xs
xsm
sm
md
lg

กฟผ.รับเขื่อนเหลือน้ำ 72% ยันไม่กระทบค่าเอฟทีไฟฟ้า

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


กฟผ.ยอมรับปัญหาน้ำในเขื่อนมีเหลือแค่ 72% น้อยกว่าปีที่แล้ว แต่เชื่อว่าเพียงพอในการผลิตไฟฟ้า พร้อมยืนยันไม่กระทบต้นทุนค่าไฟฟ้าเอฟที ระบุ เขื่อนภูมิพลมีน้ำเหลือ 53% ส่วนเขื่อนสิริกิติ์มีน้ำอยู่ 49%

นายสมบัติ ศานติจารี ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) กล่าวว่า ปริมาณความต้องการใช้น้ำของประเทศที่อยู่ในระดับสูง ไม่ส่งผลต่อการจัดสรรน้ำเพื่อผลิตไฟฟ้าของ กฟผ. เนื่องจากปริมาณน้ำในเขื่อนยังมีสัดส่วนอยู่ 72% ของพื้นที่กักเก็บน้ำทั้งหมด แม้ว่าจะต่ำกว่าปีที่แล้วที่มีสัดส่วนอยู่ที่ 80% ก็ตาม

ทั้งนี้ ในเบื้องต้นกรมชลประทานได้ขอให้ กฟผ.ปล่อยน้ำช่วยเหลือประชาชนจำนวน 500 ล้านคิว หรือคิดเป็นจำนวนน้ำที่ผลิตไฟฟ้า 80 ล้านหน่วยเท่านั้น ซึ่งไม่ใช่ปริมาณที่มาก เพราะโดยเฉลี่ยจะผลิตไฟฟ้าได้วันละ 400 ล้านหน่วย ประกอบกับบางช่วงที่เป็นวันหยุด เช่น เทศกาลสงกรานต์ จะผลิตไฟฟ้าแค่ 300 ล้านหน่วย

"หลายคนคงเป็นห่วงเรื่องปริมาณในเขื่อนที่น้อยลง ซึ่งอาจจะมีผลต่อการผลิตไฟฟ้า แต่จากการรายงานของฝ่ายปฏิบัติการแล้ว เชื่อว่าคงไม่มีปัญหา หรือส่งผลกระทบต่อต้นทุนการผลิตไฟฟ้าที่จะปรากฏในค่าเอฟที เนื่องจากกระทรวงพลังงานดูแลเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด"

นายวัฒนา ทองศิริ ผู้ช่วยผู้ว่าการโรงไฟฟ้าพลังน้ำ กฟผ. กล่าวว่า สถานการณ์น้ำในปี 2550 ช่วงเดือน เม.ย. น้ำในภาคเหนือมีอยู่ 3 เขื่อนใหญ่ ได้แก่ เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ และเขื่อนแม่งัด สำหรับเขื่อนภูมิพลมีน้ำ 7,100 กว่าล้าน ลบ.ม. หรือ 53% ส่วนเขื่อนสิริกิติ์มีน้ำอยู่ 4,680 ล้าน ลบ.ม. ประมาณ 49% ซึ่งทั้ง 2 เขื่อนมีน้ำน้อยกว่าปีที่แล้วมาก เมื่อรวม 3 เขื่อนมีน้ำรวมกัน 1.2 หมื่นล้าน ลบ.ม. น้อยกว่าปีที่แล้วประมาณ 24%

“ช่วงนี้ต้องระวังในการปล่อยน้ำให้มากขึ้น เนื่องจากภาคเหนือมีฝนตกน้อยลง ในขณะที่ภาคอื่นๆ ยังไม่มีปัญหา โดยเฉพาะภาคตะวันออกเฉียงเหนือปีนี้มีฝนตกมาก แต่น้ำยังน้อยกว่าปีที่แล้ว 6% ภาคกลางน้อยกว่าปีที่แล้ว 2% โดยสรุปถือว่าปีนี้มีน้ำพอจะใช้งาน” นายวัฒนา กล่าวสรุปทิ้งท้าย
กำลังโหลดความคิดเห็น