xs
xsm
sm
md
lg

คาด ธปท.คงดอกเบี้ยนโยบาย ห่วงแนวโน้มเงินเฟ้อยังพุ่งแรง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายแบงก์เห็นพ้อง กนง.คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 3.25%ในการประชุมวันนี้ ระบุยังมีปัจจัยกดดันด้านอัตราเงินเฟ้อที่สูงถึง 5.3% และอาจพุ่งขึ้นถึง 6%ในไตรมาส 2 แต่คาดว่าในช่วงครึ่งปีหลังจะมีการปรับลด ขณะที่ส่วนต่างระหว่างดอกเบี้ยไทย-สหรัฐฯยังไม่น่าห่วง เหตุดอกเบี้ยประเทศในภูมิภาคยังสูงกว่าไทย

นายปิยะ ซอโสตถิกุล ผู้ช่วยผู้จัดการ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (BBL) กล่าวว่า การประชุมกนง.ครั้งนี้น่าจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 3.25% เนื่องจากในไตรมาส 1 ที่ผ่านมาอัตราเงินเฟ้อทรงตัวอยู่ในระดับสูง โดยเงินเฟ้อล่าสุดเดือนมีนาคมอยู่ที่ 5.3% และคาดว่าไตรมาสที่ 2 อัตราเงินเฟ้อก็จะยังคงปรับสูงขึ้นไปถึงระดับ 6% จากราคาอาหารที่เพิ่มขึ้นตามราคาน้ำมันที่ยังทรงตัวอยู่ในระดับสูงอย่างต่อเนื่อง

อย่างไรก็ตาม ในไตรมาสที่ 3-4 อัตราเงินเฟ้อน่าจะเริ่มปรับลดลงผลจากการคงอัตราดอกเบี้ยของกนง. และคาดว่าภายในสิ้นปีนี้อัตราเงินเฟ้อน่าจะลดลงมาที่ระดับ 4.5% ส่วนนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจมองว่ารัฐบาลสามารถใช้มาตรการด้านการคลังมากระตุ้นได้ โดยไม่จำเป็นต้องใช้มาตรการลดอัตราดอกเบี้ยอย่างเดียว จึงเชื่อว่า กนง.น่าจะรอดูสถานการณ์ก่อนระยะหนึ่ง

นายกอบสิทธิ์ ศิลปชัย ผู้บริหารงานวิจัยเศรษฐกิจและตลาดทุน สายงานธุรกิจตลาดทุน ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) (KBANK) กล่าวว่า กนง.น่าจะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับเดิม เนื่องจากในการประชุมของธนาคารกลางอินโดนีเซียสัปดาห์ที่ผ่านมามีการคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ ซึ่งทิศทางดอกเบี้ยไทยก็น่าจะเป็นไปในทิศทางเดียวกัน เพราะภูมิภาคเอเชียประสบปัญหาเงินเฟ้อที่ทรงตัวอยู่ในระดับสูงคล้ายกัน

สำหรับส่วนต่างระหว่างอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐกลางสหรัฐฯกับไทยที่กว้างขึ้นนั้น จะไม่ส่งผลให้มีปัญหาเรื่องเงินไหลเข้าประเทศไทยมากนัก เพราะปัจจุบันอัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทยต่ำกว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายของประเทศอื่นในภูมิภาคเดียวกัน ยกเว้นสิงคโปร์ ซึ่งหากมีเงินทุนไหลเข้าเอเชียก็น่าจะไหลไปยังประเทศอื่นที่ให้อัตราดอกเบี้ยนโยบายสูงกว่าไทย ทั้งนี้ คาดว่า กนง.น่าจะพิจารณาปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมวันที่ 21 พฤษภาคม 2551 เนื่องจากธปท.มีต้นทุนในการกู้เงินเพื่อมาพยุงอัตราแลกเปลี่ยนทำให้มีต้นทุนสูง จึงต้องมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อลดภาระต้นทุนในการกู้เงินดังกล่าว

