xs
xsm
sm
md
lg

กสิกรฯ คาดเปิดเทอมเงินสะพัด 5 หมื่นล. ผู้ปกครองรัดเข็มขัด-ชุดนักเรียนแข่งเดือด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ศูนย์วิจัยกสิกรฯ คาดเงินสะพัดเปิดเทอมปีนี้ 5 หมื่นล.ใกล้เคียงปีก่อน ผลสำรวจพบว่า ผู้ปกครองเน้นประหยัดมากขึ้น ส่วนด้านผู้ประกอบการต้องปรับตัว เพราะอาจต้องเผชิญการแข่งขันทั้งด้านต้นทุนและราคามากขึ้น

วันนี้(9 พ.ค.) บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด เผยงานงานภาวะเศรษฐกิจไทยช่วงเปิดภาคเรียน โดยสำรวจค่าใช้จ่ายในช่วงเปิดเทอมทั้งระบบ ตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาลถึงระดับอุดมศึกษาเช่นเดียวกับทุกปีที่ผ่านมา โดยคาดว่าจะเกิดเงินสะพัดสูงถึง 50,000 ล้านบาท เมื่อเทียบกับในช่วงเปิดเทอมปี 2550 แล้วใกล้เคียงกัน โดยบรรดาผู้ปกครองมีการปรับตัวเพื่อเตรียมรับปัญหาในช่วงเปิดเทอมแยกออกเป็น 2 กลุ่มคือ กลุ่มแรกจะหันมาซื้อชุดนักเรียนและอุปกรณ์การเรียนเร็วขึ้น โดยเลือกซื้อตั้งแต่ช่วงปลายเดือน เม.ย. ซึ่งเป็นช่วงที่บรรดาผู้ประกอบการให้ส่วนลดมากที่สุดถึงร้อยละ 20-30 และยังได้รับความสะดวกในการเลือกซื้อ เนื่องจากลูกค้ายังไม่แน่นเหมือนช่วงใกล้เปิดเทอม

ส่วนผู้ปกครองอีกกลุ่มหนึ่งจะเน้นประหยัด ลดปริมาณในการซื้อชุดนักเรียนและอุปกรณ์การเรียนและตัดสินใจซื้อในช่วงใกล้เปิดเทอม หรือบางส่วนเน้นการซื้อเท่าที่จำเป็นและเลื่อนการซื้อไปในช่วงเทอมสองแทน เนื่องจากต้องเกลี่ยค่าใช้จ่ายรายเดือนไม่ให้เกิดปัญหาเงินขาดมือ

ค่าใช้จ่ายในช่วงเปิดเทอมปี 2551 ในส่วนที่ลดลงเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ได้แก่ชุดนักเรียนและอุปกรณ์การเรียน ซึ่งผู้ปกครองจะเน้นประหยัด และใช้จ่ายเท่าที่จำเป็นเท่านั้น ในขณะที่ค่าใช้จ่ายส่วนที่เพิ่มขึ้น ได้แก่ค่าใช้จ่ายสมทบ โดยสถานศึกษาบางแห่งเรียกเก็บค่าใช้จ่ายสมทบเพิ่มขึ้น และผู้ปกครองจำนวนไม่น้อยส่งบุตร/หลานเข้าศึกษาในหลักสูตรพิเศษ เช่น หลักสูตรการเรียนสองภาษา และหลักสูตรนานาชาติ เป็นต้น โดยยินดีเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น แม้ว่าค่าใช้จ่ายของหลักสูตรเหล่านี้จะสูงกว่าหลักสูตรปกติประมาณ 2-3 เท่าตัวก็ตาม เนื่องจากถือว่าเป็นการลงทุนเพื่ออนาคตที่ดีของบุตรหลาน

สำหรับในส่วนของผู้ประกอบการที่ผลิตสินค้าที่เกี่ยวข้องกับช่วงเปิดเทอมในปี 2551 ก็มีการเร่งปรับกลยุทธ์ทางการตลาดกันอย่างมาก โดยเฉพาะผู้ผลิตเครื่องแบบนักเรียนและรองเท้านักเรียน ทั้งนี้เนื่องจากผู้ปกครองเน้นประหยัด และรัดเข็มขัดให้การใช้จ่ายได้ประโยชน์สูงสุดไม่ใช้จ่ายฟุ่มเฟือย แต่ผู้ประกอบการอยู่ท่ามกลางภาวะการแข่งขันที่รุนแรง

