มาตรการตรึงราคาสินค้า “เจ๊มิ่ง” ไร้มนต์ขลังสยบเงินเฟ้อ เผยเดือน มี.ค.ยังพุ่งถึง 5.3% “ศิริพล” ยอมรับ ราคาน้ำมัน-สินค้าหมวดอาหาร ยังเป็นปัจจัยผลักที่สำคัญ ยืนยันไม่ปรับเป้า แต่พร้อมทบทวนใหม่ หลังพ้นไตรมาส 2 ไปแล้ว
นายศิริพล ยอดเมืองเจริญ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป (เงินเฟ้อ) ของเดือน มี.ค.2551 เมื่อเทียบกับเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา สูงขึ้น 0.6% แต่เป็นการสูงขึ้นในอัตราที่ชะลอตัวลงจากเดือนที่แล้ว เมื่อเทียบกับเดือน มี.ค.2550 สูงขึ้น 5.3% จากที่เดือนที่แล้วสูงขึ้น 5.4% และเมื่อเทียบเฉลี่ย 3 เดือนแรกของปี 2551 (ม.ค.-มี.ค.) กับช่วงเดียวกันของปีที่แล้วสูงขึ้น 5%
ทั้งนี้ เงินเฟ้อเดือน มี.ค.ที่สูงขึ้น 0.6% นั้น เป็นการสูงขึ้นของดัชนีหมวดอาหารและเครื่องดื่ม 0.5% สินค้าสำคัญที่มีราคาสูงขึ้น ได้แก่ ข้าวสารเจ้า สูงขึ้น 2.7% ตามความต้องการของตลาดต่างประเทศ เนื้อสุกร สูงขึ้น 4.9% รวมถึงไก่สด ไข่ น้ำมันพืช และอาหารสำเร็จรูป ขณะที่ราคาผักและผลไม้ลดลง 2.2% ส่วนดัชนีหมวดอื่นๆ ไม่ใช่อาหารและเครื่องดื่ม สูงขึ้น 0.5% สินค้าสำคัญที่สูงขึ้นยังคงเป็นน้ำมันเชื้อเพลิงสูงขึ้น 3.7% และยังมีผ้าอนามัย กระดาษชำระค่าแต่งผมชาย ค่าแต่งผมสตรี ที่ราคาสูงขึ้นสำหรับผงซักฟอก ก้อนดับกลิ่น และแป้งทาผิวราคาลดลง
สำหรับเงินเฟ้อเดือน มี.ค.2551 เมื่อเทียบกับเดือน มี.ค.2550 ที่สูงขึ้น 5.3% เป็นดัชนีที่สูงขึ้นในอัตราที่ใกล้เคียงกับเดือนที่ผ่านมา โดยสินค้าสำคัญที่ทำให้เงินเฟ้อสูงขึ้น คือ เนื้อสุกร สูงขึ้น 41.4% ไก่สด 19.5% ไข่และผลิตภัณฑ์นม 13.9% ผักและผลไม้ 10% ราคาน้ำมันเชื้อเพลิง 25.3%
“เงินเฟ้อเดือน มี.ค.2551 ปรับตัวลดลง เมื่อเทียบกับเดือน ก.พ.2551 แสดงว่า มาตรการของกระทรวงพาณิชย์ได้ผลเราทำได้ค่อนข้างดี เพราะสามารถดูแลราคาสินค้าไม่ให้ปรับตัวขึ้นมาก ยิ่งสินค้าบางรายการ หากเราปล่อยให้กลไกตลาดทำงานตามปกติ หากเราปล่อยให้กลไกตลาดทำงานตามปกติ เช่น เนื้อหมู ราคาน่าจะสูงขึ้นกว่านี้ แต่พอเข้าไปดูแลราคาก็ลดลงมาได้ในระดับหนึ่ง” นายศิริพล กล่าว
นายศิริพล กล่าวว่า เงินเฟ้อในช่วง 3 เดือนแรกที่เพิ่มขึ้น 5% เป็นตัวเลขที่สูง แต่ไม่น่าเป็นห่วงและกระทรวงพาณิชย์ยังคงยืนยันตัวเลขเป้าหมายเงินเฟ้อทั้งปีที่กำหนดไว้ 3-3.5% ไว้ก่อนโดยจะมีการทบทวนเป้าหมายเงินเฟ้อใหม่หลังจากได้ตัวเลขในไตรมาสที่ 2 แล้ว แต่ในระหว่างนี้กระทรวงพาณิชย์จะประเมินปัจจัยต่างๆ ที่จะมีผลกระทบต่อเงินเฟ้อ ทั้งราคาสินค้า ค่าจ้างแรงงาน ค่าโดยสาร ราคาน้ำมันและอัตราแลกเปลี่ยนใหม่เพราะมีการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมมาก
ก่อนหน้านี้ หลังจากที่กระทรวงพาณิชย์ได้ประกาศตัวเลขเงินเฟ้อของเดือน ก.พ.2551 ที่สูงขึ้น 5.4% ทำให้ นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ ได้เข้ามาดูแลภาวะราคาสินค้า มีการประกาศให้สินค้า 60 รายการลดราคา มีสินค้าสำคัญ เช่น นมผง ยาสีฟัน แชมพู น้ำยาล้างจาน และผงซักฟอก ซึ่งส่งผลให้ในเดือนมี.ค. สินค้าที่ถูกขอความร่วมมือให้ปรับลดราคาไม่มีการปรับเพิ่มราคาขึ้น แต่สินค้ารายการอื่นๆ ที่ไม่มีขอความร่วมมือปรับลดราคาส่วนใหญ่มีการปรับราคาเพิ่มขึ้น จึงทำให้เงินเฟ้อเดือน มี.ค.ยังคงปรับตัวเพิ่มขึ้น
