ขุนคลังเลี้ยบ ระดมพี่เลี้ยงทุกระดับ เตรียมจ่ายการบ้านทุกวันจันทร์ ส่วนการประกาศนโยบายเศรษฐกิจ คาดว่าจะพร้อมในวันที่ 20 ก.พ.นี้ ส่วนขั้นตอนการทำงาน ต้องเข้าไปคุยในแต่ละจุดให้เข้าใจ
นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ในสัปดาห์หน้าจะเชิญผู้บริหารสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) สำนักงบประมาณ กระทรวงการคลัง ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มาหารือในรายละเอียดเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจในภาพรวม เพื่อให้เศรษฐกิจกลับคืนสู่ภาวะปกติภายใน 6 เดือนตามที่ประกาศไว้
นพ.สุรพงษ์ ระบุว่า กระทรวงการคลังจะมีการหารือนโยบายเศรษฐกิจร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ให้สอดคล้องกับนโยบายของรัฐอีกครั้งหนึ่งในวันจันทร์ ซึ่งจะมีหน่วยงานที่สำคัญเข้าร่วม เช่น ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) และแบงก์ชาติ ถึงแม้ว่า 2 หน่วยงานนี้จะไม่อยู่ภายใต้การดูแลของกระทรวงการคลัง แต่จำเป็นจะต้องมีนโยบายสอดคล้องกันในการทำงาน
ส่วนการหารือนโยบายในระดับกระทรวง นายแพทย์สุรพงษ์ ยืนยันว่า จะมีการหารือนโยบายและติดตามนโยบายเศรษฐกิจทุกวันจันทร์ เพื่อสรุปและนำเข้าสู่การพิจารณาของ คณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันอังคารเป็นการติดตามสถานการณ์
นอกจากนี้ ยังย้ำจะประกาศนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจและเดินหน้าทันทีหลังจากแถลงนโยบายต่อสภาแล้ว โดยในวันที่ 20 ก.พ.นี้ จะแถลงนโยบายได้ทันทีหรือไม่ ขึ้นอยู่กับประธานสภา แต่โดยทั่วไปแล้วรัฐบาลจำเป็นที่จะต้องแถลงนโยบายต่อสภา ภายใน 15 วัน หลังเข้ารับหน้าที่
โดยแนวทางกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลคงใช้ทั้งงบประมาณ การใช้นโยบายการเงินการคลัง และแผนส่งเสริมเพื่อเรียกความเชื่อมั่นนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ ดังนั้น การกระตุ้นเศรษฐกิจคงไม่จำเป็นต้องใช้งบประมาณทั้งหมด แต่จะต้องขึ้นอยู่กับหลายองค์ประกอบ อย่างไรก็ตาม ยังไม่สามารถระบุจำนวนเงินที่ชัดเจนเพื่อนำไปอัดฉีดระบบเศรษฐกิจ แต่ยืนยันว่าการขาดดุลงบประมาณในปี 2551 เพิ่มเติมนั้น จะไม่เกิน 2.5% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) แน่นอน
“ยืนยันว่า ได้หารือกับ นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์เป็นระยะๆ เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้เดินหน้าและกลับมาเป็นเหมือนเดิมโดยเร็ว ซึ่งนายมิ่งขวัญ เองก็มีนโยบายที่จะผลักดันจำนวนมากอยู่แล้ว”
สำหรับกระแสข่าวย้ายผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เป็นเพียงการคาดเดาของบุคคลบางกลุ่ม ซึ่งตนยังไม่มีโอกาสพูดคุยกับผู้ว่าการ ธปท.เมื่อวันที่ 7 ก.พ.ที่ผ่านมา ในประเด็นต่างๆ ที่เกี่ยวกับการเงิน ทั้งนี้ สำหรับการทำงานกับ ธปท.นั้น จะต้องให้อิสระ ขณะเดียวกัน ธปท.ก็จะต้องมีการเชื่อมโยงกับรัฐบาล ในเรื่องการที่จะรับผิดชอบต่อการแก้ปัญหาของประเทศ
นอกจากนี้ ในวันจันทร์ที่จะถึงนี้จะมีการหารือร่วมกันระหว่างกระทรวงการคลัง สำนักงบประมาณ สศช. ธปท.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการประเมินภาวะเศรษฐกิจ และการใช้มาตรการต่างๆ เพื่อประเมินกันอย่างต่อเนื่องเป็นระยะๆ เพื่อสรุปภาพรวม ก่อนรายงานให้คณะรัฐมนตรีทราบ
ซึ่งในสัปดาห์หน้าจะมีการพูดคุยกันอย่างเข้มข้น เพื่อเตรียมมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยจะประกาศหลังจากรัฐบาลแถลงนโยบายต่อสภาแล้ว ส่วนการประชุมร่วมกับภาคเอกชนนั้น ถือเป็นเรื่องสำคัญที่ตนตั้งใจจะทำอยู่แล้ว เพราะเรื่องที่เกี่ยวกับการเงินการคลัง จะมีความเห็นที่หลากหลาย การรับฟังความคิดเห็นจะทำให้เราคิดได้รอบคอบมากขึ้น
