คลังคาดปีงบ 51 เก็บรายได้รัฐใกล้เป้าหมาย แต่ยังจับตาน้ำมัน-บาท-ศก.โลก อย่างใกล้ชิด
วันนี้ (8 ม.ค.) นายสมชัย สัจจพงษ์ ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการคลัง สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง กล่าวว่า จากผลการจัดเก็บรายได้รัฐบาลในช่วงไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 2551 ที่ยังสูงกว่าเป้าหมาย 2,556 ล้านบาท และทิศทางเศรษฐกิจที่คาดว่า จะดีขึ้นภายหลังจากการมีรัฐบาล จึงคาดว่าทั้งปีงบประมาณ 2551 รัฐบาลจะจัดเก็บรายได้ใกล้เคียงกับเป้าหมาย 1.495 ล้านล้านบาท ทั้งนี้ ยังมีปัจจัยเสี่ยงที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิดต่อไป เช่น ราคาน้ำมัน ค่าเงินบาท ภาวะเศรษฐกิจโลก ฯลฯ
ในไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 2551 (ตุลาคม-ธันวาคม 2550) รัฐบาลจัดเก็บรายได้สุทธิ 324,569 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการตามเอกสารงบประมาณ 2,556 ล้านบาท หรือร้อยละ 0.8 (สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 8.0) เป็นผลจากการจัดเก็บของ 3 กรมในสังกัดกระทรวงการคลังที่จัดเก็บได้สูงกว่าเป้าหมาย
สำหรับผลการจัดเก็บรายได้รัฐบาลประจำเดือนธันวาคม 2550 ต่ำกว่าประมาณการตามเอกสารงบประมาณ 5,577 ล้านบาท โดยเก็บรายได้สุทธิ 93,210 ล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการร้อยละ 5.6 (ต่ำกว่าเดือนเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 0.7) เนื่องจากจัดเก็บภาษีสรรพสามิตรถยนต์ได้ต่ำกว่าประมาณการ 1,588 ล้านบาท หรือร้อยละ 27.7
ทั้งนี้ เป็นผลจากการปรับลดอัตราภาษีสรรพสามิตรถยนต์นั่งทุกประเภทที่สามารถใช้เชื้อเพลิงประเภทเอทานอลเป็นส่วนผสมกับน้ำมันเชื้อเพลิงได้ไม่น้อยกว่าร้อยละ 20 (E20) ลงร้อยละ 5 โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2551 ทำให้รถยนต์นั่งประเภทดังกล่าวมีราคาลดลง ส่งผลให้ประชาชนชะลอการซื้อรถยนต์นั่งเพื่อรอรถยนต์ในราคาใหม่
นอกจากนี้ รัฐวิสาหกิจและส่วนราชการอื่นยังนำส่งรายได้ต่ำกว่าประมาณการที่ตั้งไว้ 2,871 และ 1,080 ล้านบาท หรือร้อยละ 58.7 และ 34.0 ตามลำดับ
อย่างไรก็ดี ภาษีเงินได้นิติบุคคลจัดเก็บได้สูงกว่าประมาณการ 1,820 ล้านบาทหรือร้อยละ 16.0 เป็นผลจากบริษัทต่างชาติส่งค่าบริการและจำหน่ายกำไรไปต่างประเทศมากขึ้น เนื่องจากได้รับประโยชน์มากขึ้นจากการที่ค่าเงินบาทแข็งค่า
วันนี้ (8 ม.ค.) นายสมชัย สัจจพงษ์ ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการคลัง สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง กล่าวว่า จากผลการจัดเก็บรายได้รัฐบาลในช่วงไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 2551 ที่ยังสูงกว่าเป้าหมาย 2,556 ล้านบาท และทิศทางเศรษฐกิจที่คาดว่า จะดีขึ้นภายหลังจากการมีรัฐบาล จึงคาดว่าทั้งปีงบประมาณ 2551 รัฐบาลจะจัดเก็บรายได้ใกล้เคียงกับเป้าหมาย 1.495 ล้านล้านบาท ทั้งนี้ ยังมีปัจจัยเสี่ยงที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิดต่อไป เช่น ราคาน้ำมัน ค่าเงินบาท ภาวะเศรษฐกิจโลก ฯลฯ
ในไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 2551 (ตุลาคม-ธันวาคม 2550) รัฐบาลจัดเก็บรายได้สุทธิ 324,569 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการตามเอกสารงบประมาณ 2,556 ล้านบาท หรือร้อยละ 0.8 (สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 8.0) เป็นผลจากการจัดเก็บของ 3 กรมในสังกัดกระทรวงการคลังที่จัดเก็บได้สูงกว่าเป้าหมาย
สำหรับผลการจัดเก็บรายได้รัฐบาลประจำเดือนธันวาคม 2550 ต่ำกว่าประมาณการตามเอกสารงบประมาณ 5,577 ล้านบาท โดยเก็บรายได้สุทธิ 93,210 ล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการร้อยละ 5.6 (ต่ำกว่าเดือนเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 0.7) เนื่องจากจัดเก็บภาษีสรรพสามิตรถยนต์ได้ต่ำกว่าประมาณการ 1,588 ล้านบาท หรือร้อยละ 27.7
ทั้งนี้ เป็นผลจากการปรับลดอัตราภาษีสรรพสามิตรถยนต์นั่งทุกประเภทที่สามารถใช้เชื้อเพลิงประเภทเอทานอลเป็นส่วนผสมกับน้ำมันเชื้อเพลิงได้ไม่น้อยกว่าร้อยละ 20 (E20) ลงร้อยละ 5 โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2551 ทำให้รถยนต์นั่งประเภทดังกล่าวมีราคาลดลง ส่งผลให้ประชาชนชะลอการซื้อรถยนต์นั่งเพื่อรอรถยนต์ในราคาใหม่
นอกจากนี้ รัฐวิสาหกิจและส่วนราชการอื่นยังนำส่งรายได้ต่ำกว่าประมาณการที่ตั้งไว้ 2,871 และ 1,080 ล้านบาท หรือร้อยละ 58.7 และ 34.0 ตามลำดับ
อย่างไรก็ดี ภาษีเงินได้นิติบุคคลจัดเก็บได้สูงกว่าประมาณการ 1,820 ล้านบาทหรือร้อยละ 16.0 เป็นผลจากบริษัทต่างชาติส่งค่าบริการและจำหน่ายกำไรไปต่างประเทศมากขึ้น เนื่องจากได้รับประโยชน์มากขึ้นจากการที่ค่าเงินบาทแข็งค่า
