ไล่ ชิงเต๋อ ผู้นำไต้หวัน ประกาศในวันพุธ (26 พ.ย.) ว่าจะจัดสรรงบประมาณด้านกลาโหมพิเศษจำนวน 40,000 ล้านดอลลาร์สำหรับการจัดซื้ออาวุธ เป็นการตอกย้ำความมุ่งมั่นในการปกป้องตัวเองท่ามกลางการคุกคามจากจีนที่เพิ่มทวีขึ้น รวมทั้งพันธมิตรสำคัญอย่างอเมริกาก็กดดันให้เกาะมังกรน้อยเพิ่มการใช้จ่ายทางทหาร ด้านปักกิ่งประณามไทเปปล่อยให้คนนอกจูงจมูก ซ้ำยังผลาญงบประมาณจำนวนมากเพื่อประจบสอพลอมหาอำนาจต่างชาติ
งบประมาณพิเศษก้อนนี้จะถูกจัดสรรออกมาใช้จ่ายในระยะเวลา 8 ปี ตั้งแต่ปี 2026-2033 อีกทั้งเป็นการเพิ่มเติมจากที่ตัวประธานาธิบดีไล่ ได้แถลงให้สัญญาเอาไว้ก่อนหน้านี้ว่า จะเพิ่มงบประมาณรายจ่ายด้านกลาโหมขึ้นสู่ระดับเท่ากับ 5% ของมูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) โดยถือเป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์ของเขาท่ามกลางการคุกคามของจีนที่ประกาศว่าอาจใช้กำลังอาวุธเพื่อยึดเกาะแห่งนี้กลับมารวมชาติ
ในการแถลงเมื่อวันพุธ (26) ไล่บอกว่า ไต้หวันและภูมิภาคอินโด-แปซิฟิกเผชิญการคุกคามจากจีนมากขึ้น การบุกรุกทางทหารหลากหลายรูปแบบ การสร้างพื้นที่สีเทาทางทะเล และการเผยแพร่ข้อมูลเท็จกำลังเกิดขึ้นทั้งในญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์ และรอบช่องแคบไต้หวัน สร้างความกังวลอย่างมากต่อทุกๆ ฝ่ายในภูมิภาคนี้
ผู้นำไต้หวันสำทับว่า ไต้หวันในฐานะที่เป็นส่วนสำคัญที่สุดในแนวห่วงโซ่แห่งเกาะวงล้อมชั้นแรกสุด ต้องแสดงความเด็ดเดี่ยวและความรับผิดชอบมากขึ้นในการป้องกันตนเอง ทั้งนี้ แนวห่วงโซ่ที่เขาอ้างอิงนี้ หมายถึง แผนยุทธศาสตร์ของสหรัฐฯในการปิดล้อมจีน ด้วยการขีดเส้นแนวเกาะต่างๆ ที่อยู่รายล้อมจีนเป็นชั้นๆ รวม 3 ชั้น โดยชั้นแรกสุดคือวงล้อมของพวกเกาะและหมู่เกาะที่อยู่ใกล้จีนมากที่สุด ไล่ตั้งแต่เกาะต่างๆ ของญี่ปุ่นในทะเลจีนตะวันออก ไปจนถึงหมู่เกาะฟิลิปปินส์ในมหาสมุทรแปซิฟิก
ไต้หวันในปัจจุบัน มีการเพิ่มงบประมาณกลาโหมจนอยู่ที่ระดับ 3.3% ของจีดีพีสำหรับปีงบประมาณ 2026 คิดเป็นตัวเงินคือ 949,500 ล้านดอลลาร์ไต้หวัน ขณะที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เรียกร้องก่อนหน้านี้ให้ไทเปเพิ่มการใช้จ่ายทางทหารเป็น 10% ของจีดีพี ซึ่งมากกว่างบประมาณกลาโหมของอเมริกาเองหรือชาติพันธมิตรสำคัญอื่นๆ
จีนถือว่าไต้หวันที่ปัจจุบันปกครองตนเอง คือดินแดนกบฎ ช่วงหลายปีมานี้ ปักกิ่งส่งเรือรบ เรืออื่นๆของกองทัพเรือ และหน่วยยามฝั่ง ตลอดจนเครื่องบินรบและโดรน เข้าเฉียดใกล้เกาะไต้หวันอยู่เป็นประจำในระหว่างการฝึกซ้อมที่เกิดขึ้นบ่อยๆ เพื่อสร้างแรงกดดันต่อไทเป
