xs
xsm
sm
md
lg

ใบโพธิ์-รวงข้าว ลุยชิงเค้กสินเชื่อบ้าน 1.45 ล้านลบ.คาดตลาดบูม 12%

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


SCB เผย 4 เดือนแรกปีนี้ สินเชื่อบ้านโต 1.5 หมื่นลบ. ชี้เดือน เม.ย.โตโดดเด่น KBANK ตั้งเป้าผนึก บจ.รายใหญ่ ตั้งเป้าแบ่งเค้ก 16% ขอพอร์ตทั้งระบบ 1.45 ล้านล้านบาท พร้อมคาดการณ์อสังหาฯ ปีนี้ โตได้ถึง 12%

วันนี้(9 พ.ค.) นายรุ่งเรือง สุขเกิดกิจพิบูลย์ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ สายผลิตภัณฑ์สินเชื่อบุคคล ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB เปิดเผยว่า ในช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้ ปล่อยสินเชื่อบ้านใหม่ไปแล้ว 1.5 หมื่นล้านบาท ซึ่งถือว่าเป็นการเติบโตที่ดี โดยสินเชื่อดังกล่าวมีการเติบโตอย่างโดดเด่นในช่วงเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา เนื่องจากประชาชนส่วนหนึ่งที่ต้องการซื้อบ้านในช่วงเดือน มี.ค. ได้เลื่อนระยะเวลามาเป็นเดือน เม.ย. เนื่องจากเป็นเดือนที่รัฐบาลเริ่มใช้มาตรการกระตุ้นภาคอสังหาฯ

อย่างไรก็ตาม มองว่าในปีนี้ ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคถือว่าดีขึ้นจากปีก่อน โดยดูจากสัญญาณการซื้อบ้านที่ดีขึ้น

สำหรับในช่วงเปิดเทอมใหม่ ยอดขอสินเชื่อบุคคลและยอดใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตจะมีการเติบโตสูงขึ้นกว่าช่วงปกติประมาณ 5-10% ซึ่งถือว่าใกล้เคียงกับทุกๆปี

ทั้งนี้ โดยปกติยอดใช้จ่ายบัตรเครดิตจะเฉลี่ยต่อเดือนอยู่ประมาณ 7,500 บาทต่อคนต่อเดือน แต่ในช่วงเปิดเทอมก็จะเพิ่มขึ้น 5-10% แนะรัฐจัดสินเชื่อผ่อนปรน ดบ.ต่ำ 1% เพิ่มกำลังซื้อ

นายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สายงานธุรกิจลูกค้าบุคคลและเครือข่ายบริการ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK กล่าวถึงแผนดำเนินงานสำหรับช่องทางการขยายสินเชื่อที่อยู่อาศัยของธนาคารในปีนี้ ธนาคารก็ยังคงเน้นเหมือนช่วงปีที่ผ่านมา ทั้งจากผ่านทางสาขาธนาคารที่มีมากกว่า 600 สาขาทั่วประเทศ รวมไปถึงจากทีมขายของธนาคารที่จัดตั้งขึ้นมาเฉพาะมากถึง 500 ราย

นองจากนี้ ยังมีระบบอืนเตอร์เน็ตแบงก์กิ้งของธนาคาร ที่เป็นอีกช่องทางหนึ่งที่ลูกค้าให้ความสนใจมาก เพราะลูกค้าสามารถเข้าถึงแหล่งข้อมูลสินเชื่อที่อยู่อาศัยได้ง่ายมากขึ้น ทั้งนี้ ธนาคารยังมีการว่าจ้างบริษัทเอกชนเข้ามารับไปจำหน่ายให้ด้วย โดยธนาคารจะคิดเงินให้ในรูปของค่านายหน้า (ค่าคอมมิชชั่น) เป็นหลัก

ทั้งนี้ สำหรับช่องทางการขยายสินเชื่อที่อยู่อาศัยต่างๆที่ธนาคารนำมาใช้นั้น นับว่าเป็นช่องทางที่เพียงพอและเข้าถึงลูกค้าได้ครอบคลุมมากที่เดียว เพื่อให้สอดคล้องกับเป้าหมายในการบุกตลาดสินเชื่อที่อยู่อาศัยอย่างต่อเนื่อง

