xs
xsm
sm
md
lg

กนง.กังวลเงินเฟ้อพุ่ง 6.2% คาดตรึง ดบ.ที่ 3.25% วันนี้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


บอร์ด กนง.ผวาเงินเฟ้อเดือน เม.ย.พุ่ง 6.2% กดดันต้นทุนผลิต คาดที่ประชุม วันนี้ ประกาศตรึง ดบ.อาร์/พี 3.25% ต่อไปอีก มั่นใจไม่โดนบีบใช้นโยบายการเงิน

มีรายงานข่าวจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า วันนี้ (21 พ.ค.) คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะมีการประชุมเพื่อพิจารณาอัตราดอกเบี้ยนโยบาย (ดอกเบี้ยในตลาดซื้อคืนพันธบัตรระยะ 1 วัน หรือดอกเบี้ยอาร์/พี ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 3.25% โดยคาดกันว่า กนง.อาจประกาศคงอัตราดอกเบี้ย แม้ว่าดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) อยู่ที่ 2% เนื่องจากเป็นห่วงเงินเฟ้อ เพราะในเดือน เม.ย.ที่ผ่านมาเงินเฟ้อทั่วไปอยู่ที่ 6.2% ส่วนเงินเฟ้อพื้นฐานอยู่ที่ 2.1% ขณะที่ราคาน้ำมันช่วงนี้อยู่ระดับสูง ซึ่งอาจส่งผลให้ต้นทุนราคาสินค้าปรับตัวเพิ่มขึ้น และทำให้เงินเฟ้อขยายตัวเพิ่มขึ้นอีก

ดังนั้น คาดว่า ที่ประชุมบอร์ด กนง.อาจมีการหารือเพื่อประเมินสถานการณ์เศรษฐกิจไทย และราคาน้ำมันในอีก 1-2 เดือนนี้ ก่อนที่จะตัดสินใจอีกครั้ง ว่า กนง.ควรจะดำเนินการนโยบายดอกเบี้ยในทิศทางไหน ในการประชุมครั้งหน้า ซึ่งหากเงินเฟ้อมีแนวโน้มสูงขึ้นต่อเนื่อง กนง.อาจจะขึ้นดอกเบี้ยอาร์พี เพื่อลดแรงกดดันเงินเฟ้อ แต่ถ้าเงินเฟ้ออยู่ในเกณฑ์ที่ธปท.กำหนดอาจจะคงดอกเบี้ยอาร์พีไว้เหมือนเดิม ซึ่งที่ผ่านมา ธปท.คาดว่า เงินเฟ้อพื้นฐานอยู่ที่ 0-3.5% ขณะที่เงินเฟ้อทั่วไปอยู่ที่ 4-5%

ด้านแหล่งข่าวจากธนาคารพาณิชย์ กล่าวว่า คาดการณ์ว่า ธปท.จะไม่ขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย เพราะ ธปท. ใช้อัตราเงินเฟ้อ พื้นฐานเป็นดัชนีชี้วัดขณะนี้อยู่ที่ 3.5% เท่านั้น และไม่มีปัจจัยอะไรน่ากังวล ซึ่งหากขึ้นดอกเบี้ยจะทำให้เศรษฐกิจของประเทศ ชะลอตัวลง เมื่อพิจารณาทั้งราคาสินค้าแพงขึ้น ความเชื่อมั่นของประชาชนชะลอตัว การจับจ่ายใช้สอยไม่ได้เติบโต ซึ่งตรงนี้ส่งผลไปถึงผู้ผลิตได้ลดปริมาณการผลิตลง และไม่มีการลงทุนเพิ่ม ล้วนเป็นปัจจัยลบต่ออัตราการเติบโตของเศรษฐกิจทั้งสิ้น และสิ่งที่น่ากลัว และต้องจับตามอง คือปัญหาทางการเมือง ที่ไม่มีความชัดเจน และจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงในที่สุด แต่คงไม่ร้ายแรงถึงขั้นปฏิวัติ ทั้งนี้เชื่อว่ารัฐคงไม่บีบให้ ธปท.ต้องใช้นโยบายทางการเงินเข้ามาแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ขณะเดียวกันต้องยอมรับว่าที่ผ่านมารัฐบาลแก้ไขปัญหาอะไรไม่ได้ และไม่มีความเป็นเอกภาพอย่างที่ควรจะเป็น

“ตอนนี้แบงก์ชาติได้แสดงเจตนาชัดเจนว่าจะดูตัวเลขเงินเฟ้อพื้นฐาน ซึ่งการคำนวณจะไม่รวมตัวเลขราคาน้ำมัน และราคาอาหารเข้ามา และปัจจุบันตัวเลขดังกล่าวยังไม่สูง แต่ถ้า ราคาน้ำมันขึ้นไปเกินกว่าบาร์เรลละ 130 เหรียญสหรัฐในเดือน ก.ย.อาจจะเห็นเงินเฟ้อทั่วไปขึ้นไปแตะที่ 8% ส่วนเรื่องการปรับขึ้นค่าครองชีพและเงินเดือนราชการ มีผลตรงนี้น้อย เพราะราคาสินค้า และอาหารได้เพิ่มไปก่อนหน้านี้แล้ว”

คาดว่า กนง.คงดอกเบี้ยอาร์/พีไว้เหมือนเดิม เนื่องจากเงินเฟ้อของไทยยังอยู่ในระดับสูง และคาดว่า จะขึ้นไปสูงสุดถึง 7-8% ในเดือน ก.ย.นี้ อย่างไรก็ตาม แม้ ธปท.จะไม่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยแล้วแต่เศรษฐกิจไทยน่าจะขยายตัวได้ 4-5% เนื่องจากรัฐบาลมีมาตรการออกมากระตุ้นหลายๆ มาตรการ ทั้งด้านอสังหาริมทรัพย์ และการลงทุนโครงการขนาดใหญ่
กำลังโหลดความคิดเห็น