รมว.คมนาคมใหม่ เครื่องร้อนจัด สั่งรื้อปมฉาวข้อพิพาท “ทอท.-คิงเพาเวอร์” ยันใช้หลักความเป็นธรรม ไม่ขัดกฎหมาย ให้กำลังใจผู้ลงทุนในสนามบิน ส่วนผลตรวจสอบการใช้อาคาร “ซิตี้การ์เด้น” บอร์ดสั่งระงับการใช้งาน ลงมติได้มาโดยมิชอบ พร้อมส่งเรื่องให้ ป.ป.ช.เชือดต่อ
วันนี้ (8 ก.พ.) นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวถึงความคืบหน้าในการเจรจาในข้อพิพาทระหว่างบริษัท คิงเพาเวอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด และบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท.(AOT) ตนเองจะต้องดูผลประโยชน์และความเป็นธรรมอีกครั้ง ซึ่งจะต้องทำโดยไม่ขัดต่อกฎระเบียบ โดยการทำงานร่วมกันก็ควรให้กำลังใจกับผู้ลงทุนด้วย
พล.ต.อ.ประทิน สันติประภพ ประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงในการเปิดใช้ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเชิงพาณิชย์ ได้รายงานถึงมติที่ประชุมบอร์ด ทอท.ซึ่งมีมติให้ ทอท. ดำเนินการระงับการใช้อาคารซิตี้การ์เดน (CITY GARDEN) ภายในอาคารผู้โดยสาร สุวรรณภูมิ ของกลุ่มบริษัท คิงเพาเวอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด
เนื่องจากในเบื้องต้นเป็นการได้มาโดยมิชอบ โดยให้ ทอท.ดำเนินการเอาความผิดตามกฏหมาย และให้ส่งเรื่องกระทำผิดโดยมิชอบทั้งหมดให้ทางสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เอาผิดผู้ที่มีส่วนร่วมในการกระทำดังกล่าว
“โดยผลการตรวจสอบพบว่า มีอาคารซิตี้การ์เด้น เกิดขึ้นมาในสนามบินสุวรรณภูมิ ทั้งที่ไม่ได้อยู่ในแบบแผน โดยผู้ยื่นขอก่อสร้าง คือ คิงเพาเวอร์ อ้างว่า จะใช้ไว้ดำเนินการเชิงพาณิชย์ แต่การกระทำดังกล่าวเป็นการได้รับอนุญาตโดยไม่ชอบ ทำให้คิงเพาเวอร์ไม่มีสิทธิ์ที่จะใช้ได้” พล.ต.อ.ประทิน กล่าว
นายเจิมศักดิ์ ปิ่นทอง โฆษกคณะกรรมการ ทอท.กล่าวถึงการจัดสรรพื้นที่และการก่อสร้างอาคารซิตี้การ์เดน ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยระบุว่า บริษัท คิงเพาเวอร์ สุวรรณภูมิ จำกัด ก่อสร้างอาคารดังกล่าวโดยพลการ ถือเป็นการใช้พื้นที่ของ ทอท.ในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิหารายได้โดยไม่ถูกต้องตามกฏหมาย และยังปล่อยให้เอกชนรายอื่นเช่าพื้นที่ โดยได้รับผลตอบแทนปีละประมาณ 501 ล้านบาท
ที่สำคัญ ทอท.ไม่เคยได้รับผลตอบแทนใดๆ จากการใช้พื้นที่ดังกล่าวตั้งแต่การเปิดใช้ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิจนถึงปัจจุบัน แต่ต้องจ่ายค่าน้ำค่าไฟให้คิงเพาเวอร์อีกด้วย
นอกจากนั้น อาคารซิตี้การ์เดน ยังส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เพราะมีส่วนที่เป็นระเบียงจึงเป็นจุดอ่อนในการรักษาความปลอดภัย อาจเป็นช่องทางการก่อวินาศกรรมได้ ขณะที่อาคารผู้โดยสารท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเป็นอาคารปิด อีกทั้ง ทอท.จะปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้ หากมีสิ่งใดเกิดขึ้นกับตัวอาคารที่ไม่ได้การอนุญาตให้ก่อสร้างโดยถูกต้อง
ทั้งนี้ ที่ประชุมมีมติให้ ทอท.ดำเนินการเพื่อระงับการใช้อาคารซิตี้การ์เดน โดยทันที ซึ่งจะไม่มีผลกระทบต่อการให้บริการผู้โดยสารของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิอย่างแน่นอน เพราะมีร้านค้าย่อยให้บริการถึง 207 ร้าน ผู้โดยสารจึงไม่จำเป็นต้องใช้บริการร้านอาหารในอาคาร ซิตี้การ์เดน
ทอท.จะต้องนำข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ เสนอต่อศาลแพ่ง เพื่อให้รู้ว่ากรณีดังกล่าวไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสัญญาร้านค้าปลอดอากร และสัญญากิจกรรมเชิงพาณิชย์ ของคิงเพาเวอร์ ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลแพ่ง รวมทั้งให้ส่งเรื่องไปยังคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อดำเนินการตามกฎหมายกับผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด
“แม้จะมีการเปลี่ยนแปลงรัฐบาล ผู้บริหารก็ต้องส่งเรื่องให้ ป.ป.ช.ไม่อย่างนั้นจะเป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งต้องให้เกียรติผู้บริหารในการดำเนินการตามขั้นตอน ยืนยันว่าเรื่องนี้ต้องถึงมือ ปปช.แน่นอน หากผู้บริหารไม่ส่ง ผม หรือ พลตำรวจเอกประทิน จะเป็นผู้ส่งเอง”
ด้าน พล.อ.สพรั่ง กัลยาณมิตร ประธานกรรมการ ทอท.เตรียมลาออกจากตำแหน่งประธานบอร์ด ทอท.เพื่อแสดงสปิริต ภายหลังการประชุมคณะกรรมการ ทอท.นัดต่อไปที่จะมีขึ้นในวันที่ 13 ก.พ.นี้ และจะแถลงเปิดใจในวันดังกล่าวด้วย
“สาเหตุที่ผมจะเข้าประชุมอีกครั้งก่อนจะลาออก เพราะมีเรื่องสำคัญที่ยังค้างการพิจารณาอยู่อีก 2 เรื่อง โดยผมจะลาออกคนเดียว ส่วนกรรมการคนอื่นๆ ก็แล้วแต่การตัดสินใจ ผมไม่สามารถบังคับได้”
สำหรับราคาหุ้น AOT วานนี้ (7 ก.พ.) ปิดที่ราคา 56.50 บาท ลดลง 0.50 บาท หรือ 0.88% มูลค่าการซื้อขาย 18.43 ล้านบาท