นายชาติชาย กล่าวต่ออีกว่า สำหรับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ทั้งระบบ ปีนี้ เติบโตสูงประมาณ 12% โยการเติบโตของธุรกิจอสังหาในช่วงปี 2550 เติบโตอยู่ที่ระดับ 9% เท่านั้น ทั้งนี้ ธนาคารตั้งเป้าหมายที่จะเติบโตในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่ระดับ 16% ของพอร์ตธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ทั้งระบบที่ 1.45 ล้านล้านบาท

"ปีนี้ ธนาคารยังคงสัดส่วนการปล่อยสินเชื่อที่อยู่อาศัยร่วมกับโครงการบ้านของบริษัทรายใหญ่ที่ได้จดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ในสัดส่วนถึง 50% ของพอทสินเชื่อที่อยู่อาศัยของธนาคาร ส่วนอีก 50% ที่เหลือก็จะเป็นการร่วมมือกับโครงการบ้านทั่วๆไปที่ไม่ได้จดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ฯ

ทั้งนี้ ยอมรับว่าการร่วมมือกับโครงการบ้านของบริษัทจดทะเบียนนั้น นับว่ายอดปล่อยสินเชื่อที่อยู่อาศัยได้รับการตอบรับดีจากลูกค้า ดังนั้น ธนาคารจึงคงสัดส่วนการร่วมมือดังกล่าวไว้ในระดับนี้ เพราะเชื่อว่าเป็นระดับที่เหมาะสมที่สุดในการปล่อยสินเชื่อที่อยู่อาศัยของธนาคาร

อย่างไรก็ตาม การร่วมมือดังกล่าวกับบริษัทจดทะเบียน ส่วนใหญ่ธนาคารจะเสนอเงื่อนไขพิเศษให้ โดยเฉพาะในเรื่องของอัตราดอกเบี้ยพิเศษ ที่ธนาคารใช้เป็นจุดเด่นในการดึงดูดความสนใจทั้งในส่วนของบริษัทที่ร่วมมือด้วยและลูกค้าที่จะเข้ามาขอสินเชื่อของธนาคารด้วย

“ในช่วงที่ผ่านมาการร่วมมือกับบริษัทบ้านที่เป็นบจ.นั้น นับว่าได้รับผลตอบรับกลับมาดีมาก ดังนั้น ธนาคารจึงมองว่าสัดส่วนการร่วมมือระหว่างธนาคารกับบริษัทบ้านที่เป็นบจ.และระหว่างธนาคารกับฐริษัททั่วไปที่ไม่ใช่บจ.ที่ระดับ 50:50 สำหรับบริษัท บจ.ที่ธนาคารร่วมมืออด้วยปัจจุบันมีอยู่ประมาณ 20 กว่าบริษัทจาก 30 กว่าบริษัทที่จดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรรัพย์ ฯ

ทั้งนี้ การร่วมมือต่างๆระหว่างธนาคารกับบริษัทที่เข้ามา จะมีการคัดกรองอย่างเข็มงวด โดยจะเน้นในเรื่องของผลประกอบการ ฐานะทางการเงิน การบริหารจัดการที่ดี และมีประสบการณ์การทำงานดี เป็นหลัก

"แบงก์พาณิชย์ อยากให้รัฐบาลมีมาตรการกระตุ้นภาคอสังหาฯ โดยการมีวงเงินสนับสนุนสินเชื่อผ่อนปรน คิดอัตราดอกเบี้ยต่ำ เนื่องจากหากรัฐบาลช่วยเหลือประชาชนโดยลดอัตราดอกเบี้ยจะช่วยให้ประชาชนมีกำลังซื้อบ้านได้มากกว่าลดค่าธรรมเนียมการโอน"

หากรัฐบาลช่วยลดอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อบ้านให้กับประชาชน 1% จะช่วยลดภาระการผ่อนบ้านให้กับประชาชนได้ 6-7%
กำลังโหลดความคิดเห็น