xs
xsm
sm
md
lg

มโนไปเรื่อย!ไทยเสร็จแน่แนะรัฐบาลกัมพูชาบดขยี้เศรษฐกิจ กองทัพเตรียมพร้อมสำหรับเปิดศึก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



พวกผู้นำทางการเมืองและภาคประชาสังคม เรียกร้องรัฐบาลกัมพูชา แสวงหามาตรการทางการทูต เศรษฐกิจและทางกฎหมาย ตอบโต้เหตุปะทะรอบใหม่ ในขณะที่ธำรงไว้ซึ่งความพร้อมปกป้องพลเรือนและดินแดน พร้อมกับประณามเหตุการณ์ล่าสุดที่พวกเขาอ้างว่าเป็นการโจมตีโดยกองกำลังไทยว่าเป็น "อาชญากรรมสงคราม"

รายงานข่าวของคิริโพสต์ อ้างว่ามีพลเรือนได้รับบาดเจ็บ 3 รายและเสียชีวิต 1 คน ครั้งที่กองทัพไทยโจมตีหมู่บ้านเปรยจันของกัมพูชา เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นหลังจาก ไทย ระงับข้อตกลงสันติภาพและเน้นย้ำว่าจะไม่ปล่อยตัวทหารกัมพูชา 18 นาย ในวันที่ 12 พฤศจิกายน

เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากมีทหารไทย 3 นายได้รับบาดเจ็บจากทุ่นระเบิดในวันที่ 10 พฤศจิกายน 2025 ในพื้นที่ภูมะเขือ ตามแนวชายแดนกัมพูชา-ไทย

สำนักข่าวคิริโพสต์ อ้างความเห็นของ Ou Virak นักวิเคราะห์การเมือง ระบุว่าความขัดแย้งจะไม่จบลงง่ายๆ แม้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ พยายามเป็นคนกลางสันติภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งความขัดแย้งทางการเมืองภายในของประเทศไทยเริ่มร้อนแรงขึ้น ก่อนหน้าศึกเลือกตั้งที่กำลังมาถึง

Ou Virak อ้างอีกว่าในฝ่ายทหารเอง ทางกองทัพไทยได้ใช้ความขัดแย้งตามแนวชายแดนกับกัมพูชา เป็นเครื่องมือในความพยายามแย่งชิงอำนาจ เขาอ้างว่ากองทัพไทยก็มีความขัดแย้งกันเองภายในเช่นกัน มีความพยายามยึดอำนาจจากอีกฝ่าย ด้วยการปรับเปลี่ยนและปลดทหารรุ่นเก่าๆออกจากตำแหน่ง

"การที่ยังคงโจมตีกัมพูชา คือการยั่วยุให้กัมพูชาแก้แค้นไทย เพราะว่าทหารไทยในภูมิภาค ต้องการให้สงครามเดินหน้าต่อไป" Ou Virak กล่าว "พวกทหารไทยต้องการก่อภาพกล่าวโทษกัมพูชา สำหรับการเป็นฝ่ายเริ่มต้นความขัดแย้งก่อน ยกตัวอย่างเช่น กรณีของเหตุทุ่นระเบิด"

เขามองด้วยว่าไทยพยายามขยายความสัมพันธ์กับจีน ผ่านการค้า การท่องเที่ยวและการย้ายถิ่นฐาน ท่ามกลางความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ในภูมิภาค ซึ่งก่อความกังวลใหญ่หลวงแก่กัมพูชา ขณะที่จีน อ้าแขนต้อนรับกษรัติย์ของไทย ซึ่งเสด็จพระราชดำเนินเยือนปักกิ่งเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ และพบปะกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ในวันพฤหัสบดี(13พ.ย.)

"มันน่ากังวลใหญ่หลวงมาก เนื่องจากตอนนี้ไทยพยายามเอาใจจีน และดูเหมือนว่าจีนจะอ้าแขนต้อนรับไทยเช่นกัน นายกรัฐมนตรีของไทย รวมถึงกองทัพไทย ดูเหมือนไม่ค่อยกลัวประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ" Virak ระบุ

Virak ชี้แนะให้กัมพูชายังคงอยู่ในความอดทน และติดต่ออย่างกระตือรือร้นกับศาลระหว่างประเทศและกลุ่มเอ็นจีโอทั้งหลาย เช่นเดียวกับสหรัฐฯ, จีนและอาเซียน

"ระหว่างช่วงเวลานี้ เรา(กัมพูชา)จำเป็นต้องพยายามปกป้องพลเรือนให้ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ อย่างไรก็ตามเราไม่สามารถใช้อาวุธหนักกับพวกเขาในสถานการณ์ปัจจุบัน แต่เรามีหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่าทหารของเขามีความทะเยอทะยานกลับสู่สงคราม"

อย่างไรก็ตาม Virak กล่าวว่าหากไทยยังคงโจมตีกัมพูชาไม่หยุด ทำร้ายพลเรือนผู้บริสุทธิ์ กัมพูชาก็มีสิทธิ์ใช้อาวุธตอบโต้ เพราะฉะนั้นกัมพูชาควรพร้อมสำหรับสงคราม

Soeung Saroeun กรรมการบริหารของ NGO Forum กล่าวว่ารัฐบาลกัมพูชาจำเป็นต้องกดดันไทยทั้งด้านการทูตและเศรษฐกิจ เพื่อหยุดความขัดแย้ง และพร้อมแทรกแซงทางทหารปกป้องพลเรือนและดินแดน หากว่าไทยยังคงละเมิดสิทธิมนุษยชนด้วยการโจมตีพลเรือนกัมพูชา

"ผมคิดว่ามันโหดร้ายและละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างรุนแรง และละเมิดข้อตกลงสันติภาพที่ลงนามเมื่อช่วงปลายเดือนตุลาคม ผมคิดว่ารัฐบาลกัมพูชาต้องพร้อมและใช้หนทางทางกฎหมายต่างๆนานา จัดการกับสงครามที่ยืดเยือและอาชญากรรมสงครามนี้" เขากล่าว "รัฐบาลจำเป็นต้องใช้ทุกวิถีทาง ทั้งการทูตและแรงกดดันทางเศรษฐกิจจากอาเซียนและพลไกต่างๆของยูเอ็น แลพต้องพร้อมสำหรับเข้าแทรกแซงทางทหารเพื่อปกป้องพลเรือนและดินแดน"

Am Sam Ath ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการของกลุ่มสันนิบาตกัมพูชาเพื่อส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน บอกว่าการโจมตีพลเรือนกัมพูชา "ละเมิดสิทธิมนุษยชนร้ายแรง และขัดแย้งกับกฎหมายระหว่างประเทศ" พร้อมบอกว่าไม่มีกรณีแวดล้อมใดที่ทหารจะสามารถยิงและสังหารพลเรือนของประเทศหนึ่งๆ เขาเน้นย้ำว่ากัมพูชามีสิทธิ์ฟ้องร้องสำหรับอาชญากรรมนี้ต่อศาลอาญาระหว่างประเทศ "ดูเหมือนไทยไม่เคารพต่อข้อตกลงสันติภาพกับกัมพูชา ที่สนับสนุนและเป็นสักขีพยานโดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯและประธานอาเซียน"

(ที่มา:คิริโพสต์)


กำลังโหลดความคิดเห็น