"ยรรยง" เผย สหประกันชีวิต รอดตาย เพิ่มทุนครบ 500 ล้านบาท และมีเงินกองทุนครบ 188 ล้านบาทแล้ว เชื่อฐานะมั่นคงขึ้น และเปิดทำธุรกิจตามปกติอย่างช้าเดือนมิ.ย.นี้
นายยรรยง พวงราช อธิบดีกรมการค้าภายใน ในฐานะประธานคณะกรรมการควบคุมกิจการบริษัท สหประกันชีวิต จำกัด เปิดเผยถึงความคืบหน้าการฟื้นฟูกิจการสหประกันชีวิตว่า ขณะนี้ บริษัทได้เพิ่มทุนสำเร็จแล้ว โดยผู้ถือหุ้นรายใหม่ คือ สหกรณ์เครดิตยูเนียน คลองจั่น จำกัด เข้าซื้อหุ้นจำนวน 26.52 ล้านหุ้นๆ ละ 10 บาท รวมเป็นมูลค่าประมาณ 265 ล้านบาท ทำให้บริษัทสามารถเพิ่มทุนได้ 500 ล้านบาทตามเป้าหมาย และจะนำเงินส่วนหนึ่งไปเติมในกองทุนตามสัดส่วนที่กฎหมายกำหนด หรือ 188 ล้านบาท
“คณะกรรมการควบคุมกิจการ ได้อนุมัติการซื้อหุ้นเพิ่มหุ้นของสหประกันชีวิตแล้ว ซึ่งจะทำให้มีเงินในกองทุน 188 ล้านบาท จากเดิมที่ฐานะทางการเงินไม่มั่นคง และขาดเงินกองทุนประมาณ 127 ล้านบาท คาดว่า ภายในเดือนพ.ค.นี้ คณะกรรมการบริหารใหม่ของบริษัทจะส่งแผนดำเนินธุรกิจมาให้เราพิจารณา เมื่อเราเห็นว่า แผนผ่านแล้วก็จะเลิกควบคุมกิจการทันที และอนุมัติให้ดำเนินธุรกิจตามปกติได้ คาดว่า อย่างช้าภายในเดือนมิ.ย.นี้” นายยรรยงกล่าว
นายยรรยง กล่าวต่อว่า บริษัทจะสามารถดำเนินกิจการต่อไปได้อย่างมั่นคงแน่นอน เพราะมีการเพิ่มทุนแล้วเป็น 500 ล้านบาท มีเงินกองทุน 188 ล้านบาท และยังมีฐานลูกค้าที่เป็นสหกรณ์ต่างๆ ทั่วประเทศถึง 2,217 แห่ง มีจำนวนสมาชิกกว่า 6 ล้านคน ปัจจุบัน บริษัทมีลูกค้าประมาณ 60,000 ราย แบ่งเป็นประกันชีวิตบุคคล 10,000 ราย และประกันชีวิตกลุ่ม 50,000 ราย ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ได้แต่งตั้งคณะกรรมการควบคุมกิจการบริษัท ตั้งแต่วันที่ 26 มี.ค.50 เพราะมีฐานะทางการเงินไม่มั่นคง ขาดเงินกองทุน 127 ล้านบาท ส่งผลให้บริษัทต้องหยุดการออกกรมธรรม์ใหม่ๆ ทันที และต้องดำเนินการขายหุ้นเพิ่มทุนเพื่อนำเงินมาเติมเข้าในกองทุนให้ครบตามกำหนด
นายยรรยง พวงราช อธิบดีกรมการค้าภายใน ในฐานะประธานคณะกรรมการควบคุมกิจการบริษัท สหประกันชีวิต จำกัด เปิดเผยถึงความคืบหน้าการฟื้นฟูกิจการสหประกันชีวิตว่า ขณะนี้ บริษัทได้เพิ่มทุนสำเร็จแล้ว โดยผู้ถือหุ้นรายใหม่ คือ สหกรณ์เครดิตยูเนียน คลองจั่น จำกัด เข้าซื้อหุ้นจำนวน 26.52 ล้านหุ้นๆ ละ 10 บาท รวมเป็นมูลค่าประมาณ 265 ล้านบาท ทำให้บริษัทสามารถเพิ่มทุนได้ 500 ล้านบาทตามเป้าหมาย และจะนำเงินส่วนหนึ่งไปเติมในกองทุนตามสัดส่วนที่กฎหมายกำหนด หรือ 188 ล้านบาท
“คณะกรรมการควบคุมกิจการ ได้อนุมัติการซื้อหุ้นเพิ่มหุ้นของสหประกันชีวิตแล้ว ซึ่งจะทำให้มีเงินในกองทุน 188 ล้านบาท จากเดิมที่ฐานะทางการเงินไม่มั่นคง และขาดเงินกองทุนประมาณ 127 ล้านบาท คาดว่า ภายในเดือนพ.ค.นี้ คณะกรรมการบริหารใหม่ของบริษัทจะส่งแผนดำเนินธุรกิจมาให้เราพิจารณา เมื่อเราเห็นว่า แผนผ่านแล้วก็จะเลิกควบคุมกิจการทันที และอนุมัติให้ดำเนินธุรกิจตามปกติได้ คาดว่า อย่างช้าภายในเดือนมิ.ย.นี้” นายยรรยงกล่าว
นายยรรยง กล่าวต่อว่า บริษัทจะสามารถดำเนินกิจการต่อไปได้อย่างมั่นคงแน่นอน เพราะมีการเพิ่มทุนแล้วเป็น 500 ล้านบาท มีเงินกองทุน 188 ล้านบาท และยังมีฐานลูกค้าที่เป็นสหกรณ์ต่างๆ ทั่วประเทศถึง 2,217 แห่ง มีจำนวนสมาชิกกว่า 6 ล้านคน ปัจจุบัน บริษัทมีลูกค้าประมาณ 60,000 ราย แบ่งเป็นประกันชีวิตบุคคล 10,000 ราย และประกันชีวิตกลุ่ม 50,000 ราย ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ได้แต่งตั้งคณะกรรมการควบคุมกิจการบริษัท ตั้งแต่วันที่ 26 มี.ค.50 เพราะมีฐานะทางการเงินไม่มั่นคง ขาดเงินกองทุน 127 ล้านบาท ส่งผลให้บริษัทต้องหยุดการออกกรมธรรม์ใหม่ๆ ทันที และต้องดำเนินการขายหุ้นเพิ่มทุนเพื่อนำเงินมาเติมเข้าในกองทุนให้ครบตามกำหนด
