พาณิชย์ เผยตัวเลข ศก.เดือน เม.ย.51 ส่งออกโต 27% นำเข้าโต 44.4% สูงสุดรอบ 12 ปี ทำให้ขาดดุลการค้าสูงถึง 1.8 พันล้านดอลล์ ชี้ตัวเลขนำเข้าน้ำมัน-ทองคำ กำลังน่าเป็นห่วง
วันนี้ (21 พ.ค.) นายศิริพล ยอดเมืองเจริญ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจไทยเดือน เม.ย.2551 โดยระบุว่า การส่งออกของไทยยังโตได้ต่อเนื่องถึง 27% คิดเป็นมูลค่าการส่งออก 13,765 ล้านดอลลาร์ ขณะที่การนำเข้าโต 44.4% คิดเป็นมูลค่าการนำเข้า 15,572 ล้านดอลลาร์ ส่งผลให้ในเดือน เม.ย.2551 ไทยขาดดุลการค้ามูลค่า 1,807 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นการขาดดุลสูงสุดในรอบ 12 ปี นับตั้งแต่เดือน เม.ย.2539 ที่ขาดดุล 2,070 ล้านดอลลาร์
สำหรับการส่งออก ในช่วง 4 เดือนแรกของปี 2551 (ม.ค.-เม.ย.) ส่งออกโต 22.2% คิดเป็นมูลค่า 55,481 ล้านดอลลาร์ การนำเข้าโต 39.7% คิดเป็นมูลค่า 58,471 ล้านดอลลาร์ ส่งผลให้ช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้ ไทยขาดดุลการค้ารวม 2,990 ล้านดอลลาร์
นายศิริพล กล่าวว่า การขาดดุลการค้าในเดือน เม.ย.เป็นผลมาจากการนำเข้าที่เพิ่มขึ้น อย่างเห็นได้ชัด โดยการนำเข้าน้ำมันเชื้อเพลิง และทองคำ
ก่อนหน้านี้ กระทรวงพาณิชย์ ตั้งเป้าหมายการส่งออกปี 2551 ขยายตัวไม่ต่ำกว่า 12.5% โดยในเดือน เม.ย.2551 มีการนำเข้าสินค้าน้ำมันเชื้อเพลิงคิดเป็นมูลค่า 3,657 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 88% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่นำเข้าเพียง 1,944 ล้านดอลลาร์ ขณะที่การนำเข้าทองคำมีมูลค่า 536 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 615% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่นำเข้าเพียง 75 ล้านดอลลาร์
ทั้งนี้ จากภาวการณ์นำเข้าน้ำมันเชื้อเพลิงและทองคำที่มีมูลค่าสูงขึ้นอย่างมากนี้ นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ จะเรียกประชุมคณะกรรมการจัดการด้านอาหารและพลังงาน เพื่อหาแนวทางในการบริหารการนำเข้าในภาพรวมต่อไป
“การนำข้าผูกพันกับนโยบายของหลายส่วน เราจะไปคุยกับส่วนราชการอื่นให้เกิดความชัดเจน ส่วนเรื่องทองคำ เป็นผลจากการขยายตัวของการส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับ แต่อีกส่วนหนึ่งนั้นจะต้องดูว่ามีการเก็งกำไรจากการนำเข้าหรือไม่ เรื่องนี้ละเอียดอ่อน กระทรวงพาณิชย์จะต้องคุยกับส่วนราชการ และเอกชนที่เกี่ยวข้อง”
ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้ยังคงยืนยันตัวเลขการส่งออกทั้งปี 2551 จะขยายตัวได้ที่ระดับ 12.5% แม้กระทรวงพาณิชย์จะคาดหมายในเบื้องต้น ว่า การส่งออกจะสามารถขยายตัวได้สูงถึง 15%