“มาสด้า” รับตลาดรถซึมยาว เหตุราคาน้ำมันพุ่ง สินค้าแพงลิ่ว กำลังซื้อผู้บริโภคหด คาดทุกค่ายอัดแคมเปญหนัก แต่ยังหวังรัฐบาลใหม่สร้างความเชื่อมั่น พร้อมหนุนนโยบายพลังงานทดแทน ล่าสุด ประกาศเป็นผู้นำน้ำมันไบโอดีเซล โดยจับ “บีที-50” เติม B2, B5 วิ่งทั่วประเทศ ยันใช้ได้ไร้ปัญหา ก่อนเปิดตัวไมเนอร์เชนจ์ปลายเดือนหน้า คาดเป้ารวมทุกรุ่นปีนี้ 15,000 คัน
นางสาวสุรีทิพย์ ละอองทอง ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ตลาดรถยนต์เมืองไทยในปีนี้สถานการณ์ยังน่าเป็นห่วง จากปัจจัยลบโดยตรงอย่างราคาน้ำมันพุ่ง ต้นทุนการผลิตสินค้าสูงขึ้น ขณะที่รายได้ผู้บริโภคเท่าเดิม เกิดภาวะเงินเฟ้อ ส่งผลให้กำลังซื้อ หรือความสามารถในการผ่อนจ่ายรถยนต์ลดลงไป ขณะเดียวกัน ต้องรอดูการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ ว่า จะสร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชนได้แค่ไหน พร้อมดำเนินนโยบายที่เป็นรูปธรรม อันจะส่งผลต่อภาพลักษณ์และการลงทุน
“จากปัจจัยลบทั้งทางตรงและทางอ้อม เรามองว่า ตลาดรถยนต์ปีนี้ไม่น่าขยายตัว อย่างดีสุดก็เทียบเท่ากับปีที่ผ่านมา (6.3 แสนคัน) และเพื่อผลักดันยอดขายทุกค่ายรถยนต์จะหันมาเล่นแคมเปญกันหนักขึ้น โดยเฉพาะค่ายใหญ่อาจอัดกันแรงกว่าทุกปี แต่ในส่วน มาสด้า มุ่งเน้นกิจกรรมที่เข้าถึงผู้บริโภคโดยตรง พร้อมโปรโมชันส่งเสริมการขายน่าสนใจ เพื่อรักษาส่วนแบ่งตลาด 2-3% เอาไว้ให้ได้”
ในปีนี้ บริษัทอาจปรับลดงบทางการตลาดในส่วนของการวางระบบการขาย การจัดการเครือข่ายผู้จัดจำหน่ายลงมานิดหน่อย เนื่องจากปีที่แล้วทุ่มเงินลงไปมาก ซึ่งปัจจุบันค่อนข้างลงตัวระดับหนึ่งแล้ว แต่กระนั้นยังจัดสรรงบประมาณสำหรับกิจกรรมการตลาดอื่นๆ หรือการประชาสัมพันธ์ไว้อย่างเข้มข้นเหมือนเดิม
ล่าสุด บริษัทจัดกิจกรรมทดสอบน้ำมันดีเซล B2 และ B5 (น้ำมันดีเซลเกรดปกติที่มีไบโอดีเซลผสม 2% และ 5% ตามลำดับ) โดยนำมาเติมในปิกอัพ มาสด้า บีที-50 สองคัน แล้วจัดให้วิ่งรอบประเทศไทยรวมระยะทางกว่า 10,000 กิโลเมตร เพื่อสร้างความเชื่อมั่น และเป็นทางเลือกใหม่ให้ผู้ใช้ บีที-50 ประหยัดค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน เนื่องจากน้ำมัน B2 ที่วางจำหน่ายมีราคาถูกกว่าดีเซลปกติ
นางสาวสุรีทิพย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า อยากให้รัฐบาลใหม่สนับสนุนนโยบายพลังงานทดแทนอย่างต่อเนื่อง หลังน้ำมันแก๊สโซฮอล์ อี20 ได้การตอบรับจากผู้ประกอบการรถยนต์เป็นอย่างดี และในส่วนของไบโอดีเซล มาสด้าถือเป็นค่ายรถยนต์รายแรกในเมืองไทย ที่กล้าให้ความมั่นใจกับลูกค้า พร้อมยืนยันว่า บีที-50 สามารถใช้ ดีเซล B2 และ B5 (ยังไม่มีขาย) ได้แน่นอน ทั้งนี้หลังเสร็จสิ้นการทดสอบ บริษัทเตรียมประเมินผลทั้งอัตราบริโภคน้ำมัน และสภาพเครื่องยนต์ พร้อมต่อยอดกิจกรรม ส่งเสริมอย่างจริงจังต่อไป
สำหรับเป้ายอดขายในปีนี้บริษัทตั้งไว้ประมาณ 15,000 คัน เทียบเท่ากับปีก่อน โดยแบ่งเป็น บีที-50 จำนวน 12,000 คัน และ มาสด้า 3 อีก 3,000 คัน ซึ่งหลังการปรับให้มาสด้า 3 สามารถใช้แก๊สโซฮอล์ อี20 พร้อมลดราคาลงมา 4-5 หมื่นบาทต่อรุ่น (จากการได้ภาษีสรรพสามิตอัตราพิเศษ) จะทำให้การขายคึกคักมากขึ้น ขณะเดียวกัน วันที่ 20 กุมภาพันธ์ นี้ บริษัทเตรียมเปิดตัว บีที-50 ใหม่ โดยเป็นการไมเนอร์เชนจ์ ตกแต่งหน้าตานิดหน่อย คาดว่า จะได้การตอบรับดี ส่งผลให้ยอดขายเป็นไปตามเป้าหมายแน่นอน
