xs
xsm
sm
md
lg

“เทสโก้” เดือด ฟ้อง บก.-คอลัมนิสต์ กรุงเทพธุรกิจ พ่วง กก.หอการค้าเรียก 1,200 ล้าน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“เทสโก้ โลตัส” ฟ้อง บก.ข่าว และคอลัมนิสต์ “กรุงเทพธุรกิจ” เรียกค่าเสียหาย 200 ล้าน พ่วง กก.หอการค้าไทยที่ให้สัมภาษณ์ “ผู้จัดการรายวัน” เรียกอีก 1,000 ล้านบาท เจาะจงเล่นงานตัวบุคคลทั้ง 3 ราย ไม่แตะองค์กรต้นสังกัด บรรณาธิการ “กรุงเทพธุรกิจ” แถลงยันต่อสู้คดีถึงที่สุด ย้ำปฏิบัติหน้าที่โดยสุจริต ตามกรอบวิชาชีพและจรรยาบรรณ ฝ่ายกฎหมายเครือเนชั่น เผยเป็นปรากฏการณ์ครั้งแรกในรอบ 20 ปี ที่จงใจฟ้องถึงตัวผู้เขียน

การฟ้องคดีที่ส่งผลสะเทือนวงการสื่อมวลชนในครั้งนี้ เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 19 มี.ค.2551 โดยบริษัท เอก-ชัย ดีสทริบิวชั่น ซิสเทม จำกัด เจ้าของธุรกิจค้าปลีก เทสโก้ โลตัส ได้เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นางนงค์นาถ ห่านวิไล บรรณาธิการข่าวธุรกิจการตลาด หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ เป็นคดีหมายเลยดำที่ พ3/2 /2551 ต่อศาลจังหวัดมีนบุรี ในความผิดฐานละเมิด หมิ่นประมาท ทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง โดยเรียกค่าเสียหายเป็นจำนวนเงินถึง 100 ล้านบาท

คำฟ้องสรุปว่า เมื่อวันที่ 29 ม.ค.2551 จำเลยได้เขียนข่าวในหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ ปีที่ 21 ฉบับที่ 7068 วันอังคารที่ 29 ม.ค.2551 หน้า 28 คอลัมน์สังคมธุรกิจ ใช้นามปากกาว่า “คุณแอ๊ด” ตีพิมพ์ข้อความทำนองว่า ผู้บริหารค่ายเทสโก้โลตัส เตรียมทุ่มงบประมาณขยายสาขาทุกโมเดล รวม 130 สาขา เฉลี่ยเปิดสาขาใหม่ทุกๆ 3 วัน ถือเป็นการกระทำที่ไม่รักคนไทย ซึ่งเป็นการเขียนข้อความที่ไม่เป็นความจริง จงใจทำให้โจทก์เสื่อมเสียชื่อเสียงและภาพลักษณ์ในทางธุรกิจและสังคม

ก่อนหน้านี้ บริษัท เอก-ชัย ดีสทริบิวชั่น ซิสเทม จำกัด ยังได้เป็นโจทก์ยื่นฟ้องคดีแพ่ง นายกมล กมลตระกูล คอลัมนิสต์ของหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ ที่ศาลจังหวัดพระโขนง เป็นคดีหมายเลขดำที่ 2327/2551 ในความผิดฐานละเมิด ทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง เรียกค่าเสียหายจำนวน 100 ล้านบาท

โดยคำฟ้องอ้างถึงบทความเรื่อง “พ.ร.บ.ค้าปลีก กว่าถั่วจะสุกงาก็ไหม้” ในคอลัมน์ “ภูมิคุ้มกันคอร์รัปชัน” ซึ่งตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ ปีที่ 21 ฉบับที่ 6977 วันจันทร์ที่ 29 ต.ค.2550 ระบุทำนองว่า การที่เทสโก้ไต่ทะยานขึ้นเป็นบริษัทที่ร่ำรวยด้วยยอดขายรวม 79,978 ล้านดอลลาร์ เป็นยอดขายที่มาจากประเทศไทยถึงร้อยละ 37 ด้วยเทคนิคการทำบัญชีที่ซับซ้อน ไม่ต้องเสียภาษีให้ท้องถิ่น เพราะยอดขายสูง แต่กลับทำตัวเลขกำไรต่ำ ซึ่งข้อเขียนทั้งหมดไม่เป็นความจริง

นอกจากนั้น เมื่อวันที่ 26 พ.ย.2550 เทสโก้ โลตัส ยังเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง ว่าที่ร้อยเอกจิตร์ ศิรธรานนท์ หนึ่งในคณะกรรมการหอการค้าไทย ต่อศาลอาญา ในความผิดฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณาด้วยเอกสาร และละเมิด โดยอ้างถึงการให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์ผู้จัดการรายวัน และการบรรยายในงานสัมมนาเพื่อเปิดศูนย์ประสานงานผู้ค้าปลีกและผู้ประกอบอาชีพอิสระของคนไทย จัดโดยสมาพันธ์คนไทยต้านค้าปลีกต่างชาติ ที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน เมื่อวันที่ 26 ก.ย.2550 โดยคดีนี้ เทสโก้ โลตัส เรียกค่าเสียหายเป็นเงินถึง 1,000 ล้านบาท

