เอเอฟพี – ประธานาธิบดีสหรัฐฯ แสดงความหวังว่า กลุ่มโอเปกจะเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันเพื่อแก้ปัญหาราคาน้ำมันแพงในการประชุมเดือนหน้า หลังเข้าหารือกับกษัตริย์ซาอุดีอาระเบียในฐานะผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่สุดของโลกเมื่อวันพุธ (16)
ดานา เปริโน โฆษกทำเนียบขาว กล่าวว่า ประธานาธิบดี จอร์จ ดับเบิลยู บุช ได้แสดงความหวังหลังการหารือกับกษัตริย์อับดุลเลาะห์ของซาอุดีอาระเบีย ว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) จะมีมติเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันเพื่อเป็นการแก้ปัญหาวิกฤตน้ำมันแพงที่เกิดขึ้นต่อไป
“ท่านประธานาธิบดีมีความเป็นห่วงในเรื่องราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้น และผลกระทบที่จะเกิดกับเศรษฐกิจโลก ท่านได้บอกด้วยว่ากษัตริย์ซาอุดีอาระเบียทรงเข้าใจสถานการณ์ราคาน้ำมันโลกในขณะนี้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ ท่านยังได้ย้ำถึงอุปทานที่ตึงตัว ขณะที่อุปสงค์กลับมีมากและเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ไม่เพียงแต่ในสหรัฐฯ แต่ยังรวมถึงประเทศต่างๆ ทั่วโลก โดยเฉพาะอินเดียและจีน” เปริโน กล่าวหลังผู้นำสหรัฐฯ เดินทางถึงอียิปต์ ซึ่งเป็นประเทศสุดท้ายของการเดินทางเยือนตะวันออกกลางในช่วง 8 วันที่ผ่านมา
การออกมาแสดงความเห็นของบุชในครั้งนี้ ทำให้ราคาน้ำมันในตลาดโลกเมื่อวันพุธ (16) ลดลงทันที โดยสัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบไลต์สวีทครูดส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ในตลาดนิวยอร์กร่วงลง 1.14 ดอลลาร์ มาอยู่ที่ 90.76 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ก่อนที่จะดิ่งลงมาอยู่ที่ 89.84 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังมีข่าวว่าปริมาณน้ำมันดิบสำรองของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
ขณะที่สมาชิกทั้ง 13 ประเทศของโอเปกมีกำหนดประชุมภายใต้แรงกดดันในการแก้ปัญหาราคาน้ำมันแพงที่กรุงเวียนนาในวันที่ 1 กุมภาพันธ์นี้ หลังโอเปกมีมติไม่เพิ่มกำลังการผลิตในการประชุมครั้งล่าสุดเมื่อเดือนธันวาคม
ทั้งนี้ สหรัฐฯ กำลังเผชิญกับความหวาดกลัวในเรื่องของเศรษฐกิจที่ซบเซา หลังราคาน้ำมันพุ่งทะลุ 100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ในช่วงสั้นๆ เมื่อต้นปีที่ผ่านมา ขณะที่ภาวะเศรษฐกิจถือเป็นประเด็นสำคัญในการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ของบรรดาผู้สมัครจากพรรคต่างๆ อยู่ในขณะนี้