นางสาวสุรีทิพย์ ละอองทอง ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ตลาดรถยนต์เมืองไทยในปีนี้สถานการณ์ยังน่าเป็นห่วง จากปัจจัยลบโดยตรงอย่างราคาน้ำมันพุ่ง ต้นทุนการผลิตสินค้าสูงขึ้น ขณะที่รายได้ผู้บริโภคเท่าเดิม เกิดภาวะเงินเฟ้อ ส่งผลให้กำลังซื้อ หรือความสามารถในการผ่อนจ่ายรถยนต์ลดลงไป ขณะเดียวกัน ต้องรอดูการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ ว่า จะสร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชนได้แค่ไหน พร้อมดำเนินนโยบายที่เป็นรูปธรรม อันจะส่งผลต่อภาพลักษณ์และการลงทุน
“จากปัจจัยลบทั้งทางตรงและทางอ้อม เรามองว่า ตลาดรถยนต์ปีนี้ไม่น่าขยายตัว อย่างดีสุดก็เทียบเท่ากับปีที่ผ่านมา (6.3 แสนคัน) และเพื่อผลักดันยอดขายทุกค่ายรถยนต์จะหันมาเล่นแคมเปญกันหนักขึ้น โดยเฉพาะค่ายใหญ่อาจอัดกันแรงกว่าทุกปี แต่ในส่วน มาสด้า มุ่งเน้นกิจกรรมที่เข้าถึงผู้บริโภคโดยตรง พร้อมโปรโมชันส่งเสริมการขายน่าสนใจ เพื่อรักษาส่วนแบ่งตลาด 2-3% เอาไว้ให้ได้”
ในปีนี้ บริษัทอาจปรับลดงบทางการตลาดในส่วนของการวางระบบการขาย การจัดการเครือข่ายผู้จัดจำหน่ายลงมานิดหน่อย เนื่องจากปีที่แล้วทุ่มเงินลงไปมาก ซึ่งปัจจุบันค่อนข้างลงตัวระดับหนึ่งแล้ว แต่กระนั้นยังจัดสรรงบประมาณสำหรับกิจกรรมการตลาดอื่นๆ หรือการประชาสัมพันธ์ไว้อย่างเข้มข้นเหมือนเดิม
ล่าสุด บริษัทจัดกิจกรรมทดสอบน้ำมันดีเซล B2 และ B5 (น้ำมันดีเซลเกรดปกติที่มีไบโอดีเซลผสม 2% และ 5% ตามลำดับ) โดยนำมาเติมในปิกอัพ มาสด้า บีที-50 สองคัน แล้วจัดให้วิ่งรอบประเทศไทยรวมระยะทางกว่า 10,000 กิโลเมตร เพื่อสร้างความเชื่อมั่น และเป็นทางเลือกใหม่ให้ผู้ใช้ บีที-50 ประหยัดค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน เนื่องจากน้ำมัน B2 ที่วางจำหน่ายมีราคาถูกกว่าดีเซลปกติ
นางสาวสุรีทิพย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า อยากให้รัฐบาลใหม่สนับสนุนนโยบายพลังงานทดแทนอย่างต่อเนื่อง หลังน้ำมันแก๊สโซฮอล์ อี20 ได้การตอบรับจากผู้ประกอบการรถยนต์เป็นอย่างดี และในส่วนของไบโอดีเซล มาสด้าถือเป็นค่ายรถยนต์รายแรกในเมืองไทย ที่กล้าให้ความมั่นใจกับลูกค้า พร้อมยืนยันว่า บีที-50 สามารถใช้ ดีเซล B2 และ B5 (ยังไม่มีขาย) ได้แน่นอน ทั้งนี้หลังเสร็จสิ้นการทดสอบ บริษัทเตรียมประเมินผลทั้งอัตราบริโภคน้ำมัน และสภาพเครื่องยนต์ พร้อมต่อยอดกิจกรรม ส่งเสริมอย่างจริงจังต่อไป
สำหรับเป้ายอดขายในปีนี้บริษัทตั้งไว้ประมาณ 15,000 คัน เทียบเท่ากับปีก่อน โดยแบ่งเป็น บีที-50 จำนวน 12,000 คัน และ มาสด้า 3 อีก 3,000 คัน ซึ่งหลังการปรับให้มาสด้า 3 สามารถใช้แก๊สโซฮอล์ อี20 พร้อมลดราคาลงมา 4-5 หมื่นบาทต่อรุ่น (จากการได้ภาษีสรรพสามิตอัตราพิเศษ) จะทำให้การขายคึกคักมากขึ้น ขณะเดียวกัน วันที่ 20 กุมภาพันธ์ นี้ บริษัทเตรียมเปิดตัว บีที-50 ใหม่ โดยเป็นการไมเนอร์เชนจ์ ตกแต่งหน้าตานิดหน่อย คาดว่า จะได้การตอบรับดี ส่งผลให้ยอดขายเป็นไปตามเป้าหมายแน่นอน