ญี่ปุ่น เสียงเปลี่ยนทั่วทั้่งประเทศให้กลายเป็นสนาม ถ้าเข้าแทรกแซงทางทหารในช่องแคบไต้หวัน จากบทความชิ้นหนึ่งที่เผยแพร่โดย PLA Daily หนังสือพิมพ์รายวันกองทัพปลดแอกประชาชนจีน ที่ส่งเสียงเตือนในวันอาทิตย์(16 พ.ย.) สถานการณ์ลุกลามบานปลายล่าสุด ในเหตุกระทบกระทั่งทางการทูต อันมีชนวนเหตุมาจากความเห็นของผู้นำแดนปลาดิบ
นายกรัฐมนตรีซานาเอะ ทาคาอิจิ บอกกับรัฐสภาญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน ว่าการใช้กำลังกับไต้หวัน อาจถูกมองว่าเป็น "สถานการณ์คุกคามการอยู่รอด" เหตุการณ์ที่อาจเปิดทางให้โตเกียวใช้กองกำลังป้องกันตนเอง ทั้งนี้แม้มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในวงกว้าง แต่เธอปฏิเสธกลับลำความคิดเห็นดังกล่าว
ปักกิ่งบอกว่าการแทรกแซงดังกล่าวใดๆ อาจถูกมองว่าเป็นพฤติกรรมแห่งการรุกรานและจะต้องเจอกับการตอบโต้อย่างหนักหน่วง
บทความหนึ่งในหนังสือพิมพ์อย่างเป็นทางการของกองทัพปลดแอกประชาชนจีน ใช้ถ้อยคำที่แข็งกร้าวในวันอาทิตย์(16พ.ย.) บอกว่า ทาคาอิจิ เผยให้เห็นถึงความทะเยอทะยานตะกละตะกลามของโตเกียว ที่อยากเข้าแทรกแซงกิจการภายในของประเทศอื่น ผ่านวิธีการด้านการทหาร
"การกระทำที่ผิดทิศผิดทางของญี่ปุ่น รังแต่จะนำพาประเทศไปตามเส้นทางที่ไม่อาจย้อนกลับได้ มันเสี่ยงทำให้ทั่วทั้งประเทศกลายเป็นสนามรบ" บทความของ Xu Yongzhi นักววิจัยจากสถาบันความสัมพันธ์ระหว่างประเทศร่วมสมัยแห่งประเทศจีน (CICIR) กล่าวเตือน
Xu เน้นว่าญี่ปุ่นได้ปรับเปลี่ยนสนามบินและท่าเรือหลายสิบแห่ง ตั้งแต่ฮอกไกโด ทางภาคเหนือ จนถึงโอกินาวา ทางใต้ของประเทศ เป็นโครงสร้างพื้นฐานคู่ขนานที่ใช้งานได้ทั้งทางพลเรือนและทหาร ขณะที่ท่าอากาศยานและท่าเรือ 39 แห่ง มีฝูงบินขับไล่และยานพาหนะขนส่งทางทหารประจำการอยู่ "มันบ่งชี้ว่า ถ้ามีการแทรกแซงช่องแคบไต้หวัน รัฐบาลญี่ปุ่นจะลากทั่วทั้งประเทศเป็นรถม้าศึกที่ทำลายตัวเอง"
ปักกิ่งมองไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของดินแดน ที่ต้องรวมชาติโดยการใช้กำลังถ้าจำเป็น ประเทศส่วนใหญ่ในนั้นรวมถึงญี่ปุ่นและพันธมิตรตามสนธิสัญญาอย่างสหรัฐฯ ไม่ได้รับรองไต้หวันในฐานะรัฐเอกราช แต่วอชิงตันคัดค้านความพยายามใดๆที่การยึดเกาะปกครองตนเองแห่งนี้โดยการใช้กำลัง และสัญญาว่าจะจัดหาอาวุธให้ไต้หวัน
ประเด็นถกเถียงเกี่ยวกับความเห็นของ ทาคาอิจิ กลายมาเป็นส่วนหนึ่งของสงครามน้ำลาย ที่โหมกระพือการตอบโต้อย่างเป็นรูปธรรมจากปักกิ่ง ในนั้นรวมถึงการเรียกเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นเข้าพบเพื่อประท้วง และออกคำเตือนด้านการเดินทางต่างๆนานา
ในวันอาทิตย์(16พ.ย.) กระทรวงศึกษาธิการของปักกิ่ง เรียกร้องนักศึกษาชาวจีนที่มีแผนไปศึกษาในญี่ปุ่น ให้ระมัดระวัง ขณะที่นักศึกษาชาวจีนที่ปัจจุบันอยู่ในญี่ปุ่นแล้วและมีแผนเข้าร่ำเรียนเร็วๆนี้ ได้รับคำแนะนำให้จับตาสถานการณ์ความปลอดภัยในพื้นที่อย่างใกล้ชิด ยกระดับประเมินความเสี่ยงและตระหนักในเรื่องความปลอดภัยมากกว่าเดิม
กระทรวงศึกษาธิการของจีนบอกว่าสถานการณ์ความปลอดภัยในญี่ปุ่น เริ่มไม่มีเสียรภาพ พบเห็นอาชญากรรมที่เล็งเป้าเล่นงานพลเมืองจีนมากขึ้นเรื่อยๆ และมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นสำหรับพลเมืองจีนในประเทศแห่งนี้
ในประกาศเตือนคล้ายกันที่เผยแพร่ในช่วงเย็นวันอาทิตย์(16พ.ย.) ทางกระทวงวัฒนธรรมและการท่องเที่ยว แนะนำนักท่องเที่ยวชาวจีนให้หลีกเลี่ยงเดินทางไปยังญี่ปุ่นในอนาคตอันใกล้นี้ ขณะเดียวกันก็เรียกร้องให้พลเมืองที่อยู่ในญี่ปุ่นแล้ว จับตาสถานการณ์ด้านความปลอดภัยในพื้นที่อย่างใกล้ชิด เพิ่มความตระหนักในด้านความปลอดภัยและยกระดับป้องกันตนเอง
ก่อนหน้านี้ในวันเสาร์(15พ.ย.) ความเห็นหนึ่งบน Yuyuan Tantian บัญชีสื่อสังคมออนไลน์ที่เกี่ยวข้องกับซีซีทีวี สื่อมวลชนแห่งรัฐ บอกว่าปฏิกิริยาแข็งกร้าวจากปักกิ่ง บ่งชี้ว่าจีนเตรียมใช้มาตรการอื่นๆเพิ่มเติม ในนั้นรวมถึงการเพิ่มบรรดาบริษัทญี่ปุ่นเข้าไปใน "รายชื่อองค์กรที่ไม่น่าเชื่อถือ" หรือระงับการแลกเปลี่ยนระหว่างรัฐบาลในด้านเศรษฐกิจ การทูตหรือด้านการทหาร
มีรายงานว่าสายการบินต่างๆของจีนอย่างน้อย 7 แห่ง ประกาศคืนเงินเต็มจำนวน สำหรับเที่ยวบินที่มีกำหนดมุ่งหน้าสู่ญี่ปุ่น
อ้างอิงข้อมูลอย่างเป็นทางการของญี่ปุ่น จีนถือเป็นหนึ่งในแหล่งต้นทางนักท่องเที่ยวต่างชาติรายใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น มีนักท่องเที่ยวจีนแผ่นดินใหญ่กว่า 7.48 ล้านคนที่เดินทางเยือนญี่ปุ่น ในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้
(ที่มา:เซาต์ไชนามอร์นิงโพสต์)


