พันล้าน อ้างขอดูละเอียดใหม่ เพราะเกี่ยวพันกับเมกะโปรเจกต์ระบบขนส่ง ยันไม่ได้หนีอภิปราย
วันนี้ (17 มิ.ย.) นายธีระชัย แสนแก้ว รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังเข้าประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยระบุว่า นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้สั่งการให้กระทรวงคมนาคมถอนโครงการเช่ารถโดยสารที่ใช้เครื่องยนต์ก๊าซธรรมชาติ (เอ็นจีวี ) เป็นเชื้อเพลิง จำนวน 6,000 คัน ขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ออกจากวาระการประชุม ครม.วันนี้ไปก่อน
ด้าน นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมว.คมนาคม กล่าวกับผู้สื่อข่าวภายหลังการประชุม ครม. โดยยอมรับว่า นายกรัฐมนตรี สั่งให้นำแผนปรับปรุงการบริหารจัดการ ซึ่งรวมถึงโครงการเช่ารถปรับอากาศเอ็นจีวี จำนวน 6 พันคันเป็นเวลา 10 ปี ของ ขสมก.ไปพิจารณารายละเอียดและเสนอต่อคณะกรรมการพัฒนาระบบขนส่งทางรางและระบบขนส่งมวลชนอีกครั้ง เพื่อความรอบคอบ ก่อนที่จะเสนอให้ ครม.พิจารณาต่อไป
เนื่องจากต้องการให้คณะกรรมการพัฒนาระบบขนส่ง พิจารณาเรื่องนี้อีกครั้ง เพราะนายกรัฐมนตรีต้องการให้มีรายละเอียดตัวเลขต่างๆ ที่ชัดเจน เพื่อแก้ข้อสงสัยของผู้ที่ตั้งข้อสังเกตในเรื่องความโปร่งใสของโครงการ ไม่ว่าจะเป็นวิธีการจัดหารถซึ่งใช้วิธีการเช่า อัตราค่าเช่าซึ่งคาดว่าจะคิดเป็นเงินวันละ 5 พันบาทต่อคันต่อวัน หรือกว่าแสนล้านบาทในช่วง 10 ปี รวมทั้งเงื่อนไขและขั้นตอนการคัดเลือกเอกชน ซึ่งจะให้เอกชนรายเดียวเป็นผู้ดำเนินการ
“ยืนยันว่า ไม่ได้เป็นการหนีอภิปรายไม่ไว้วางใจ ทำไมสันติต้องหนีด้วย เพราะโครงการโปร่งใส 100% การเป็นรัฐบาลที่มาจากประชาธิปไตย ไม่ใช่พวกมากลากไป เมื่อมีนักวิชาการหรือฝ่ายตรงข้ามตั้งข้อสังเกตหรือแสดงความเป็นห่วง ก็ต้องดูให้รอบคอบ เพื่อตอบข้อสงสัยต่างๆทั้งหมด” นายสันติ กล่าว
อย่างไรก็ตาม กระทรวงคมนาคม ยืนยันว่า วิธีการเช่ารถมาให้บริการ เป็นวิธีที่ดีที่สุด เพราะขสมก.จะมีรถให้บริการครบ 6 พันคันทุกวัน ขณะที่การซื้อรถ จะเกิดปัญหาเรื่องการซ่อมบำรุง และการจัดหาอะไหล่อุปกรณ์ต่างๆ บางครั้งต้องนำอะไหล่ของรถคันอื่นมาใช้แทนจะเห็นได้ว่าในปัจจุบันขสมก.มีรถโดยสารรวม 3,535 คัน แต่ในจำนวนนี้สามารถให้บริการได้จริงประมาณ 3 พันคัน หรือ 87% ของรถที่มีอยู่เท่านั้น
**ไฟเขียวเพิ่มงบก่อสร้างรถไฟฟ้า 3.6 หมื่นล.
พล.ต.ท.วิเชียรโชติ สุกโชติรัตน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุม ครม.วันนี้ มีมติเห็นชอบให้ปรับเพิ่มวงเงินค่าก่อสร้างงานโยธาโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง บางใหญ่-บางซื่อ เป็น 36,055 ล้านบาท จากเดิมกำหนดไว้ 31,217 ล้านบาท รวมทั้งปรับเพิ่มค่าที่ปรึกษาเป็น 1,296 ล้านบาท จาก 1,248 ล้านบาท เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ต้นทุนค่าวัสดุก่อสร้างและค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ เนื่องจากนายกรัฐมนตรีจะขอเข้าไปพิจารณาในรายละเอียดให้รอบคอบ เพราะเป็นโครงการที่เกี่ยวพันกับโครงการเมกะโปรเจกต์ตามแผนระบบขนส่ง
นอกจากนี้ ที่ประชุม ครม.ยังมีมติเห็นชอบมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมก่อสร้างที่รับงานจากภาครัฐซึ่งได้รับผลกระทบจากปัญหาต้นทุนที่ปรับตัวสูงขึ้นทั้งราคาวัสดุก่อสร้างและราคาน้ำมัน
สำหรับมาตรการที่สำคัญ ได้แก่ ให้ขยายอายุสัญญาโครงการก่อสร้างออกไปอีก 250 วัน เพื่อยืดเวลาความต้องการใช้วัสดุก่อสร้าง โดยให้มีผลย้อนหลังตั้งแต่ต้นปีงบประมาณ 50 (1 ต.ค.50), กรณีที่ผู้รับเหมาที่ยังไม่ได้เซ็นสัญญาและขอยกเลิกการเสนอราคาเนื่องจากราคาวัสดุก่อสร้างและต้นทุนปรับตัวสูงขึ้นมากให้ถือว่าไม่เป็นการละทิ้งงาน, ปรับปรุงหลักเกณฑ์ค่า K ให้เป็นธรรม โดยให้ปรับเพิ่มเงินค่าก่อสร้างงานภาครัฐประมาณ 4% สำหรับรองรับปัญหาราคาวัสดุก่อสร้างและราคาน้ำมันที่สูงขึ้น เป็นต้น