xs
xsm
sm
md
lg

"ยูบีเอส" เจ๊งซับไพรม์ 1.5 หมื่นล.ดอลลาร์ นลท.ผวาปิดตำนานธนาคารสวิส

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ตลาดเงินตลาดทุนโลกสะเทือน หลังธนาคารชื่อดังสวิส "ยูบีเอส" เผยตัวเลขขาดทุนไตรมาสแรกสูงถึง 1.2 หมื่นล้านฟรังซ์ ต้องเร่งระดมทุนโปะมูลค่าทางบัญชี อีกหลายระลอก พร้อมปรับลดพนักงาน กดดันประธานแบงก์ลาออก ขณะที่นักลงทุนทั่วโลก เทขายหุ้นลดความเสี่ยง

วันนี้(1 เม.ย.) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ธนาคารยูบีเอส เอจี ซึ่งเป็นธนาคารพาณิชย์รายใหญ่ของสวิตเซอร์แลนด์ ที่กำลังได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการขาดทุนในตลาดซับไพรม์ รายงานว่า ธนาคารขาดทุนติดต่อกัน 2 ไตรมาส หลังจากต้องปรับลดมูลค่าทางบัญชีลงอีก 1.9 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งทำให้นายมาร์เซล ออสเพล ประธานยูบีเอส ตัดสินใจลาออกจากตำแหน่ง

ทั้งนี้ ยูบีเอส กล่าวว่า การขาดทุนในตลาดซับไพรม์ทำให้ธนาคารต้องระดมทุนเพิ่มอีก 1.5 หมื่นล้านฟรังค์ (1.51 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) หลังจากประกาศระดมทุนจากนักลงทุนในสิงคโปร์และตะวันออกกลางไปแล้วกว่า 1.3 หมื่นล้านฟรังค์ โดยเชื่อว่า การปรับลดมูลค่าทางบัญชีจะทำให้ธนาคารขาดทุนไตรมาสแรก 1.2 หมื่นล้านฟรังค์ และต้องลดจำนวนพนักงานลงอีก

นายออสเพล ซึ่งเสนอให้มีการควบรวมกิจการยูบีเอสกับสถาบันการเงินอื่นๆตั้งแต่เมื่อ 10 ปีที่แล้ว ประกาศลาออกจากตำแหน่งประธานยูบีเอส และนายปีเตอร์ คูเรอร์ จะเข้ารับตำแหน่งแทน ทั้งนี้ ยูบีเอส จะเป็นธนาคารอีกแห่งหนึ่งต่อจากซิตี้กรุ๊ป และเมอร์ริล ลินช์ ที่ต้องพึ่งพาการระดมทุนหลังจากปรับลดมูลค่าทางบัญชีและขาดทุนในตลาดซับไพรม์

นายโยชิฮิสะ โอกาโมโตะ นักวิเคราะห์จากมิซูโฮ แอสเสท เมเนจเมนท์ กล่าวว่า แม้การขาดทุนของยูบีเอสทำให้นักลงทุนในตลาดหุ้นหลายระมัดระวังการซื้อขายในวันนี้ แต่คาดว่านักลงทุนจะตอบรับความพยายามของยูบีเอสที่จะระดมทุนเพื่อแก้ปัญหาการตั้งสำรองหนี้สูญและการปรับลดมูลค่าทางบัญชี

สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานว่า ราคาหุ้นยูบีเอสร่วงลงไปแล้ว 45% ในปีนี้ ส่งผลให้มูลค่าทางตลาดของยูบีเอสดิ่งลงสู่ระดับ 5.98 หมื่นล้านฟรังค์ และทำให้หุ้นยูบีเอสกลายเป็นหุ้นที่ย่ำแย่ที่สุดในบรรดาหุ้นธนาคารของยุโรป

**ค่าเงินยูโร ร่วงหนัก 2 วันแล้ว

สำนักข่าวต่างประเทศ ยังรายงานอีกว่า ค่าเงินยูโร ร่วงเป็นวันที่ 2 ติดต่อกันในวันนี้ (1 เม.ย.) เมื่อเทียบเงินดอลลาร์ หลังจากธนาคาร ยูบีเอส แจ้งผลการดำเนินงานขาดทุนจำนวนมากจากซับไพรม์ พร้อมประกาศระดมทุน 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์อย่างเร่งด่วน

