รมช.คลัง ยอมรับ การลดภาษีนำเข้ากากถั่วเหลืองเหลือ 0% รัฐสูญรายได้ถึง 800 ล้านบาท พร้อมเตือน “เจ๊มิ่ง” พิจารณาให้รอบด้าน หวั่นพ่อค้าคนกลางได้ประโยชน์ ด้านนักวิเคราะห์ ชี้ ซีพีได้ประโยชน์แค่เล็กน้อย
วันนี้ (13 มี.ค.) นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงกรณีที่กระทรวงพาณิชย์ เตรียมเสนอลดภาษีนำเข้ากากถั่วเหลืองเหลือ 0% โดยระบุว่า กระทรวงการคลังไม่มีปัญหา และเชื่อว่า คงเป็นเพียงมาตรการแก้ปัญหาระยะสั้น แต่เตือนว่า การลดภาษีผลประโยชน์จะต้องตกถึงมือผู้บริโภค ผู้ผลิตอาหารสัตว์และผู้เลี้ยงสัตว์เท่านั้น ไม่ใช่พ่อค้าคนกลาง เพราะการประกาศลดภาษีตรงนี้ คาดว่า รัฐบาลจะสูญเสียรายได้ถึงปีละประมาณ 800 ล้านบาท
นายวิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ อธิบดีกรมศุลกากร กล่าวว่า การแก้ไขปัญหาต้นทุนวัตถุดิบอาหารสัตว์มีหลายแนวทางการลดภาษีนำเข้าก็เป็นทางเลือกหนึ่ง ซึ่งคณะกรรมการดูแลอาหารสัตว์ จะเป็นผู้พิจารณา และต้องดูว่าลดภาษีแล้วใครได้ประโยชน์
**บทวิเคราะห์ชี้ ซีพี ได้ประโยชน์เพียงเล็กน้อย
บทวิเคราะห์หลักทรัพย์ของ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด ระบุว่า หากมีการปรับลดภาษีนำเข้ากากถั่วเหลืองตามข่าวที่ว่า กรมการค้าภายในเตรียมหารืออนุกรรมการอาหารสัตว์วันนี้เพื่อพิจารณาลดภาษีนำเข้ากากถั่วเหลืองชั่วคราวจาก 4% ลดลงเหลือ 2% หรือ 0% เราเชื่อว่า จะส่งผลบวกต่อบริษัท เจริญโภคภัณฑ์ จำกัด (มหาชน) หรือ CPF ไม่มากนัก (CPF มีทั้งธุรกิจขายอาหารสัตว์และเนื้อสัตว์) เนื่องจากหากต้นทุนกากถั่วเหลืองซึ่งเป็นวัตถุดิบในการผลิตอาหารสัตว์ลดลงจะส่งผลให้ราคาขายอาหารสัตว์ปรับลดลง อีกทั้งเมื่อต้นทุนอาหารสัตว์ลดลง ราคาไก่ และหมู ก็จะปรับลดลงด้วยเช่นกัน
อย่างไรก็ดี เรายังเชื่อว่า ราคาไก่และหมูจะยังยืนในระดับสูงได้เนื่องจาก supply มีน้อย ขณะที่มาตรการลดราคาหมูหน้าเขียงของกระทรวงพาณิชย์นั้นไม่ได้ส่งผลกระทบต่อผู้ผลิตจากการที่ราคาหมูหน้าฟาร์มยังอยู่ในระดับ 58-60 บาทต่อกิโลกรัม