นายศักดิ์ชัย พีชะพัฒน์ ผู้ช่วยกรรมการอำนวยการ สายธนกิจลูกค้ารายย่อย ธนาคารทิสโก้ จำกัด (มหาชน) (TISCO) กล่าวว่า การประชุมของ กนง.น่าจะมีการคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 3.25% เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อยังคงน่าเป็นห่วง อีกทั้งอัตราดอกเบี้ยของไทยน่าจะเป็นไปในทิศทางเดียวกับเพื่อนบ้านที่มีการคงอัตราดอกเบี้ยไว้ อย่างไรก็ตาม การดำเนินนโยบายดอกเบี้ยของธนาคารพาณิชย์นั้นจะมีการเพิ่มขึ้นหรือลดลงหรือไม่ ส่วนหนึ่งต้องเป็นไปตามนโยบายของธปท. และจะต้องดูที่สภาพคล่องของแต่ละธนาคาร จึงยังตอบไม่ได้ว่าแต่ละธนาคารจะดำเนินนโยบายดอกเบี้ยอย่างไรหลังจากนี้

นายบรรยง วิเศษมงคลชัย กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทบริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์จำกัด (บสก.) เปิดเผยถึงผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)ในวันที่ 9 เมษายนนี้ว่า ธปท.น่าจะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับ 3.25% เนื่องจากปัจจุบันอัตราเงินเฟ้อของไทยยังอยู่ในระดับสูง และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในอัตราที่เร่งขึ้น จากราคาน้ำมันที่แพงขึ้น อีกทั้งล่าสุดธนาคารโลกหรือเวิลด์แบงก์เตือนว่าอัตราเงินเฟ้อในภูมิภาคเอเชียทรงตัวอยู่ในระดับสูง

"คาดว่าในการประชุมวันนี้ กนง.จะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ในระดับเดิมจากแนวโน้มเงินเฟ้อที่ปรับตัวสูงขึ้น แต่โดยส่วนตัวแล้วต้องการให้กนง.ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% เพื่อเป็นการช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ประสบปัญหาเศรษฐกิจชะลอตัวในช่วงนี้"นายบรรยงกล่าว

ส่วนกำไรสุทธิในไตรมาสแรกของปี 2551ของ บสก. อยู่ในระดับ 370 ล้านบาท ซึ่งเติบโตจากช่วงเดียวกันของปีก่อนประมาณ 20% ขณะที่รายได้อยู่ที่กว่า 2,000 ล้านบาท ถือว่าต่ำกว่าเป้าที่ตั้งไว้ในระดับ 3,000 ล้านบาท เนื่องจากยอดการโอนหลังการขายส่วนหนึ่งจะทยอยรับรู้ในไตรมาสต่อไป แต่ปีนี้ทั้งปียังคาดว่ารายได้จะโตตามเป้าที่ 11,700 ล้านบาท ส่วนกำไรสุทธิของปีนี้คาดว่าจะอยู่ที่ 1,800 ล้านบาท

นอกจากนี้ บสก.ยังตั้งเป้ารับซื้อหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้(NPL)จากธนาคารพาณิชย์ และธนาคารของรัฐรวมทั้งสิ้น 50,000 ล้านบาท โดยล่าสุด ธนาคารนครหลวงไทย จำกัด (มหาชน) (SCIB) และธนาคารไทยธนาคาร จำกัด (มหาชน) (BT)ได้เข้ามาเจรจาเพื่อขาย NPL ให้กับบสก.แล้ว โดยในส่วนของไทยธนาคารจะเริ่มทยอยขายในไตรมาสที่ 2 ปีนี้ ส่วนธนาคารอื่นๆคาดว่าจะทยอยเข้ามาเรื่อยๆ

พร้อมกันนั้น ล่าสุดบสก. เปิดตัวรายการสารคดีชุด “เติมฝัน ปันน้ำใจ โดย บสก.” ร่วมรณรงค์ให้คนไทยแบ่งปันน้ำใจช่วยเหลือผู้ที่ประสบปัญหาความเดือดร้อน หรือภาวะยากจนในสังคม พร้อมออกอากาศตอนแรกในวันที่ 9 เมษายนนี้ ในรายการสยามทูเดย์ ทางสถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5 โดยรายการสารคดีชุด “เติมฝัน ปันน้ำใจ โดย บสก.” มีจำนวนทั้งหมด 18 ตอน ความยาวตอนละ 2 นาที ออกอากาศวันพุธ ในช่วงเวลาของรายการสยามทูเดย์ 18.00 – 19.00 น. ทางสถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5 โดยจะนำเรื่องราวชีวิตของผู้เดือดร้อนในสังคมไทยมาถ่ายทอด พร้อมนำเสนอภาพความช่วยเหลือที่ถูกส่งมอบไปยังผู้เดือดร้อนเหล่านั้น
กำลังโหลดความคิดเห็น