ซีกัล จ่อคิวปรับราคาเครื่องครัวสเตนเลสสตีลขึ้นปีนี้ หลังราคาวัตถุดิบจากต่างประเทศเริ่มขยับ ระบุปีที่ผ่านมาปรับราคาแล้ว 5-10% แต่กำไรยังหด 2-3% อัดฉีด 60 ล้านบาท สร้างความต่างหมายตาผู้นำอุปกรณ์เครื่องครัวระบบไฟฟ้า
นายอรุณ เรืองจรุงพงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยสเตนเลสสตีล จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องครัวตราซีกัล เปิดเผยว่า ปีนี้บริษัทฯเตรียมปรับราคาเครื่องครัวสเตนเลสสตีลขึ้น เพราะแนวโน้มวัตถุดิบสเตนเลสในต่างประเทศปรับราคาขึ้น ทั้งนี้ในปี 2550 ช่วงครึ่งปีแรก ราคาได้ปรับเพิ่มเกิน 10% และทำให้บริษัทฯปรับราคาสินค้าเพิ่ม 5-10% ซึ่งแม้ว่าจะมีการปรับราคาไปแต่ปีที่ผ่านมาบริษัทณมีกำไรลดลง 2-3%
เมื่อเทียบกับคู่แข่งอย่างเครื่องครัวสเตนเลสสตีลม้าลายปรับราคาขึ้นไปแล้ว 2 ครั้ง ล่าสุดได้ปรับขึ้นเมื่อเดือนกันยายน สำหรับการปรับราคาขึ้นในปีนี้ยังไม่สามารถระบุ ต้องรอดูว่าบริษัทไทยน็อกซ์ซัปพลายเออร์สเตนเลส จะปรับราคาขึ้นมาน้อยแค่ไหน ตลอดจนต้องดูสินค้าในสต็อกด้วยว่า มีมากน้อยแค่ไหน
สำหรับปีนี้บริษัทฯวางงบตลาด 50-60 ล้านบาท โดยจะมุ่งเน้นการเป็นผู้นำกลุ่มอุปกรณ์เครื่องครัวระบบไฟฟ้า อาทิ เครื่องย่างไส้กรอก ถังต้มน้ำ ตู้อุ่นพาย เป็นต้น เพื่อสร้างความแตกต่างจากคู่แข่ง จากปัจจุบันบริษัทฯเป็นอันดับ 2 ของตลาดเครื่องครัวสเตนเลสสตีล วางราคาถูกกว่า 1-2% ส่วนผู้นำคือตราม้าลาย ซึ่งปีนี้บริษัทฯจะเปิดตัวสินค้าระบบไฟฟ้า 5 รายการ
ส่วนการเปิตัวสินค้าโดยรวมทั้งปี 20-30 รายการ โดยมี 3 กลุ่มสินค้าเรือธง ประกอบด้วย กลุ่มหม้อก๋วยเตี๋ยว ปีแรกตั้งเป้ารายได้ 30 ล้านบาท ซึ่งทุ่มงบ 10 ล้านบาท สั่งซื้อเครื่องจักรใหม่ 3-4 ไลน์ กลุ่มหม้อ-กะทะ และกลุ่มช่องทางธุรกิจ เพิ่มจาก 5% เป็น 10-15% นอกจากนี้ปีนี้ยังเพิ่มกำลังการผลิตสินค้า15-20%
ส่วนตลาดส่งออกปีนี้ยังไม่เน้นขยายตลาดใหม่ เพราะผลพวงจากค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น ส่งผลให้รายได้หายไป 10% โดยยังมุ่งเน้นตลาดหลัก ได้แก่ เอเชีย อเมริกาใต้ สำหรับผลประกอบการปีนี้ตั้งเป้าเติบโต 20% หรือมีรายได้กว่า 700 ล้านบาท จากปีที่แล้วมีรายได้ 600 ล้านบาท เติบโต 20% แบ่งสัดส่วนเป็น ภในประเทศ 70% และต่างประเทศ 30%
นายอรุณ เรืองจรุงพงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยสเตนเลสสตีล จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องครัวตราซีกัล เปิดเผยว่า ปีนี้บริษัทฯเตรียมปรับราคาเครื่องครัวสเตนเลสสตีลขึ้น เพราะแนวโน้มวัตถุดิบสเตนเลสในต่างประเทศปรับราคาขึ้น ทั้งนี้ในปี 2550 ช่วงครึ่งปีแรก ราคาได้ปรับเพิ่มเกิน 10% และทำให้บริษัทฯปรับราคาสินค้าเพิ่ม 5-10% ซึ่งแม้ว่าจะมีการปรับราคาไปแต่ปีที่ผ่านมาบริษัทณมีกำไรลดลง 2-3%
เมื่อเทียบกับคู่แข่งอย่างเครื่องครัวสเตนเลสสตีลม้าลายปรับราคาขึ้นไปแล้ว 2 ครั้ง ล่าสุดได้ปรับขึ้นเมื่อเดือนกันยายน สำหรับการปรับราคาขึ้นในปีนี้ยังไม่สามารถระบุ ต้องรอดูว่าบริษัทไทยน็อกซ์ซัปพลายเออร์สเตนเลส จะปรับราคาขึ้นมาน้อยแค่ไหน ตลอดจนต้องดูสินค้าในสต็อกด้วยว่า มีมากน้อยแค่ไหน
สำหรับปีนี้บริษัทฯวางงบตลาด 50-60 ล้านบาท โดยจะมุ่งเน้นการเป็นผู้นำกลุ่มอุปกรณ์เครื่องครัวระบบไฟฟ้า อาทิ เครื่องย่างไส้กรอก ถังต้มน้ำ ตู้อุ่นพาย เป็นต้น เพื่อสร้างความแตกต่างจากคู่แข่ง จากปัจจุบันบริษัทฯเป็นอันดับ 2 ของตลาดเครื่องครัวสเตนเลสสตีล วางราคาถูกกว่า 1-2% ส่วนผู้นำคือตราม้าลาย ซึ่งปีนี้บริษัทฯจะเปิดตัวสินค้าระบบไฟฟ้า 5 รายการ
ส่วนการเปิตัวสินค้าโดยรวมทั้งปี 20-30 รายการ โดยมี 3 กลุ่มสินค้าเรือธง ประกอบด้วย กลุ่มหม้อก๋วยเตี๋ยว ปีแรกตั้งเป้ารายได้ 30 ล้านบาท ซึ่งทุ่มงบ 10 ล้านบาท สั่งซื้อเครื่องจักรใหม่ 3-4 ไลน์ กลุ่มหม้อ-กะทะ และกลุ่มช่องทางธุรกิจ เพิ่มจาก 5% เป็น 10-15% นอกจากนี้ปีนี้ยังเพิ่มกำลังการผลิตสินค้า15-20%
ส่วนตลาดส่งออกปีนี้ยังไม่เน้นขยายตลาดใหม่ เพราะผลพวงจากค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น ส่งผลให้รายได้หายไป 10% โดยยังมุ่งเน้นตลาดหลัก ได้แก่ เอเชีย อเมริกาใต้ สำหรับผลประกอบการปีนี้ตั้งเป้าเติบโต 20% หรือมีรายได้กว่า 700 ล้านบาท จากปีที่แล้วมีรายได้ 600 ล้านบาท เติบโต 20% แบ่งสัดส่วนเป็น ภในประเทศ 70% และต่างประเทศ 30%