xs
xsm
sm
md
lg

‘เซเลนสกี’ยังเหลืออะไรให้หวัง? สหรัฐฯ-รัสเซียเจรจากันเพื่อยุติสงครามยูเครน โดยมองข้ามทั้งเคียฟและยุโรปตามเคย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: สเตฟาน วูลฟ์ และ เทตยานา มัลยาเรนโก


เพื่อนทหารช่วยกันแบกหีบศพของทหารยูเครนที่เสียชีวิตในแนวหน้า ระหว่างพิธีฝังศพซึ่งจัดขึ้นที่เมืองฮอสโตเมล ของยูเครน เมื่อวันเสาร์ (22 พ.ย.) ที่ผ่านมา
(เก็บความจากเอเชียไทมส์ https://asiatimes.com/2025/11/us-russia-talks-again-bypass-kyiv-exposing-europes-weakness/)

US-Russia talks again bypass Kyiv, exposing Europe’s weakness
by Stefan Wolff and Tetyana Malyarenko
21/11/2025

ถ้าหากพวกพันธมิตรยุโรปของเคียฟเกิดอารมณ์ความรู้สึกขึ้นมาว่า ยูเครน และ เซเลนสกี กำลังกลายเป็นหัวข้อการรณรงค์เรียกร้องที่พ่ายแพ้ปราชัยเสียแล้ว ไม่ว่าในทางทหารหรือทางการเมือง พวกเขาก็อาจเลือกใช้วิธีการตัดขาดทุนและล่าถอย

การหวนกลับมาเดินหน้ากันใหม่อีกครั้ง ของการเจรจาอย่างลับๆ ที่มิได้เป็นความลับอะไรอีกต่อไปแล้ว [1] ระหว่างทำเนียบเครมลินกับทำเนียบขาว ในเรื่องแผนการที่จะยุติสงครามในยูเครน ซึ่งเข้าข้างเอาอกเอาใจรัสเซียอย่างโจ๋งครึ่ม กำลังเป็นสิ่งที่เพิ่มเติมเข้ามาสู่อารมณ์ความรู้สึกโดยทั่วไปซึ่งหดหู่มืดมนอยู่แล้วในกรุงเคียฟ ตลอดจนในหมู่บรรดาหุ้นส่วนฝ่ายตะวันตกซึ่งสนับสนุนยูเครนทั้งหลาย

ถึงแม้มีเรื่องร้ายๆ อยู่แล้ว อย่างเช่น ผลสะเทือนรุนแรงจากกรณีทุจริตคอร์รัปชั่นอันฉาวโฉ่กว้างขวาง [2] ในหมู่ชนชั้นนำของยูเครน และเรื่องที่ความพยายามของสหภาพยุโรปในการจัดหาจัดส่งความช่วยเหลือทางการเพิ่มเพิ่มเติมให้แก่เคียฟยังคงประสบภาวะชะงักงัน แต่ก็ยังคงมีข่าวเกี่ยวกับแผนการที่กำลังคุยกันระหว่างมอสโกกับวอชิงตันบวกเพิ่มเข้ามาอีก โดยเฉพาะข่าวหลังสุดนี้เปรียบเสมือนพายุสุดโหดที่กำลังก่อตัวอย่างน่าหวาดหวั่น โดยมันอาจนำไปสู่ชัยชนะของมอสโก [3] ในการทำสงครามก้าวร้าวรุกรานของพวกเขา [4] ทีเดียว

อย่างไรก็ดี นี่ยังไม่ใช่เป็นบทสรุปที่วางเอาไว้ล่วงหน้าซึ่งถึงยังไงก็ต้องเกิดขึ้นแน่ๆ แล้ว แม้ต้องยอมรับว่ายูเครน [5] กำลังอยู่ในช่วงเวลาอันยากลำบากมากๆ ในแนวรบต่างๆ หลากหลายด้าน การเสียเมือง โปครอฟสก์ (Pokrovsk) [6] เมืองศูนย์คมนาคมสำคัญในแคว้นโดเนตสก์ ทางภาคตะวันออกของยูเครน เวลานี้มันไม่ใช่เป็นคำถามว่าจะสูญเสียหรือไม่ แต่อยู่ที่ว่าจะสูญเสียเมื่อใดต่างหาก รวมทั้งคำถามที่ว่าทั้งสองฝ่ายต้องสูญเสียกำลังทหารไปอีกมากน้อยขนาดไหนก่อนที่รัสเซียจะสามารถเข้ายึดเมืองซึ่งอยู่ในสภาพที่เหลือแต่กองปรักหักพังแห่งนี้ได้

