อุทกภัยและดินถล่มสังหารผู้คนไปทั้งสิ้น 1,006 ราย จากการเปิดเผยของทีมช่วยเหลือในวันเสาร์(13ธ.ค.) ในขณะที่ชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แห่งนี้ต้องดำเนินความพยายามกู้ภัยครั้งใหญ่อันเนื่องจากภัยพิบัติเลวร้ายที่เล่นงานประเทศแห่งนี้ในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา
ภัยพิบัติทางธรรมชาติครั้งเลวร้าย ซึ่งเล่นงานเกาะสุมาตรา ทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของอินโดนีเซีย ในช่วง 2 สัปดาห์ ยังส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกมากกว่า 5,400 ราย จากการเปิดเผยของสำนักงานบรรเทาภัยพิบติแห่งชาติ
ห่าฝนและดินถล่มที่เข่นคร่าชีวิตผู้คนนับพัน ถือเป็นหนึ่งในภัยพิบติครั้งเลวร้ายที่เล่นงานเกาะสุมาตราในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา หลังจากดินแดนแถบนี้เคยถูกสึนามิทำลายล้างในปี 2004 บริเวณแหลมทางเหนือของเกาะ
อับดุล มูฮารี โฆษกของสำนักงานบรรเทาภัยพิบัติแห่งชาติ คาดหมายว่ายอดผู้เสียชีวิตที่แท้จริงจะสูงกว่านี้ โดยยอมรับมีอีก 217 คนที่ยังคงสูญหายและเจ้าหน้าที่กำลังยกระดับความพยายามป้อนความช่วยเหลือเข้าสู่พื้นที่ต่างๆที่ได้รับผลกระทบหนักหน่วงที่สุด
ด้วยดินแดนเป็นบริเวณกว้างถูกทำลายล้างด้วยฝน โคลนและต้นไม้ที่หักโค่นลงมา ทำให้ชาวบ้านมากกว่า 1.2 ล้านคน ต้องอพยพไปพักพิงตามศูนย์พักพิงชั่วคราวทั้งหลาย และล่าสุดบรรดาเหยื่ออุทกภัยพากันส่งเสียงแห่งความผิดหวังมากขึ้นเรื่อยๆ จำนวนมากคร่ำครวญต่อความพยายามบรรเทาทุกข์ที่เป็นไปอย่างล่าช้า
ประธานาธิบดี ปราโบโว ซูเบียนโต ระบุในวันเสาร์(13ธ.ค.) สถานการณ์ดีขึ้นมาบ้าง โดยหลายพื้นที่ที่เคยถูกตัดขาด เวลานี้สามารถเข้าถึงได้แล้ว "หลายพื้นที่ สืบเนื่องจากลักษณะทางกายภาพและทางธรรมชาติ มีปัญหาล่าช้าเล็กน้อย แต่ผมตรวจสอบจุดอพยพทั้งหลาย สถานการณ์ดีขึ้นล้ว บริการต่างๆที่มอบแก่พวกผู้อพยพมีอย่างพอเพียง และเสบียงอาหารมีเพียงพอ" เขากล่าวระว่างเดินทางเยือนเมืองลังกัต ในขังหวัดนอร์ทสุมาตรา
บนถนนเส้นหลักที่ตัดผ่านเมืองอาเจะห์ตาเมียง พวกผู้สื่อข่าวเอเอฟพีพบเห็นรถบรรทุกและรถยนต์ส่วนตัวจอดยาวเหยียด กำลังแจกจ่ายอาหาร น้ำและข้าวของจำเป็นอื่นๆ ในขณะที่ชาวบ้านจำนวนมากในเมืองต่างๆที่อยู่ใกล้เคียง ต้องตั้งแคมป์บริเวณด้านนอกด้วยสิ่งปลูกสร้างชั่วคราว เนื่องจากบ้านเรือนของพวกเขานั้นเต็มไปด้วยโคลน
โฆษกสำนักงานบริหารจัดการภัยพิบัติเปิดเผยว่าได้มีการส่งมอบสิ่งของบรรเทาทุกข์มากกว่า 11.7 ตันไปยังเกาะสุมาตรา ทั้งทางบก ทางทะเลและทางอากาศในวันเสาร์(13ธ.ค.) และพวกเจ้าหน้าที่ระบุกำลังเริ่มสร้างที่พักพิงชั่วคราวสำหรับประชาชนที่พลัดถิ่นฐาน
คาดหมายว่างบประมาณสำหรับการฟื้นฟูตามหลังภัยพิบัติครั้งนี้น่าจะแตะระดับ 3,100 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ(ราว 9.8 หมื่นล้านบาท) และจนถึงตอนนี้รัฐบาลอินโดนีเซียเพิกเฉยต่อคำชี้แนะให้ร้องขอความช่วยเหลือจากนานาชาติ
สำนักงานอุตุนิยมวิทยาของอินโดนีเซีย พยากรณ์ว่าสภาพอากาศจะเลวร้ายต่อไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งมีฝนตกหนักบนเกาะสุมาตรา
(ที่มา:เอเอฟพี)