ก่อนหน้าการแถลงในวันพุธ ไล่ ได้เปิดเผยเรื่องงบประมาณพิเศษนี้ครั้งแรกในบทความของสื่อวอชิงตันโพสต์ฉบับวันอังคาร (25) โดยบอกว่า จะใช้งบประมาณนี้ซื้ออาวุธจากอเมริกา อย่างไรก็ดี ระหว่างให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวในวันพุธ เขาบอกว่า งบประมาณดังกล่าวไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องการเจรจาต่อรองด้านภาษีศุลกากรกับวอชิงตันแต่อย่างใด
ประธานาธิบดีไต้หวันเสริมว่า จะใช้งบประมาณพิเศษนี้ในการพัฒนา “ที-โดม” หรือระบบป้องกันภัยทางอากาศแบบหลายชั้นเพื่อปกป้องกองกำลัง โครงสร้างพื้นฐานสำคัญ ชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนไต้หวันจากขีปนาวุธของจีน
ด้าน เวลลิงตัน คู รัฐมนตรีกลาโหมไต้หวัน กล่าวเพิ่มเติมในวันพุธว่า ตัวเลข 40,000 ล้านดอลลาร์คือขีดจำกัดสูงสุดสำหรับงบประมาณพิเศษ และรัฐบาลจะนำงบประมาณนี้ไปใช้ในการจัดซื้อขีปนาวุธโจมตีที่มีความแม่นยำ รวมทั้งการพัฒนาและการจัดซื้ออุปกรณ์และระบบร่วมกับอเมริกา
นอกจากนั้นไล่ยังเผยว่า รัฐบาลไต้หวันจะมุ่งเน้นการหาวิธียกระดับการป้องกันสงครามจิตวิทยาจากจีน ขณะที่จีนพยายามบ่อนทำลายความเป็นเอกภาพของไต้หวัน และเสริมว่า รัฐบาลจะติดตามและส่งเสริมการตระหนักรู้ของประชาชนเกี่ยวกับความพยายามแทรกแซงของจีนระหว่างกิจกรรมสำคัญและการเลือกตั้ง
ประธานาธิบดีไต้หวันยังแสดงความเห็นเกี่ยวกับความขัดแย้งระหว่างจีนกับญี่ปุ่นในขณะนี้ ซึ่งเริ่มต้นจากการที่ผู้นำอนุรักษนิยมของญี่ปุ่นกล่าวว่า ญี่ปุ่นอาจถูกดึงให้เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องทางทหารหากจีนโจมตีไต้หวัน ซึ่งทำให้ปักกิ่งโกรธมาก โดยไล่กล่าวว่า ความคิดเห็นของนายกรัฐมนตรีซานาเอะ ทาคาอิจิ ดูเหมือนโฟกัสที่เสถียรภาพของภูมิภาคเป็นหลัก
เขาบอกว่า หวังให้จีนเข้าใจว่า ทุกประเทศในอินโด-แปซิฟิกมีความรับผิดชอบต่อสันติภาพและเสถียรภาพ รวมทั้งหวังว่า จีนจะแสดงความรับผิดชอบในฐานะมหาอำนาจในภูมิภาค แทนที่จะเพิ่มการคุกคามและโจมตีประเทศเพื่อนบ้าน
สำหรับปฏิกิริยาจากแดนมังกร เผิง ฉิงเอิน โฆษกสำนักงานกิจการไต้หวันของจีน กล่าวในวันพุธ ระหว่างการแถลงข่าวตามวาระปกติที่ปักกิ่งว่า ไต้หวันปล่อยให้มหาอำนาจภายนอกบงการการตัดสินใจ ซ้ำยังผลาญงบประมาณที่ควรนำไปปรับปรุงชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนและพัฒนาเศรษฐกิจ ด้วยการซื้ออาวุธและประจบสอพลอมหาอำนาจต่างชาติ
เผิงยังกล่าวถึงกรณีที่ญี่ปุ่นประกาศติดตั้งขีปนาวุธใกล้ไต้หวันว่า เป็นการกระทำที่อันตรายอย่างยิ่งและเจตนาปลุกปั่นความตึงเครียดภายในภูมิภาค รวมทั้งยั่วยุการเผชิญหน้าทางทหาร ก่อนสำทับว่า จีนจะทำลายความพยายามของต่างชาติในการเข้ามาแทรกแซงกรณีไต้หวัน
(ที่มา: เอพี/รอยเตอร์/เอเอฟพี/MGRออนไลน์)


