เอเจนซีส์ - เครมลินกล่าวหารัฐบาลฝรั่งเศสของประธานาธิบดี เอ็มมานุเอล มาครง กำลังวางแผนเปิดทางเพื่อสามารถลอบส่งกำลังทหารฝรั่งเศสเข้าไปในยูเครนเพื่อช่วยกองทัพเคียฟรบกับรัสเซียหลังทำข้อตกลงขายเครื่องบินขับไล่ราฟาล 100 ลำและระบบป้องกันภัยทางอากาศให้เซเลนสกี
ดิเอ็กซเพรสของอังกฤษรายงานวานนี้(2 ธ.ค)ว่า ปารีสจะจัดส่งเครื่องบินขับไล่ราฟาล F4 จำนวน 100 ลำรวมไปถึงระบบป้องกันภัยทางอากาศแบบก่วหน้า เป็นข้อตกลงที่ประธานาธิบดียูเครน โวโลดิมีร์ เซเลนสกีชี้ว่าเป็นดีลครั้งประวัติศาสตร์
การส่งมอบเครื่องบินรบจะเกิดขึ้นเร็วสุดในปีหน้า
เป็นข้อตกลงที่จะช่วยเสริมสมรรถนภาพการป้องกันภัยทางอากาศครั้งใหญ่ให้แก่ยูเครนหลังที่ผ่านมาโดนรัสเซียโจมตีทางอากาศอย่างหนัก
แต่ทว่าผู้เชี่ยวชาญทางการทหารรัสเซียแสดงความเห็นว่า อย่างไรก็ตามเคียฟจำเป็นต้องได้รับการช่วยเหลือจากฝรั่งเศสในการควบคุมยุทโธปกรณ์ที่ล้ำสมัยเหล่านี้
หน่วยข่าวกรองต่างประเทศของรัสเซีย SVR ได้ชี้ไปที่มติรัฐบาลหมายเลข No. 2025-1030 ที่เพิ่งรับเมื่อไม่นานมานี้
โดยหน่วยข่าวกรองรัสเซีย SVR อ้างว่า กฎหมายดังกล่าวจะเปิดโอกาสให้ปารีสสามารถใช้บริษัทการทหารเอกชนของตัวเองให้การสนับสนุนต่อประเทศที่ 3 ในรัฐที่มีสงครามความขัดแย้ง แต่เป็นสิ่งที่ฝรั่งเศสออกมาปฎิเสธโดยสิ้นเชิง
หน่วยข่าวกรองต่างประเทศรัสเซียได้เตือนมาครงว่า รัสเซียจะมองว่า “ฝรั่งเศส” เข้าร่วมทางตรงในสงครามหากว่ามีการส่งทหารฝรั่งเศสใดๆก็ตามเข้าสู่ยูเครน
“การบังคับเครื่องบินรบมิราจและอุปกรณ์อื่นๆต้องใช้เวลาและเป็นเจ้าหน้าที่พิเศษเชี่ยวชาญสูง” รายงานจากแถลงการณ์
และเสริมต่อว่า “ด้วยจุดประสงค์นี้ เคียฟจำเป็นต้องได้บริษัทเอกชนทางการทหารที่มีพร้อมกับอาวุธตะวันตกที่ทันสมัยที่ส่วนใหญ่จะเป็นอาวุธฝรั่งเศส”
แถลงการณ์กล่าวต่อว่า “บริษัทการทหารเอกชนตะวันตกสามารถแก้ปัญหาเหล่านี้ แต่การเข้าร่วมของพวกเขาจะถูกมอสโกมองว่า เป็นการเข้าร่วมโดยตรงของฝรั่งเศสในปฎิบัติการทหารต่อรัสเซีย”
และหน่วยข่าวกรองรัสเซียเสริมว่า “ทหารรับจ้างเอกชนฝรั่งเศสใดก็ตามในยูเครนจะถือเป็นเป้าอย่างชอบธรรมของกองกำลังรบรัสเซีย”


