ผู้บริหาร ปตท.ยอมรับสถานการณ์ราคาน้ำมันตลาดโลก กดดันภาวะราคขายปลีกภายในประเทศ เผยค่าการตลาดติดลบ 30 สต./ลิตร แม้จะปรับขึ้นราคาไป 40 สต./ลิตร เมื่อสัปดาห์ก่อน วงในคาด 8 ม.ค.ปรับขึ้นอีกระลอก แน่นอน
วานนี้ (6 ม.ค.) นายวิทยา หวังจิตรารักษ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มธุรกิจน้ำมัน บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงสถานการณ์ราคาน้ำมันในขณะนี้ โดยระบุว่า ราคาน้ำมันในตลาดโลกยังปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยราคาปิดล่าสุด เมื่อวันศุกร์ที่ 4 ม.ค.ที่ผ่านมา ราคาน้ำมันดิบดูไบปรับขึ้นกว่า 2 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล มาอยู่ที่ระดับ 94.16 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันสำเร็จรูปในตลาดสิงคโปร์ น้ำมันเบนซิน 95 ปรับขึ้น 3 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล มาอยู่ที่ระดับ 109.89 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล ขณะที่ราคาน้ำมันดีเซลปรับขึ้น 2 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล มาอยู่ที่ระดับ 114.28 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล
นายวิทยา กล่าวว่า ราคาน้ำมันตลาดโลกที่ยังมีราคาเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ทำให้มาร์จินแย่ลง ตอนนี้ค่าการตลาดน้ำมันต่ำมาก เฉลี่ยทุกผลิตภัณฑ์ติดลบอยู่ประมาณ 30 สตางค์ต่อลิตร จากระดับที่ควรจะได้ 1 บาทต่อลิตร จึงคาดว่า ในวันจันทร์ที่ 7 ม.ค.นี้ คงต้องมาดูเรื่องการปรับราคาขายปลีกอีกครั้ง เพราะราคาที่ปรับขึ้นไป 40 สตางค์ เมื่อวันที่ 3 ม.ค.ที่ผ่านมานั้น แทบจะไม่มีผลทำให้สถานการณ์ค่าการตลาดดีขึ้นเลย
นายวิทยา กล่าวอีกว่า ปตท.จะพิจารณาปรับราคาขายปลีกอย่างรอบคอบ โดยคำนึงถึงทั้งผู้ใช้น้ำมัน และผู้ค้าน้ำมันรายอื่นด้วย ลำพัง ปตท.หากต้องชะลอการปรับราคาน้ำมันออกไปอีก ก็คงทำได้ เพราะ ปตท.มีหลายกระเป๋า ถ้ากิจการขายปลีกน้ำมันขาดทุนก็คงจะไม่กระทบกับภาพรวมบริษัทมากนัก แต่ผู้ค้ารายอื่นจะอึดอัดมากขึ้น จากที่ทุกวันนี้ก็อึดอัดอยู่แล้ว
ทั้งนี้ ยอมรับว่า สถานการณ์น้ำมันตอนนี้ คงคาดการณ์ลำบาก ต้องรอให้ผ่านพ้นช่วงหน้าหนาวไปก่อน ในเดือนมกราคมถึงกุมภาพันธ์นี้ราคาน้ำมันน่าจะไม่ดีเท่าใดนัก แต่ในเดือนมีนาคมสถานการณ์น่าจะดีขึ้น
อย่างไรก็ตาม ภาพรวมปีนี้จะหนักกว่าปีที่แล้ว เพราะเงินดอลลาร์สหรัฐฯอ่อนค่าลง ราคาน้ำมันก็ต้องขยับขึ้นตาม เพราะผู้ขายน้ำมันต้องการได้รับเงินในจำนวนเท่าเดิมเมื่อมีการแลกกลับมาเป็นสกุลเงินของตัวเองแล้ว” นายวิทยา กล่าว
มีรายงานข่าวระบุเพิ่มเติมว่า ปตท.อาจต้องประกาศปรับขึ้นราคานำมันทุกชนิดอีก 40 สต./ลิตร ในวันที่ 8 ม.ค.นี้ หากสถานการณ์ราคาน้ำมันตลาดโลกยังทรงตัวในระดับสูง และมีแรงกดดันจากส่วนต่างราคาขายหน้าโรงกลั่งและราคาขายปลีกเกือบ 2 บาท ซึ่งทำให้ ปตท.ต้องแบกรับภาระขาดทุน