บก.บห.หนุนสู้คดี ระบุเจตนาข่มขู่คุกคามสื่อ

นางสาวดวงกมล โชตะนา บรรณาธิการบริหาร หนังสือพิมพ์ “กรุงเทพธุรกิจ” กล่าวว่า ในฐานะบรรณาธิการบริหารหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ และผู้บริหาร บริษัท เนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) พร้อมให้การสนับสนุน นงค์นาถ ห่านวิไล ในการต่อสู้ดคีอย่างเต็มที่ เพราะการฟ้องร้องของบริษัท เอก-ชัย ดีสทริบิวชั่น ซิสเทม จำกัด เจ้าของธุรกิจค้าปลีก เทสโก้ โลตัส เป็นการข่มขู่ คุกคาม เพื่อหยุดการทำหน้าที่สื่อมวลชนในการรายงานข่าว ซึ่งเป็นการทำหน้าที่อย่างสุจริตตามมาตรฐานวิชาชีพและกรอบจรรยาบรรณ ที่เครือเนชั่นยึดถือตลอดมา

“คุณนงค์นาถ ทำงานกับเรามา 20 ปี ได้ปฏิบัติหน้าที่ในฐานะผู้สื่อข่าวและบรรณาธิการข่าว ตามกรอบจรรยาบรรณของวิชาชีพมาอย่างต่อเนื่อง การนำเสนอข่าวและบทวิจารณ์ต่างๆ ผ่านสื่อในเครือเนชั่น ได้ยึดหลักการของสื่อมวลชนที่ดีมาตลอด พฤติกรรมของ เทสโก้ โลตัส ที่ฟ้องร้องและเรียกค่าเสียหายเป็นจำนวนมากถึง 100 ล้านบาท จึงเป็นเรื่องไม่สมเหตุสมผล และเป็นการแสดงพฤติกรรมที่ต้องการให้หยุดการทำหน้าที่ของผู้สื่อข่าว และต้องการหยุดยั้งการวิพากษ์วิจารณ์ ตามหลักวิชาชีพ ซึ่งได้แสดงความเห็นโดยสุจริตปกป้องผลประโยชน์ของส่วนรวม” นางสาวดวงกมล กล่าวและว่า เป็นที่น่าเสียดายว่า เทสโก้ โลตัส ไม่ส่งเสริมบรรยากาศการวิพากษ์วิจารณ์ในการทำงานของสื่อมวลชนโดยเสรี ในสังคมประชาธิปไตย

นอกจากนี้ การที่ บริษัท เอก-ชัย ดีสทริบิวชั่น ซิสเทม จำกัด ได้มีการฟ้องร้องนายกมล กมลตระกูล ซึ่งเป็นนักวิชาการและคอลัมนิสต์ ของหนังสือพิมพ์ “กรุงเทพธุรกิจ” โดยฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายเป็นจำนวนเงินสูงถึง 100 ล้านบาทเช่นกัน หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ ยินดีให้การสนับสนุนในการต่อสู้คดีดังกล่าว เนื่องจาก นายกมล กมลตระกูล ปฏิบัติหน้าที่เป็นคอลัมนิสต์ตามกรอบและหลักจริยธรรมเพื่อประโยชน์ของส่วนรวม

นางนงค์นาถ ห่านวิไล ผู้เขียนคอลัมน์สังคมธุรกิจผู้ถูกฟ้องร้อง กล่าวว่า ที่ผ่านมาได้ติดตามการดำเนินธุรกิจของ เทสโก้ โลตัส และนำเสนอข่าว บทความแสดงความเห็น โดยสุจริต ตามกรอบจรรยาบรรณ โดยไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อนแต่ประการใด

ที่สำคัญ การนำเสนอข้อมูลดังกล่าวนั้น ก็เป็นไปเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของคนไทย ไม่ได้มีเจตนามุ่งร้าย หรือทำให้บริษัท เอก-ชัย ดีสทริบิวชั่น ซิสเทม จำกัด เจ้าของธุรกิจค้าปลีก เทสโก้ โลตัส เกิดความเสื่อมเสียชื่อเสียงแต่อย่างใด และตลอดระยะเวลาที่ประกอบวิชาชีพสื่อสารมวลชนมากว่า 20 ปี ก็ได้ทำหน้าที่ในการนำเสนอข้อมูลข่าวสารโดยยึดมั่นกรอบจรรยาบรรณของเครือเนชั่น และหลักการของวิชาชีพมาโดยตลอด

ด้าน นายจักร์กฤษ เพิ่มพูล ในฐานะบรรณาธิการผู้พิมพ์ผู้โฆษณา และหัวหน้าฝ่ายกฎหมายเครือเนชั่น กล่าวว่า เป็นปรากฏการณครั้งแรกตั้งแต่ก่อตั้งหนังสือพิมพ์ “กรุงเทพธุรกิจ” มา 20 ปี ที่ผู้เสียหายเลือกที่จะฟ้องผู้เขียน ทั้งที่ตามหลักกฎหมาย บรรณาธิการผู้พิมพ์ผู้โฆษณาเป็นผู้รับผิดชอบแทนอยู่แล้ว