รัสเซียยังเพิ่มแรงกดดันมากขึ้น [7] ในพื้นที่แนวหน้า ทั้งบริเวณแคว้นซาโปริซเซีย (Zaporizhia) และรอบๆ แถบชายฝั่งของแคว้นเคียร์ซอน (Kherson) รวมทั้งมีความเป็นไปได้อย่างมากที่เครมลินจะผลักดันความได้เปรียบของฝ่ายตนในเวลานี้ให้คืบหน้าต่อไปอีกด้วย โดยเป็นที่คาดหมายกันว่าจะเกิดการสู้รบเพิ่มขึ้นในบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนืออีกครั้งรอบๆ เมืองคาร์คิฟ (Kharkiv) [8] เมืองใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 2 ของยูเครน

จากสถานการณ์ในเวลานี้ สงครามที่สู้รบกันแบบสงครามพร่ากำลัง (war of attrition) คราวนี้ ทางฝ่ายรัสเซียกำลังได้เปรียบอย่างชัดเจน ทว่าเมื่อพิจารณาจากทัศนะมุมมองทางทหารอย่างเดียวล้วนๆ การสูญเสียเมืองโปครอฟสก์ หรือการที่รัสเซียบุกยึดดินแดนได้เพิ่มมากขึ้นในบริเวณอื่นๆ ล้วนแต่ยังไม่ได้หมายความถึงอันตรายที่ยูเครนจะพังครืนลงอยู่รอมร่อแล้ว

อย่างไรก็ดี สงครามนั้นไม่เคยเลยที่จะเป็นเรื่องของความพยายามทางการทหารอย่างเดียวล้วนๆ แต่มันยังต้องมีเจตนารมณ์ทางการเมืองและทรัพยากรต่างๆ ทางการเงินเข้ามาเกื้อหนุนชนิดขาดไม่ได้อีกด้วย ด้วยเหตุนี้เอง สิ่งที่ถือเป็นภัยคุกคามอันน่ากลัวยิ่งกว่า ต่อการดำรงคงอยู่ของความพยายามในการทำสงครามของยูเครน ก็คือเรื่องผลกระทบต่อเนื่องจากกรณีคอร์รัปชั่นฉาวโฉ่ ถึงแม้ว่าตรงนี้ก็เช่นกัน มันยังไม่ได้มีความแน่นอนอะไรทั้งนั้น

คุณสมบัติที่ถือเป็นลักษณะประจำตัวประการหนึ่งของกรณีอื้อฉาวทางการเมืองทั้งหลายในยูเครน ก็คือว่า ความยากลำบากในการคาดทายทำนายปฏิกิริยาที่จะออกมาจากสังคมวงกว้างของชาวยูเครน บางเหตุการณ์สามารถที่จะกลายเป็นชนวนทำให้เกิดการประท้วงขนาดใหญ่โตซึ่งนำไปสู่ความเปลี่ยนแปลงอย่างชนิดฟ้าพลิกคว่ำแผ่นดินถล่ม

นี่คือกรณีที่เกิดขึ้นในเหตุการณ์ซึ่งเรียกกันว่า การปฏิวัติจัตุรัสยูโรไมดาน (Euromaidan revolution) [9]  ในปี 2014 โดยที่การปฏิวัติคราวนั้นได้ก่อให้เกิดเหตุการณ์ต่างๆ ต่อเนื่องตามมาเป็นสาย ตั้งแต่การที่มอสโกประกาศผนวกแหลมไครเมีย และการที่กองกำลังซึ่งเป็นตัวแทนของฝ่ายรัสเซียเข้ายึดครองพื้นที่หลายๆ ส่วนของภูมิภาคดอนบาสในภาคตะวันออกของยูเครน ไปจนถึงการที่ทำเนียบเครมลินเปิดการรุกรานยูเครนอย่างเต็มขั้นในเดือนกุมภาพันธ์ 2022

แต่สำหรับวิกฤตทางการเมืองครั้งอื่นๆ กลับผ่านพ้นไปโดยไม่ได้มีการลุกฮือของประชาชนอย่างใหญ่โตอะไร นี่ก็รวมถึงกรณีการปลด [10] พลเอก วาเลอรี ซาลุซนี (Valerii Zaluzhnyi) นายทหารที่ได้รับความนิยมชมชื่นอย่างสูง ออกจากตำแหน่งผู้บัญชาการสูงสุดของกองทัพยูเครนในปี 2024 โดยที่ ซานุซนี ซึ่งถูกจับตามองอย่างกว้างขวางว่ามีความเป็นไปได้ที่จะก้าวขึ้นมาเป็นผู้ท้าทาย โวโลดิมีร์ เซเลนสกี ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีในอนาคต ได้ถูกส่งตัวไปเป็นเอกอัครราชทูตยูเครนประจำกรุงลอนดอน ในลักษณะเป็นการถูกเนรเทศกลายๆ ในเวลาต่อมา

