พาณิชย์ ลุยตรวจเข้มสต๊อกข้าวสาร หลังหัวขโมยแอบฉกหลายรอบ

กรมการค้าภายใน ออกตรวจเข้มสต๊อกข้าวสารของรัฐบาล ช่วงวันหยุดเทศกาลสงกรานต์ เน้นพื้นที่สีแดง ชัยนาท นครสวรรค์ หวั่นมือดีสบช่องช่วงวันหยุดยาว แอบโขมยข้าวไปขาย ยันข้าวไทยไม่ขาดแคลนแน่นอน พร้อมคาดเดือนหน้า ตลาดจะเริ่มเข้าสู่ภาวะปรกติ

วันนี้(14 เม.ย. นายยรรยง พวงราช อธิบดีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ ได้เดินทางตรวจสอบสต๊อกข้าวสารของรัฐบาลในพื้นที่ จ.ชัยนาท คลังสินค้า นายพรชัย พรธนาปราชญ์ อ.หันคา จ.ชัยนาท และคลังสินค้าปากน้ำโพ อ.เมือง จ.นครสวรรค์เพื่อเป็นการป้องปราม ไม่ให้มีการทำทุจริตลักลอบขโมยข้าวของรัฐบาลออกจากโกดัง ในช่วงที่ข้าวมีราคาสูง โดยเฉพาะวันหยุดยาวในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ทางกรมการค้าภายใน ได้เพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบเป็นพิเศษในพื้นที่สีแดงซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีปริมาณข้าวมาก โดยการลักลอบขโมยข้าวบ่อยครั้ง จะมีการตรวจสอบอย่างเข้มงวดในพื้นที่ต่อไป

นายยรรยง กล่าวภายหลังการตรวจสอบสต๊อกข้าว 9 คลัง ในนคลังสินค้า อ.หันคา จ.ชัยนาท โดยพบว่า ข้าวในสต๊อกยังอยู่ครบ รวมทั้งคลังอื่นๆ ใน จ.ชัยนาท ทั้งหมดด้วย ซึ่งมีข้าวจำนวนกว่า 220,000 ตัน หรือ กว่า 2.2 ล้านกระสอบ ซึ่งเป็นจังหวัดที่มีข้าวเป็นปริมาณมากเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศ และถือเป็นพื้นที่สีแดง

"ช่วงสงกรานต์ พาณิชย์ก็เกลี่ยเจ้าหน้าที่ขององค์การคลังสินค้า (อคส.) รวมถึงกับคนของกรมการค้าภายใน เข้าไปวางกำลังในพื้นที่สีแดงที่เสี่ยงข้าวหาย ปกติแต่ละพื้นที่จะมีเจ้าหน้าที่เฝ้าแค่ 1 คน ก็เพิ่มเป็น 3 คน และห้ามลา ห้ามหยุด เพราะโรงสีก็ทำงานช่วงวันหยุด ข้าวเป็นกองๆ ขนเข้า-ออกก็ไม่รู้ว่าเป็นของรัฐหรือของโรงสี"

ตอนนี้ นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ มิ่งขวัญ ก็ได้ประสานกับ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้แบ่งกำลังทหารในพื้นที่มาเฝ้าข้าวให้แล้ว แต่คิดว่าจะมีเฉพาะช่วงสงกรานต์ ที่เป็นช่วงเสี่ยงที่สุดมองว่าถ้าได้ทหารมาช่วยก็จะเอาอยู่" นายยรรยงกล่าว

อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยด้วยว่า ตนเองจะเดินทางตรวจสอบความเรียบร้อยการเฝ้าระวังข้าว ตลอดช่วงเทศกาลสงกรานต์ ในทุกพื้นที่ เพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่มีข้าวหายไปจากโกดังของรัฐ เพราะขณะนี้ ข้าวมีราคาสูงมาก เสี่ยงต่อการถูกลักขโมย

