xs
xsm
sm
md
lg

โบรกฯ ฟันธง! หากเฟดหั่นดบ. 0.75-1.0% เม็ดเงินทะลักเข้าตลาดหุ้นทั่วโลก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


โบรกเกอร์ ชี้ผลประชุมเฟด คืนนี้ บ่งชี้ทิศทางตลาดหุ้นไทย และตลาดหุ้นทั่วโลก ระบุ หากตัดสินใจหั่นดอกเบี้ยลง 0.75-1.0% ตามคาด อาจผ่อนคลายความกังวลนักลงทุน พร้อมคาดเม็ดเงินจะไหลทะลักเข้าตลาดหุ้นทั่วโลก

ภาวะการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) วันนี้(18 มี.ค.) ดัชนีตลาดหุ้นไทยปิดที่ระดับ 812.32 จุด เพิ่มขึ้น5.58 จุด หรือเปลี่ยนแปลง 0.69%มูลค่าการซื้อขาย 14,628.35 ล้านบาท โดยนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 3,090.90 ล้านบาท นักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิ 1,202.08 ล้านบาท และนักลงทุนทั่วไปซื้อสุทธิ 1,888.82 ล้านบาท

นายอดิศักดิ์ คำมูล ผู้อำนวยการส่วนวิจัยเศรษฐกิจและกลยุทธ์ ฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์(บล.) เคจีไอ จำกัด กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ถือว่าผันผวนในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นภูมิภาค เป็นในลักษณะของการรอคอยผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด) ที่จะมีขึ้นในคืนวันนี้ว่า ดัชนีหุ้นดาวโจนส์และนักลงทุนในสหรัฐ จะตอบสนองต่อการผลการประชุมเฟดอย่างไร โดยตลาดฯคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในระดับ 0.75-1.0%

นายอดิศักดิ์ กล่าวถึงแนวโน้มตลาดหุ้นไทยในวันพรุ่งนี้ คาดว่า ตลาดหุ้นไทยมีโอกาสที่จะรีบาวน์ทางเทคนิคขึ้นมา หรือปรับตัวลงเป็นไปได้ทั้งนั้น ขึ้นอยู่กับผลการประชุมเฟดในคืนนี้ว่า ตลาดจะตีความในเชิงบวกหรือเชิงลบ หากตลาดตีความว่าการที่เฟดประกาศลดอัตราดอกเบี้ยในระดับที่จะสามารถยับยั้งความถดถอยของเศรษฐกิจสหรัฐได้ระยะหนึ่ง ก็จะทำให้ตลาดหุ้นรีบาวน์กลับขึ้นไปได้ แต่ถ้าตีความว่ายังไม่สามารถเห็นผลในระยะเวลาอันใกล้ ตลาดหุ้นก็น่าจะปรับตัวลงมา พร้อมให้แนวรับ 800, 790 จุด ส่วนแนวต้านให้ไว้ที่ 810, 820 จุด

นางสาวสุภากร สุจิรัตนวิมล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เคทีบี กล่าวถึงดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทยในวันนี้ว่า ดัชนีฯแกว่งตัวในกรอบแคบๆโดยยืนสลับกันทั้งในแดนบวกและแดนลบ โดยตลาดฯมีปัจจัยกดดันจากแรงขายของนักลงทุนต่างชาติที่มีออกมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อรักษาสภาพคล่องในระบบการเงินที่ลดลง จากผลกระทบของวิกฤตตลาดสินเชื่อ ซึ่งมีผลทำให้ดัชนีฯปรับลดลง

นอกจากนี้ ประเด็นการเมืองที่ยังคงมีความเสี่ยงจากคดียุบพรรคมัชฌิมาธิปไตย และพรรคชาติไทย รวมถึงคดีทุจริตการเลือกตั้งของนายยงยุทธ ติยะไพรัช ทำให้ความเชื่อมั่นของนักลงทุนลดลง และมีแรงขายลดความเสี่ยงออกมาทำให้บรรยากาศการซื้อขายเป็นไปด้วยความซบเซา และมูลค่าการซื้อขายเบาบาง

อย่างไรก็ตาม แรงซื้อเก็งกำไรจากความคาดหวังว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกครั้งเพื่อกระตุ้นภาวะเศรษฐกิจสหรัฐฯที่ถดถอยลงชัดเจนจากปัญหาสินเชื่อด้อยคุณภาพ(ซับไพรม์) ทำให้ดัชนีปรับเพิ่มขึ้นและปิดการซื้อขายในแดนบวกซึ่งเป็นระดับสูงสุดของวัน

สำหรับแนวโน้มดัชนีหุ้นไทย วันพรุ่งนี้ มองว่าจะขึ้นอยู่กับปัจจัยชี้นำสำคัญคือผลการประชุมของ "เฟด" ในคืนนี้ โดยหากเฟดมีมติปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในระดับที่คาดการณ์คือ 0.75-1.0% ก็น่าจะเป็นแรงผลักดันให้ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับเพิ่มขึ้นได้ในช่วงสั้นๆ

อย่างไรก็ตาม การปรับขึ้นของดัชนีฯ อาจไปได้ไม่แรงนักเพราะยังคงมีปัจจัยเสี่ยงจากการประกาศผลประกอบการไตรมาส 1/2551 ของหุ้นกลุ่มสถาบันการเงินในสหรัฐ 2 บริษัท คือโกลด์แมนแซคส์ และเลย์แมน บราเธอร์ส ซึ่งหากผลประกอบ

การออกมาขาดทุนก็จะยิ่งเป็นสัญญาณที่บ่งชี้ถึงภาวะวิกฤตทางสถาบันการเงินสหรัฐฯและอาจทำให้กองทุนต่างชาติมีแรงขายออกมากดดันให้ดัชนีฯปรับลงอีก มองกลยุทธ์การลงทุน แนะนำเก็งกำไรระยะสั้นหุ้นที่มีข่าวดีสนับสนุน โดยให้แนวรับ 800 จุด แนวต้าน 820 จุด
กำลังโหลดความคิดเห็น