เท่าที่ดำเนินมาจนถึงเวลานี้ กรณีทุจริตฉาวโฉ่ในปัจจุบัน [11] ยังไม่ได้จุดประกายให้เกิดการประท้วงอย่างกว้างขวางของผู้คนจำนวนมากในยูเครนแต่อย่างใด รวมทั้งไม่ได้ทำให้เกิดการตอบโต้อย่างเผ็ดร้อนรุนแรงมากจากพวกผู้นำยุโรป กระนั้นก็ตามที ข้อเท็จจริงที่ว่าพวกบุคคลวงในของ เซเลนสกี ทุกๆ คนก็ว่าได้ [12] ล้วนแต่มีส่วนเกี่ยวข้องพัวพันกับการคอร์รัปชั่นคราวนี้กันทั้งนั้น ทั้งนี้เมื่อยึดเอาตามการแถลงเปิดเผยของสำนักข่าวต่อต้านการทุจริตแห่งชาติของยูเครน (ชื่อย่อที่นิยมเรียกกันของหน่วยงานแห่งนี่ คือ นาบู Nabu) ก็ยังคงบีบบังคับให้ประธานาธิบดีเซเลนสกี ต้องออกมาเปิดการตอบโต้และหาทางคลี่คลายปัญหานี้อย่างครอบคลุมรอบด้าน

ติมูร์ มินดิช (Timur Mindich) ผู้เป็นเพื่อนมิตรและหุ้นส่วนทางธุรกิจที่เก่าแก่ยาวนานของ เซเลนสกี ถูกเล่นงานลงโทษคว่ำบาตรอย่างรุนแรง หลังจากที่เขาสามารถหลบหนีออกไปจากยูเครนได้สำเร็จเพียงแค่ไม่กี่ชั่วโมงก่อนที่ Nabu เริ่มเดินหน้ากวาดจับผู้เกี่ยวข้องครั้งใหญ่ในวันที่ 10 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ต่อจากนั้น ภายหลังกรณีอื้อฉาวล่าสุดนี้ถูกเผยแพร่ออกไปอย่างกว้างขวางได้ราว 1 สัปดาห์ รัฐสภายูเครนยังได้ลงมติให้ปลด รัฐมนตรียุติธรรม เจอร์มัน กาลุซเชนโก (German Galushchenko) และรัฐมนตรีพลังงาน สวิตลานา ฮรีนชุค (Svitlana Hrynchuk) [13] ซึ่งต่างมีส่วนพัวพันกับเรื่องฉาวครั้งนี้ ออกจากตำแหน่ง

เวลาเดียวกัน ตัว เซเลนสกี เองก็ออกเดินสายทัวร์ด่วนทางการทูตโดยแวะเยือนตามเมืองหลวงของหลายชาติยุโรปแบบรวบรัด ด้วยวัตถุประสงค์เพื่อยกระดับเพิ่มพูนความสนับสนุนให้แก่รัฐบาลและประเทศชาติที่เต็มไปด้วยความยากลำบากของเขา

เขาลงแรงพยายามจนสำเร็จ [14] เพื่อเปิดสายลำเลียงขนส่งก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) ที่นำเข้าจากสหรัฐฯ โดยผ่านกรีซ ซึ่งน่าจะช่วยให้ยูเครนผ่านพ้นช่วงเวลาหลายเดือนอันยากลำบากของฤดูหนาวปีนี้ไปได้ นอกจากนั้นเขาได้ทำข้อตกลงทางทหารครั้งใหญ่กับฝรั่งเศส [15] ซึ่งในนั้นรวมถึงการที่ปารีสให้สัญญาว่าในระยะสั้นเฉพาะหน้าจะดำเนินการปรับปรุงยกระดับการป้องกันภัยทางอากาศให้แก่ยูเครน ขณะที่ในระยะยาวก็มีการให้คำมั่นที่จะจัดส่งเครื่องบินขับไล่จำนวน 100 ลำในช่วงเวลา 10 ปีข้างหน้ำไปให้เคียฟ

ถึงแม้สิ่งเหล่านี้มีความสำคัญ แต่มันก็จัดอยู่ในประเภทมาตรการแก้ปัญหาระยะสั้นเฉพาะหน้ามากกว่าจะสามารถกลายเป็นตัวเปลี่ยนเกมอะไรได้ อีกทั้งไม่จำเป็นว่ามาตรการเฉพาะหน้าเหล่านี้จะเป็นดีลที่ตกลงกันอย่างแน่นอนลงตัวแล้ว อันที่จริง สหภาพยุโรปและพวกชาติสมาชิกยังคงกำลังหลีกเลี่ยงไม่พูดความจริง [16] เกี่ยวกับการหาเงินกู้ที่ยูเครนจำเป็นต้องได้รับอย่างเร่งด่วน ถ้าหากไม่ได้เงินกู้ก้อนนี้แล้ว เคียฟก็หมดเงินงบประมาณใช้จ่ายสำหรับจ่ายเงินเดือนให้พวกทหาร, ข้าราชการพลเรือน, และพวกผู้รับบำนาญของตนในเดือนกุมภาพันธ์ที่จะถึงนี้

