ผู้จัดการรายวัน – ราคาเหล็กพุ่งแตะ 30บาท/กก.ผู้รับเหมาขาดทุนอื้อ สมาคมอุตสาหกรรมก่อสร้างไทยฯ รุกเจรจาสถาบันเหล็กฯ ถกปัญหาปรับราคา พร้อมสำรวจความต้องการในประเทศ หวั่นเหล็กขาดตลาด พร้อมเพิ่มกำลังการผลิต หลังรัฐบาลใหม่ประกาศนโยบายเดินหน้าเมกะโปรเจกต์ เตรียมเสนอรัฐฯปรับราคากลางตรงกับราคาตลาด
แหล่งข่าวจากบริษัทรับเหมาก่อสร้าง เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 4 ก.พ.ที่ผ่านมา สมาคมอุตสาหกรรมก่อสร้างไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ร่วมหารือกับสถาบันเหล็กและเหล็กกล้าแห่งประเทศไทย เกี่ยวกับปัญหาการปรับราคาขายเหล็กที่เพิ่มสูงขึ้น ส่งผลกระทบต่อราคาขายเหล็กในประเทศ ทำให้ผู้ประกอบการรับเหมาก่อสร้างขาดทุน
โดยในปีที่ผ่านมาเหล็กสำเร็จรูปมีราคา 19-23 บาทต่อกิโลกรัม ขณะที่ช่วงต้นปี 51ราคาเหล็กในตลาดปรับขึ้นมาที่ 30 บาทต่อกิโลกรัม ส่วนราคากลางที่กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ กำหนดไว้ปรับมาอยู่ที่ 28 บาทต่อกิโลกรัม ทำให้ผู้ประกอบการต้องแบกรับต้นทุนไว้ 2 บาท ส่งผลให้ผู้รับเหมาฯ ขาดทุน
นอกจากนี้ ยังมีการหารือถึงการรับมือปัญหาเหล็กขาดตลาด ในกรณีที่มีการก่อสร้างโครงการขนาดใหญ่และการก่อสร้างระบบสาธารณูปโภคของภาครัฐในปีนี้ ซึ่งหากเริ่มดำเนินการจริงจะส่งผลให้ความต้องการเหล็กในตลาดเพิ่มสูงขึ้น อีกทั้งความต้องการใช้เหล็กในธุรกิจก่อสร้างโดยรวมอยู่ที่ 30 ล้านตันต่อปี
ส่วนแผนการแก้ปัญหาราคาขายเหล็ก ที่คาดว่าแนวโน้มเหล็กในตลาดโลกจะปรับตัวสูงขึ้นอีก ตามราคาขายในตลาดโลกที่ล่าสุด (4 ก.พ.) ราคาปรับขึ้นมาที่ 795 ดอลลาร์ จากเดิมช่วงปลายเดือนม.ค.ราคาอยู่ที่ 750 ดอลลาร์ ส่งผลให้ราคาขายอยู่ที่ 30 บาทต่อกิโลกรัม ในขณะที่ผู้ประกอบการรับเหมาก่อสร้างที่รับงานในปี 50 คำนวณราคาเหล็กในการประมูลงานไว้ที่ 19-23 บาท ส่งผลให้มีความต่างของราคาเหล็กที่คำนวณไว้ 5-6 บาทต่อกิโลกรัมหรือมีต้นทุนเพิ่มขึ้นถึง 20%
ดังนั้น ทั้ง 2 หน่วยงานจึงมีแผนที่จะนำปัญหาดังกล่าว เสนอต่อรัฐบาลเพื่อขอให้ปรับราคากลางให้ตรงกับราคาขายในตลาด เพื่อลดต้นทุนของผู้รับเหมาก่อสร้าง นอกจากนี้ สถาบันเหล็กฯ ยังได้เสนอให้สมาคมฯ เก็บตัวเลขความต้องการใช้เหล็กและความต้องการใช้เหล็กที่เพิ่มขึ้นในปีนี้ ส่งต่อสถาบันเหล็กฯเพื่อเพิ่มปริมาณการผลิตป้องกันปัญหาเหล็กขาดตลาด
แหล่งข่าวจากบริษัทรับเหมาก่อสร้าง เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 4 ก.พ.ที่ผ่านมา สมาคมอุตสาหกรรมก่อสร้างไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ร่วมหารือกับสถาบันเหล็กและเหล็กกล้าแห่งประเทศไทย เกี่ยวกับปัญหาการปรับราคาขายเหล็กที่เพิ่มสูงขึ้น ส่งผลกระทบต่อราคาขายเหล็กในประเทศ ทำให้ผู้ประกอบการรับเหมาก่อสร้างขาดทุน
โดยในปีที่ผ่านมาเหล็กสำเร็จรูปมีราคา 19-23 บาทต่อกิโลกรัม ขณะที่ช่วงต้นปี 51ราคาเหล็กในตลาดปรับขึ้นมาที่ 30 บาทต่อกิโลกรัม ส่วนราคากลางที่กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ กำหนดไว้ปรับมาอยู่ที่ 28 บาทต่อกิโลกรัม ทำให้ผู้ประกอบการต้องแบกรับต้นทุนไว้ 2 บาท ส่งผลให้ผู้รับเหมาฯ ขาดทุน
นอกจากนี้ ยังมีการหารือถึงการรับมือปัญหาเหล็กขาดตลาด ในกรณีที่มีการก่อสร้างโครงการขนาดใหญ่และการก่อสร้างระบบสาธารณูปโภคของภาครัฐในปีนี้ ซึ่งหากเริ่มดำเนินการจริงจะส่งผลให้ความต้องการเหล็กในตลาดเพิ่มสูงขึ้น อีกทั้งความต้องการใช้เหล็กในธุรกิจก่อสร้างโดยรวมอยู่ที่ 30 ล้านตันต่อปี
ส่วนแผนการแก้ปัญหาราคาขายเหล็ก ที่คาดว่าแนวโน้มเหล็กในตลาดโลกจะปรับตัวสูงขึ้นอีก ตามราคาขายในตลาดโลกที่ล่าสุด (4 ก.พ.) ราคาปรับขึ้นมาที่ 795 ดอลลาร์ จากเดิมช่วงปลายเดือนม.ค.ราคาอยู่ที่ 750 ดอลลาร์ ส่งผลให้ราคาขายอยู่ที่ 30 บาทต่อกิโลกรัม ในขณะที่ผู้ประกอบการรับเหมาก่อสร้างที่รับงานในปี 50 คำนวณราคาเหล็กในการประมูลงานไว้ที่ 19-23 บาท ส่งผลให้มีความต่างของราคาเหล็กที่คำนวณไว้ 5-6 บาทต่อกิโลกรัมหรือมีต้นทุนเพิ่มขึ้นถึง 20%
ดังนั้น ทั้ง 2 หน่วยงานจึงมีแผนที่จะนำปัญหาดังกล่าว เสนอต่อรัฐบาลเพื่อขอให้ปรับราคากลางให้ตรงกับราคาขายในตลาด เพื่อลดต้นทุนของผู้รับเหมาก่อสร้าง นอกจากนี้ สถาบันเหล็กฯ ยังได้เสนอให้สมาคมฯ เก็บตัวเลขความต้องการใช้เหล็กและความต้องการใช้เหล็กที่เพิ่มขึ้นในปีนี้ ส่งต่อสถาบันเหล็กฯเพื่อเพิ่มปริมาณการผลิตป้องกันปัญหาเหล็กขาดตลาด