รายงานแจ้งว่า ข้าวในสต็อกของรัฐบาล ปริมาณรวม 2.096 ล้านตัน โดยผลการตรวจสต๊อกครั้งสุดท้ายกลางเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา แบ่งเป็นข้าวในโกดังกลาง 1.964 ล้านตัน และฝากเก็บไว้ในโรงสีเอกชน 1.45 ล้านตัน ขาดหาย 1.3 ตัน คิดเป็น 0.62% โดยจังหวัดที่พบข้าวหาย ได้แก่ เชียงราย พิจิตร ชัยนาท และพะเยา

ส่วนสาเหตุที่รัฐต้องการเก็บข้าวในสต๊อกไว้ก่อน เพื่อใช้เป็นหลักประกันความมั่นคงด้านอาหารของประเทศ เพราะไทยเป็นนาหน้าฝนถึง 80% จำเป็นต้องพึ่งพาธรรมชาติ ทำให้ต้องเก็บข้าวไว้ ป้องกันความเสี่ยงจากผลผลิตที่อาจไม่แน่นอน

"ข้าวภาครัฐ 2.1 ล้านตัน จะเน้นสต๊อกไว้เพื่อความมั่นคง เพื่อให้เกิดความแน่ใจว่าจะไม่ขาดแคลน ซึ่งคุณภาพข้าวจะดูแลเป็นอย่างดี สามารถอยู่ได้นานถึง 2 ปี แต่หากข้าวใหม่ออกมามาก ข้าวในประเทศออกมาสูงเกินจำเป็น ก็ขึ้นกับรัฐบาลจะนำข้าวดังกล่าวออกมาประมูลเพื่อจำหน่ายในประเทศหรือไม่"

นายยรรยง กล่าวเพิ่มเติมว่า เท่าที่ได้เข้าตรวจเช็กสต๊อกข้าวภาครัฐ 3 โกดัง ในจังหวัดสุพรรณบุรีที่มีรวมกว่า 140,000 ตัน ปริมาณข้าวครบถ้วนไม่สูญหาย และหลังจากนี้ไปการตรวจสอบจะถี่ยิบมากยิ่งขึ้นและเท่าที่ประเมินแล้ว ไทยจะไม่เกิดปัญหาการขาดแคลนแน่นอน เพราะสต๊อกข้าวในขณะนี้ภาครัฐมีประมาณ 2.1 ล้านตัน เอกชน 2.1 ล้านตันรวม 4.2 ล้านตัน และคาดว่านาปรังฤดูกาลใหม่ที่กำลังเก็บเกี่ยวจะมีข้าวเพิ่มเติมอีก 4.2 ล้านตัน เท่ากับว่าปริมาณข้าวที่อยู่ในประเทศใน 3-4 เดือนข้างหน้าจะมีกว่า 8 ล้านตัน จะมีเพียงพอต่อการบริโภคและส่งออกแน่นอน ส่วนการส่งออกขณะนี้กลับมาสู่ภาวะปกติที่มีประมาณ 700,000-800,000 ตัน/เดือน จากที่ไตรมาสที่ 1/2551 มีการส่งออกมากกว่า 1 ล้านตัน/เดือน

"ขอเตือนโรงสีโดยเฉพาะพื้นที่ล่อแหลมในภาคกลางและภาคเหนือตอนล่าง อย่าใช้กลอุบายลักลอบนำข้าวในสต๊อกรับไปเวียนเทียนข้าวโดยเด็ดขาด เพราะมีกฎหมายในการดูแล และกระทรวงพาณิชย์อยู่ระหว่างประสานไปยังกระทรวงกลาโหม เพื่อที่จะขอกำลังทหาร มาช่วยดูแล เช่น ในจังหวัดนครสวรรค์ พิจิตร ชัยนาท สุพรรณบุรี สุโขทัย เพื่อป้องกันการเวียนเทียน"