xs
xsm
sm
md
lg

บิ๊ก ตลท.ชี้ ดบ.สหรัฐฯอาจเหลือแค่ 1% สิ้นปีนี้ ศก.พัง 8 แสนล้านดอลลาร์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ปธ.ตลาดหุ้น คาดสิ้นปีนี้ เฟดอาจลด ดบ.ลงเหลือแค่ 1% จากระดับ 2.25% ในปัจจุบัน หากเศรษฐกิจสหรัฐฯยังชะลอตัว พร้อมคาดมูลค่าความเสียหายจากซับไพรม์สูงถึง 8 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ มีการตัดหนี้สูญมากขึ้น ขณะที่ราคาน้ำมันก็เป็นตัวแปร ฉุดรั้งการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจโลก

วันนี้ (19 มี.ค.) นายปกรณ์ มาลากุล ณ อยุธยา ประธานกรรมการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวว่า คาดว่า สิ้นปีนี้ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) น่าจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงเหลือ 1% เนื่องจากปัจจุบันปัญหาวิกฤตซับไพรม์กระทบต่อเศรษฐกิจโดยรวมของสหรัฐฯ หลังจากที่เมื่อคืนที่ผ่านมาก็ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.75% มาอยู่ที่ระดับ 2.25%

นอกจากนี้ นายปกรณ์ ยังประเมินผลกระทบเบื้องต้นจากปัญหาสินเชื่อด้อยคุณภาพของสหรัฐฯ (ซับไพรม์) คาดว่า จะมีมูลค่าสูงถึง 8 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และปัญหาดังกล่าวส่งผลกระทบไปยังระบบการจัดการสถาบันการเงินของสหรัฐฯ ซึ่งอาจจะทำให้ระบบของสหรัฐฯต้องตัดหนี้สูญมากขึ้น

นายปกรณ์ ยังระบุว่า ก่อนหน้านี้ คงไม่มีใครคิดว่า ปัญหาเล็กๆ จากสินเชื่อซับไพรม์ ซึ่งตอนแรกคิดกันว่าจะจัดการได้ง่าย แต่ตอนนี้ กลับไม่ได้แก้ปัญหาง่ายอย่างที่คิดแล้ว และตอนนี้ก็กระทบไปยังระดับครัวเรือน (Housing) คนที่ต้องการจะขายก็ขายไม่ได้ เนื่องจากราคาต่ำมาก

นายปกรณ์ ระบุเพิ่มเติมว่า นอกจากปัญหาซับไพรม์แล้ว ปัจจุบันหลายประเทศยังเจอปัญหาราคาน้ำมันซึ่งปรับขึ้นสูงอย่างต่อนเอง โดยที่หลายฝ่ายยังคาดการณ์ว่าจะมีโอกาสปรับเพิ่มขึ้นไปถึง 200 เหรียญต่อบาร์เรล หลายประเทศจึงเริ่มจะกังวลและเป็นห่วงเกี่ยวกับปัญหาเงินเฟ้อ

**ต่างชาติ มองไทยฝ่าวิกฤตซับไพรม์ฉลุย

นายมานู บาสการาน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซนเทนเนียล เอเชีย แอดไวเซอร์ ประเทศสิงคโปร์ กล่าวในงานสัมมนา “ไทยแลนด์ : Global Slowdown Versus Pro Growth Goverment” โดยระบุว่า เศรษฐกิจไทยจะสามารถรองรับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ที่เกิดขึ้นในขณะนี้ได้ แม้ว่าปัจจุบันแนวโน้มเศรษฐกิจโลกจะชะลอตัว เนื่องจากปัจจุบันประเทศในภูมิภาคเอเชียยังมีการเติบโตของเศรษฐกิจในทิศทางที่ดี ทั้งนี้ มองว่าประเทศในเอเชีย รวมทั้งไทยผ่านประสบการณ์วิกฤตเศรษฐกิจในช่วงปี 2540 มาแล้วจึงน่าจะสามารถนำประสบการณ์มาใช้แก้ปัญหาได้ระดับหนึ่ง อีกทั้งปัจจุบันประเทศไทยมีการลงทุนในโครงการขนาดใหญ่ต่างๆ ส่วนประเทศในเอเชีย เช่น อินเดียแม้เศรษฐกิจจะไม่เติบโตมากแต่ก็ยังไปได้
กำลังโหลดความคิดเห็น