ดังนั้น ผู้ประกอบการจึงต้องปรับกลยุทธ์เพื่อรักษาและช่วงชิงส่วนแบ่งตลาด โดยเฉพาะการขยายช่องทางการจำหน่ายสินค้า และการส่งเสริมการจำหน่ายสินค้าในรูปแบบต่างๆ เพื่อจูงใจบรรดาผู้ปกครองให้เลือกซื้อสินค้ามากยิ่งขึ้นนั่นเอง

**ห้างฯ จัดโปรโมชั่น เร่งดึงเงินลูกค้า

ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศในการหาซื้อชุดนักเรียนของผู้ปกครองในห้างสรรพสินค้าชื่อดังหลายแห่งในกรุงเทพฯ พบว่ามีการจัดโปรโมชั่นกันคึกคัก บางแห่งมีมุมธงฟ้าราคาประหยัด โดยมีชุดนักเรียน ชุดลูกเสือเนตรนารี ยุวกาชาด หลากหลายยี่ห้อเข้าร่วมในการจัดโครงการ อาทิ ยี่ห้อสามพราน , ชัยพฤกษ์ , แพนด้า , น้อมจิตร ซึ่งมีราคาตั้งแต่ 65 บาท เป็นเสื้อขนาดเล็กสำหรับชั้นอนุบาลและชั้นประถมฯ ตลอดไปจนถึงระดับมัธยมศึกษาอยู่ที่ประมาณ 129 บาท

ทั้งนี้ ราคาก็ขึ้นอยู่กับคุณภาพและขนาด และบางรายการหากซื้อ 2 ชิ้น จะได้ในราคาถูก รวมถึงกระเป๋า รองเท้า ก็มีการลดราคาเช่นกัน ซึ่งมีผู้ปกครองนักเรียนมาเดินเลือกซื้อหากันไม่ขาดสาย โดยคาดว่ารายการสินค้าราคาถูกรับเปิดเทอมในห้างสรรพสินค้าจะมีต่อเนื่องไปจนถึงวันที่ 14 พ.ค.นี้

**โรงจำนำ กทม. จัดโปรโมชั่น คูปอง รับเปิดเทอม

นายบุญเลิศ พัฒนารุ่งอโนทัย ผู้อำนวยการสำนักงานสถานธนานุบาล (โรงจำนำ) กทม. เปิดเผยว่า ในช่วงวันที่ 1-31 พ.ค.นี้ สถานธนานุบาลกรุงเทพมหานคร ได้จัดรายการมอบคูปองเงินสดมูลค่าใบละ 100 บาท เพื่อสนับสนุนการศึกษาสำหรับผู้ใช้บริการตามโปรโมชั่นลดดอกเบี้ยช่วงเปิดเทอม ที่สถานธนานุบาลกรุงเทพมหานคร ทั้ง 20 สาขา เพื่อนำไปใช้ซื้อสินค้าที่ร้านศึกษาภัณฑ์พาณิชย์ทั้ง 9 สาขา โดยต้องเป็นผู้ใช้บริการโปรโมชั่นลดดอกเบี้ยจำนำกรณีพิเศษ

สำหรับนักเรียน นิสิต นักศึกษา และผู้ปกครองที่มีเอกสารประกอบพร้อมแลกได้ท่านละ 1 ใบเท่านั้น ซึ่งตามโปรโมชั่นลดดอกเบี้ย ที่จัดอยู่ในขณะนี้ได้รับความสนใจจากประชาชนจำนวนมาก เพราะดอกเบี้ยต่ำ คือ สำหรับลูกค้า ที่จำนำไม่เกิน 5,000 บาท คิดดอกเบี้ย 0.75 บาทต่อเดือน

ส่วนลูกค้าที่จำนำเกิน 5,000 บาท คิดดอกเบี้ย 0.90 บาทต่อเดือน สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่โรงรับจำนำ กทม.ทั้ง 20 แห่ง หรือสำนักงานสถานธนานุบาลกรุงเทพมหานคร โทร. 0-2158-0042-4 เวลา 08.00-16.00 น.
กำลังโหลดความคิดเห็น