xs
xsm
sm
md
lg

ไม่แข็งกร้าวแล้ว!นายกฯหญิงญี่ปุ่นท่าทีอ่อนลง พูดอ้อมๆยอมรับไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของจีน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ตามหลังมีความสัมพันธ์อันยุ่งเหยิงนานหลายสัปดาห์กับจีน ล่าสุด ซานาเอะ ทาคาอิจิ นายกรัฐมนตรีหญิงของญี่ปุ่น พยายามหาทางคลายความตึงเครียดกับปักกิ่ง อันมีชนวนเหตุจากการตั้งสมมุติฐานกรณีเกิดความขัดแย้งในช่องแคบไต้หวัน

ในการตอบคำถามของสมาชิกสภาผู้แทนราษฏรรายหนึ่งเมื่อวันพุธ(3ธ.ค.) ทาคาอิจิ บอกกับรัฐสภาญี่ปุ่น ว่าจุดยืนของโตเกียวเกี่ยวกับเกาะแห่งนี้ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง อ้างถึงพันธสัญญาหนึ่งเมื่อปี 1972 อันนำมาซึ่งความสัมพันธ์อันเป็นปกติระหว่างปักกิ่งและโตเกียว

"จุดยืนพื้นฐานของรัฐบาลญี่ปุ่นในเรื่องเกี่ยวกับไต้หวัน ยังคงเหมือนเดิม ดังเช่นที่เน้นย้ำในแถลงการณ์ร่วมของรัฐบาลญี่ปุ่นและรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนปี 1972 และไม่มีการเปลี่ยนแปลงจุดยินดังกล่าว" ทาคาอิจิ

อ้างอิงจากแถลงการณ์ร่วมดังกล่าว "รัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน เน้นย้ำว่าไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของดินแดนที่ไม่อาจแบ่งแยกได้ของสาธารณรัฐประชาชนจีน" และรัฐบาลญี่ปุ่นเข้าใจอย่างเต็มเปี่ยมและให้ความเคารพต่อจุดยืนนี้

ในแถลงการณ์ร่วมยังระบุด้วยว่า "ญี่ปุ่นยึดมั่นอย่างแน่วแน่ต่อจุดยืนภายใต้มาตรา 8 ของปฏิญญาพ็อทซ์ดัม( คำประกาศของฝ่ายสัมพันธมิตรที่เรียกร้องให้ญี่ปุ่นยอมจำนนอย่างไม่มีเงื่อนไขในช่วงปลายสงครามโลกครั้งที่2) เช่นเดียวกับปฏิญญาไคโร 1943 ซึ่งกำหนดให้ญี่ปุ่นคืนดินแดนที่ยึดไปจากจีนระหว่างสงคราม ทั้งนี้เอกสารทั้ง 2 ฉบับ บ่อยครั้งถูกปักกิ่งกล่าวอ้างในฐานะสนธิสัญญาที่ชอบด้วยกฎหมาย ที่สนับสนุนไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของจีน

ความเห็นของทาคาอิจิในวันพุธ(3ธ.ค.) มีขึ้นเกือบ 1 เดือน หลังเธอกล่าวกับรัฐสภา ว่าการโจมตีไต้หวันใดๆโดยกองทัพปลดแอกประชาชนจีน อาจเข้าองค์ประกอบของสถานการณ์คุกคามการอยู่รอด ซึ่งจะเปิดทางให้โตเกียวต้องใช้ปฏิบัติการทางทหารเข้าแทรกแซง

คำกล่าวของเธอเมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน ถือเป็นคำพูดที่ชัดเจนที่สุดที่นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นรายหนึ่งๆ กล่าวถึงแนวทางที่โตเกียวจะตอบสนองในกรณีที่เกิดสถานการณ์ฉุกเฉินเกี่ยวกับไต้หวัน และถือเป็นการตีตัวออกห่างจากจุดยืนความคลุมเครือทางยุทธศาสตร์ที่โตเกียวยึดถือมาช้านานในประเด็นไต้หวัน ต่อมา เธอ อ้างว่าความเห็นดังกล่าวเป็นเพียงการสมมุติเท่านั้น

ทั้งนี้ความเห็นดังกล่าวของทาคาอิจิ ฉุดความสัมพันธ์กับจีนดำดิ่ง และกระตุ้นให้ปักกิ่งส่งเสียงเรียกร้องซ้ำๆให้เธอถอนคำพูด บางอย่างที่นายกรัฐมนตรีหญิงญี่ปุ่นปฏิเสธ

ในความเคลื่อนไหวตอบโต้ ปักกิ่งระงับนำเข้าอาหารทะเลจากญี่ปุ่น ออกคำเตือนพลเรือนอย่าเดินทางเยือนหรือไปศึกษาในญี่ปุ่น นอกจากนี้แล้วยังตัดการติดต่อแลกเปลี่ยนระหว่างรัฐบาลและทางวัฒนธรรม

(ที่มา:เซาต์ไชนามอร์นิงโพสต์)


กำลังโหลดความคิดเห็น