“ปตท.-บางจาก” ประกาศปรับขึ้นราคาน้ำมันเบนซินทุกชนิดอีก 40 สต./ลิตร มีผลเช้าวันพรุ่งนี้ ส่งผลให้เบนซิน 95 ทำสถิติใหม่ ส่วนน้ำมันดีเซล ยังไม่ปรับราคาขายช่วงนี้
วันนี้ (7 ม.ค.) มีรายงานข่าวแจ้งว่า บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ BCP ประกาศปรับขึ้นราคาขายปลีกน้ำมันเบนซินในประเทศอีกลิตรละ 40 สตางค์ โดยมีผลตั้งแต่เวลา 05.00 น.วันที่ 8 ม.ค.เป็นต้นไป ส่วนราคาขายปลีกน้ำมันดีเซล ขอดูท่าทีของผู้ค้าน้ำมันรายใหญ่ก่อนตัดสินใจ
นายอนุสรณ์ แสงนิ่มนวล กรรมการผู้จัดการใหญ่ BCP เปิดเผยว่า บริษัทจะปรับขึ้นราคาขายปลีกน้ำมันเบนซินอีกลิตรละ 40 สตางค์ ส่วนราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลต้องรอดูท่าทีของบริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) หรือ PTT ซึ่งเป็นผู้ค้าน้ำมันรายใหญ่ก่อนที่จะตัดสินใจ
โดยการประกาศปรับราคาครั้งนี้ ส่งผลให้ราคาขายปลีกน้ำมันของปั๊มบางจากในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลในวันพรุ่งนี้เป็นดังนี้ เบนซิน ออกเทน 91 อยู่ที่ลิตรละ 32.39 บาท, แก๊สโซฮอล์ 95 อยู่ที่ลิตรละ 29.69 บาท, แก๊สโซฮอล์ 91 อยู่ที่ลิตรละ 28.89 บาท ส่วนดีเซลยังคงอยู่ที่ลิตรละ 29.74 บาท
มีรายงานข่าวเพิ่มเติมว่า นายชัยวัฒน์ ชูฤทธิ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่หน่วยธุรกิจน้ำมัน ปตท.ได้ประกาศปรับราคาน้ำมันขายปลีกกลุ่มเบนซินทุกชนิดขึ้น 40 สตางค์/ลิตร โดยให้มีผล 05.00 น.พรุ่งนี้เช่นกัน
การปรับขึ้นราคาเบนซินครั้งนี้ ส่งผลให้ราคาน้ำมันขายปลีกในเขตกรุงเทพฯ และเขตปริมณฑล เป็นดังนี้ น้ำมันเบนซิน พีทีที อัลฟา เอ็กซ์ 95 แตะระดับสูงสุดครั้งใหม่ที่ 33.69 บาท/ลิตร น้ำมันเบนซิน พีทีที อัลฟา เอ็กซ์ 91 มาอยู่ที่ 32.39 บาท/ลิตร
น้ำมันเบนซิน พีทีที E20 พลัส 27.69 บาท/ลิตร (ถูกกว่าเบนซิน 95 ถึง 6 บาท เริ่ม ม.ค.-มี.ค.51) น้ำมันเบนซิน พีทีที แก๊สโซฮอล์ พลัส 95 อยู่ที่ 29.69 บาท/ลิตร (ถูกกว่าเบนซิน 95 ถึง 4 บาท) น้ำมันเบนซิน พีทีที แก๊สโซฮอล์ พลัส 91 มาอยู่ที่ 28.89 บาท/ลิตร (ถูกกว่าเบนซิน 91 ถึง 3.50 บาท)
ส่วนน้ำมัน พีทีทีไบโอดีเซล/น้ำมันดีเซล-ปาล์มบริสุทธิ์ ยังอยู่ที่ 28.74 บาท/ลิตร (ถูกกว่าดีเซล ถึง 1 บาท) และน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว พีทีที เดลต้า เอ็กซ์ ยูโร ทรี อยู่ที่ 29.74 บาท/ลิตร
สำหรับเหตุผลในการปรับขึ้นราคาเบนซินครั้งนี้ เนื่องจากราคาน้ำมันในตลาดโลกยังคงผันผวนต่อเนื่อง โดยเฉพาะน้ำมันดิบดูไบปรับสูงขึ้นถึง 3% เนื่องจากกลุ่มประเทศโอเปก เห็นว่า ปริมาณน้ำมันดิบมีเพียงพอและไม่ควรเพิ่มการผลิต อีกทั้ง International Energy Agency(IEA) ก็ยังไม่มีนโยบายให้ประเทศสมาชิกนำ Emergency Stocks มาใช้เพื่อลดความร้อนแรงของราคาน้ำมันลง ประกอบกับ ปริมาณสำรองน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ลดลง 4.1 ล้านบาร์เรล อยู่ที่ระดับ 289.6 ล้านบาร์เรล และปัจจัยจากความไม่สงบในปากีสถาน และไนจีเรียก็ยังคงยืดเยื้อ
ปัจจัยดังกล่าวทำให้ราคาน้ำมันตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้นเกือบอีก 3 เหรียญสหรัฐฯ ในช่วง 3 วันที่ผ่านมา ซึ่งก่อนหน้านี้ราคาน้ำมันได้ปรับตัวสูงขึ้น 3-6 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
ล่าสุด ในวันนี้ราคาน้ำมันดิบดูไบขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 92.60 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 3.28 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล น้ำมันเบนซิน 95 ปรับตัวขึ้นตามราคาน้ำมันดิบ ขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 106.41 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 2.34 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล และน้ำมันดีเซลยังคงทรงตัวในระดับสูงที่ระดับ 111.14 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล ส่งผลทำให้ค่าการตลาดโดยเฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 30 สตางค์/ลิตร เท่านั้น เท่ากับว่าน้ำมันทุกลิตรที่จำหน่าย ปตท.ได้ช่วยรับภาระแทนผู้บริโภคถึง 1.20 บาท/ลิตร จากค่าการตลาดที่เหมาะสมและเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย ทั้งผู้บริโภคและผู้ประกอบการอยู่ที่ระดับ 1.50 บาท/ลิตร