ทั้งนี้ ผลกระทบจากข่าวดังกล่าว ทำให้สกุลเงินยูโรร่วงลงทันทีที่ระดับ 1.5738 ดอลลาร์ต่อยูโร จากระดับ 1.5788 ดอลลาร์ต่อยูโรที่ตลาดนิวยอร์ก ขณะที่เมื่อเทียบกับเงินเยน เงินยูโรอ่อนค่าลงแตะ 156.89 เยนต่อยูโร จาก 157.40 เยนต่อยูโร ส่วนเงินเยนขยับเพียงเล็กน้อยเมื่อเทียบเงินดอลลาร์ โดยซื้อขายอยู่ที่ระดับ 99.70 เยนต่อดอลลาร์

ด้านเงินปอนด์อังกฤษและฟรังก์สวิสก็อ่อนค่าลงเช่นกัน หลังจากที่ธนาคารกลางยุโรปเผยว่าวิกฤติในตลาดสินเชื่อได้ส่งผลกระทบต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจยุโรป

**ธนาคารยักษ์หวิดล้ม นลท.ทั่วโลกผวา!

สำนักข่าวต่างประเทศ ยังระบุอีกว่า ความวิตกกังวลที่ภาคการเงินจะตัดขาดทุนอีกในช่วงไตรมาสหนึ่ง กำลังช็อกตลาดหุ้นทั่วโลก ขณะที่ดีมานด์ดอลลาร์ในช่วงสิ้นปีการเงินจากบริษัทญี่ปุ่นทำให้ค่าเงินสหรัฐแข็งขึ้น แต่ราคาน้ำมันลดลงไปอยู่ที่ 105 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เมื่ออิรักเริ่มส่งน้ำมันได้อีกครั้ง

ธนาคารกลางยุโรปประกาศว่าจะอัดฉีดเงินพิเศษในชั่วข้ามคืนเข้าสู่ตลาดเงิน ซึ่งแสดงให้เห็นว่า ภาวะสินเชื่อมีความตึงตัว โดยเฉพาะในช่วงสิ้นเดือนและสิ้นไตรมาส

นักลงทุนเทขายหุ้นธนาคารเนื่องจากมีความกังวลขึ้นมาใหม่เกี่ยวกับการตัดขาดทุนสินทรัพย์และหลังจากที่นายเมริดิธ วิตนีย์ นักวิเคราะห์ ออพเพนไฮเมอร์ แอนด์ โค ออกมาเตือนเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาว่า จะลดเงินปันผลอีก และคาดการณ์ว่า หุ้นธนาคารสหรัฐจะปรับตัวลงอีก 25% ส่งผลให้หุ้นยูบีเอส ธนาคารสวิสปรับตัวลงมากกว่า 3%

นายฟรานซ์ เวนเซล นักวิเคราะห์บริษัท แอกซ่า อินเวสเมนต์ แมเนเจอร์ ในปารีสกล่าวว่า วิกฤติซับไพร์มยังไม่จบ และอาจจะเห็นการตัดขาดทุนจากธนาคารอีกเมื่อมีการแถลงผลประกอบการไตรมาสหนึ่งซึ่งกำลังส่งผลกระทบมาถึงตลาดหุ้นอย่างชัดเจน

ทั้งนี้ ข้อมูลของอีพีเอฟอาร์ โกลบัล ซึ่งติดตามการเคลื่อนไหวของกองทุน พบว่า กองทุนหุ้นยุโรปมีเงินไหลออก 29 สัปดาห์ในช่วง 30 สัปดาห์ที่ผ่านมา นอกจากนี้นักลงทุนยังคาดการณ์ว่า หุ้นธนาคารยุโรปล้าหลังธนาคารสหรัฐในการบ่งชี้ ยอมรับ และจัดการกับหนี้เสียที่เกิดขึ้นมาจากตลาดจำนองด้อยคุณภาพของสหรัฐ

สำหรับตลาดหุ้นย่านเอเชีย เมื่อวานนี้ หุ้นปรับตัวลงในรอบไตรมาสแย่ที่สุดในรอบกว่า 5 ปี โดยดัชนีนิกเกอิดิ่งลง 2.3% ปิดปีการเงินด้วยผลงานรายไตรมาสที่แย่ที่สุดนับแต่ปี 2544 ส่วนดัชนีตลาดหุ้นเอเชียอื่นๆของเอ็มเอสซีไอ ปรับตัวลง 1% ขณะที่ดัชนีหุ้นโลกเอ็มเอสซีไอปรับตัวลง 0.8%
กำลังโหลดความคิดเห็น