“ผมมองว่า การกระทำของ เทสโก้ โลตัส ครั้งนี้ เป็นรูปแบบของการข่มขู่ คุกคาม โดยใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือ” นายจักร์กฤษ กล่าว

นายกมล กมลตระกูล นักวิชาการและคอลัมนิสต์ กล่าวว่า การฟ้องร้องเป็นการคุกคามนักวิชาการและสื่อ เพราะจำนวนเงินค่าเสียหายที่เรียกร้อง ไม่สมเหตุสมผล โดยการฟ้องร้องเป็นการชี้ให้เห็นถึงเจตนาที่ต้องการปิดปากสื่อและปิดกั้นการวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของนักวิชาการ มากกว่าต้องการเงินอย่างแท้จริง

“ในฐานะนักวิชาการ ได้ตระหนักถึงผลกระทบต่อชุมชน ผู้ประกอบการรายย่อย และตลาดสด จากการเกิดขึ้นของบริษัทค้าปลีกข้ามชาติรายใหญ่ เพราะเป็นการแสดงถึงความอหังการในการใช้ทุนทำลายชุมชนตลาดสดเกือบทั่วประเทศ ทั้งยังได้ซื้อที่ดินที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกับตลาดสดหลายแห่ง แสดงเจตนาที่ต้องการทำลาย โดยผู้ได้รับผลกระทบก็คือพ่อค้า แม่ค้าในแต่ละตลาดทั่วประเทศ”

“ขณะนี้บ้านเรามีตลาดสด 680,000 แห่ง (หกแสนแปดหมื่นแห่ง) มีผู้ได้รับผลกระทบรวมมากถึง 7 ล้านคน ถ้าแต่ละคนต้องเลี้ยงดูคนในครอบครัวอีก 3 คน และสุดท้ายเขาต้องสูญเสียอาชีพ ก็จะมีผู้ได้รับผลกระทบมากถึง 20 ล้านคน”

นายกมล กล่าวด้วยว่า ข้อมูลเหล่านี้เป็นความกังวลของนักวิชาการ เราเป็นห่วงการใช้อำนาจเหนือตลาดกำหนดเงื่อนไขการซื้อจากซัปพลายเออร์อย่างไม่เป็นธรรม ยกตัวอย่างค่าธรรมเนียมแรกเข้าที่เรียกเก็บจากซัปพลายเออร์ และค่าขอส่วนลดในการโปรโมชั่น ซึ่งสร้างภาระให้กับซัปพลายเออร์ ซึ่งถ้ามองในแง่เศรษฐศาสตร์มหภาคแล้ว เป็นการฝืนกลไกตลาด ซึ่งอาจทำให้ซัปพลายเออร์เปลี่ยนจากเถ้าแก่เจ้าของกิจการมาเป็นลูกจ้างรับจ้างผลิต เมื่อเป็นเช่นนี้เศรษฐกิจไทยจะตกอยู่ในกำมือของทุนต่างชาติในที่สุด

ด้าน ว่าที่ร้อยเอกจิตร์ ศิรธรานนท์ กรรมการหอการค้าไทย กล่าวว่า การแสดงความคิดเห็นกรณี เทสโก้ โลตัส เป็นการแสดงความคิดเห็นโดยเสรีตามกรอบของรัฐธรรมนูญ และตั้งอยู่บนฐานข้อมูลอย่างเป็นทางการตามที่ได้รับทราบมา และเป็นการวิพากษ์วิจารณ์โดยสุจริต ไม่ได้มีผลประโยชน์ทับซ้อนใดๆ และไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียในฐานะเป็นผู้ประกอบการค้าส่ง หรือผู้ประกอบการรายย่อยแต่อย่างใด

“เรายินดีต้อนรับการลงทุนของต่างชาติ แต่เรื่องการวิพากษ์วิจารณ์ในฐานะคนไทยก็เป็นเรื่องธรรมดาที่สามารถทำได้โดยสุจริต และถ้าผู้ลงทุนรายนั้นเห็นว่าการวิพากษ์วิจารณ์เป็นการเข้าใจผิด ก็ควรที่จะพูดคุยให้ข้อมูลกัน ซึ่งหากว่าได้รับข้อมูลแล้วมีการแก้ไขก็จบ แต่หากได้รับข้อมูลแล้วแต่ยังกลับไปวิพากษ์วิจารณ์ก็ถือว่าผิด ไม่ใช่มุ่งจะใช้แต่กลไกกฎหมายเพียงอย่างเดียว ในฐานะที่เทสโก้เป็นนักลงทุนที่มาจากประเทศที่มีประชาธิปไตยเบ่งบานก็ควรรับฟังความคิดเห็นและข้อวิพากษ์วิจารณ์ด้วย” ว่าที่ร้อยเอกจิตร์ กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น