รถร่วม ขสมก.บุกจี้ “คมนาคม” ขอปรับขึ้นค่าโดยสาร หลังราคาน้ำมันขยับเกิน 6 บาท ลั่นหยุดเดินรถ 20 พ.ค.ทันที หากรัฐไม่ยอมให้ขึ้นค่าโดยสาร โดยรถแอร์ต้องการปรับระยะละ 4 บาท ส่วนรถร้อนขอ 1.50 บาท
นายฉัตรชัย ชัยวิเศษ นายกสมาคมพัฒนารถร่วมเอกชน เปิดเผยว่า ในวันนี้ (16 พ.ค.) สมาชิกสมาคมฯ และผู้ประกอบการรถโดยสารร่วมบริการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) นัดชุมนุมที่กระทรวงคมนาคม เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งพิจารณาปรับขึ้นค่าโดยสาร เพื่อลดผลกระทบจากต้นทุนเดินรถจากราคาน้ำมันดีเซลที่ปรับราคาสูงถึงลิตรละ 34.44 บาท จากเดิมที่คิดค่าโดยสารบนฐานราคาน้ำมันดีเซลที่ลิตรละ 27 บาท
ทั้งนี้ ตัวแทนสมาคมฯ จะหารือร่วมกับนายทรงศักดิ์ ทองศรี รมช.คมนาคม หากยังไม่มีความชัดเจนในการปรับขึ้นค่าโดยสาร ในวันที่ 20 พ.ค.นี้ ผู้ประกอบการรถร่วม ขสมก.ทั่วกรุงเทพฯ จะหยุดให้บริการเดินรถ เนื่องจากตามข้อตกลงเมื่อราคาน้ำมันปรับเพิ่มเกินลิตรละ 3 บาท ต้องมีการปรับอัตราค่าโดยสาร 1 ระดับ แต่ปัจจุบันราคาน้ำมันปรับเกินถึงลิตรละ 6 บาทแล้ว ดังนั้นจึงต้องปรับอัตราค่าโดยสารเพิ่มขึ้นไปด้วย
“ที่ผ่านมากระทรวงคมนาคมหลอกผู้ประกอบการมาโดยตลอด ครั้งแรกแจ้งว่าจะปรับค่าโดยสารให้หลังสงกรานต์ แล้วก็เปลี่ยนมาเป็นช่วงต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา แต่จนถึงปัจจุบันยังไม่มีความคืบหน้า ดังนั้นหากการประชุมคณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบกกลางวันที่ 20 พ.ค.นี้ไม่มีการอนุมัติปรับขึ้นค่าโดยสาร เราจะหยุดให้บริการแน่นอน” นายฉัตรชัย กล่าว
นายกสมาคมพัฒนารถร่วมเอกชน กล่าวว่า ตามข้อตกลงเมื่อราคาน้ำมันเพิ่มขึ้นลิตรละ 3 บาท จะมีการปรับอัตราค่าโดยสารเพิ่มขึ้นสำหรับรถปรับอากาศระยะละ 2 บาท หากน้ำมันปรับเพิ่มลิตรละ 6 บาท อัตราค่าโดยสารก็น่าจะปรับขึ้นระยะละ 4 บาท ส่วนรถร้อนต้องปรับเพิ่มอย่างต่ำ 1.50 บาทตลอดเส้นทาง
“หากกระทรวงคมนาคมอนุมัติให้เพียงระยะละ 1 บาท ผู้ประกอบการคงรับไม่ได้ และคงเลือกหยุดให้บริการเดินดีกว่าทนแบกรับภาระขาดทุน” นายฉัตรชัย กล่าว