ในเวลาเดียวกัน เซเลนสกี ยังกำลังเผชิญแรงบีบคั้น [17] จากกลุ่มการเมืองภายในรัฐสภาของเขาเอง ที่ใช้ชื่อว่า กลุ่ม “ผู้รับใช้ประชาชน” (Servant of the People) ตัวเขานั้นวางแผนเอาไว้ว่าจะนำเสนอทริปทัวร์ยุโรปของเขาคราวนี้ให้แก่กลุ่มการเมืองนี้ ในฐานะที่เป็นเสียงลงมติไว้วางใจซึ่งเขาได้รับมาจากพวกชาติพันธมิตรตะวันตก ทว่าบางทีเขายังคงอาจจะต้องสังเวย อันดรี เยอร์มัค (Andrii Yermak) พันธมิตรที่สนิทสนมไว้วางใจของเขามายาวนาน ด้วยการขอให้เยอร์มัคยื่นใบลาออก เนื่องจากเขาถูกโยงใยพัวพันอยู่ในกรณีทุจริตฉาวโฉ่ล่าสุดด้วย

ในฐานะที่ดำรงตำแหน่งที่มีอิทธิพลสูงมาก อย่างการเป็นปลัดสำนักงานประธานาธิบดี บางครั้ง เยอร์มัค ถูกมอง [18] ถึงขั้นว่าเป็นผู้ปกครองในทางพฤตินัยของยูเครน การถอดเขาออกจากตำแหน่ง บางทีอาจจะสร้างความยินดีให้แก่พวกนักวิพากษ์วิจารณ์ทั้งภายในประเทศและภายนอกประเทศ ขณะที่หาก เซเลนสกี เลือกที่จะไม่ทำเช่นนั้น ก็จะไม่ถูกมองว่าเป็นการส่งสัญญาณแสดงถึงความเข้มแข็งแต่อย่างใด

จากข้อเท็จจริงที่ว่า ตำแหน่งของพันธมิตรตัวหลักขนาดนี้ของเขา ต้องกลายเป็นเรื่องที่ถูกหยิบมาพิจารณาถกเถียงกันเช่นนี้ ย่อมเป็นสัญญาณอีกประการหนึ่งที่ชี้ให้เห็นว่า อำนาจทางการเมืองของเซเลสกี บางทีจะอยู่ในระดับอ่อนแอจนอยู่รอดต่อไปได้ยากเสียแล้ว

สงครามพร่ากำลังในยูเครนปัจจุบัน ทำให้รัสเซียเป็นฝ่ายได้เปรียบ (แผนที่ซึ่งจัดทำโดยสถาบันเพื่อการศึกษาสงคราม Institute for the Study of War หน่วยงานคลังสมองในสหรัฐฯ) ดูคำอธิบายเพิ่มเติมแผนที่ฉบับนี้ได้ที่https://understandingwar.org/map/assessed-control-of-terrain-in-the-russo-ukrainian-war-november-19-2025-at-130-pm-et/
 ก้าวที่จะต้องเดินต่อไป

ทั้งหมดที่กล่าวมานี้ ยังคงมีสิ่งสำคัญอย่างยิ่งยวดขาดหายไปอยู่ 3 สิ่ง ประการแรกเลยคือ แผนการสำหรับการสืบทอดอำนาจในยูเครน พวกนักการเมืองฝ่ายค้านอย่างเช่น อดีตประธานาธิบดีเปโตร โปโรเชนโก (Petro Poroshenko) และอดีตนายกรัฐมนตรี ยูเลีย ทิโมเชนโก (Yulia Tymoshenko) ปัจจุบันต่างกลายเป็นผู้ที่ไม่ได้รับความนิยมจากประชาชน สืบเนื่องจากความมัวหมองที่ถูกกล่าวหาว่าทุจริตคอร์รัปชั่นในช่วงที่พวกเขาขึ้นครองอำนาจ

เวลานี้ ไม่มีเส้นทางที่ชัดเจนใดๆ สำหรับการหาตัวผู้ที่จะเข้าแทนที่ เซเลนสกี หากเขายืนกรานปฏิเสธไม่ยอมก้าวลงจากตำแหน่ง และแม้กระทั่งว่าสามารถหาผู้ที่ขึ้นมาแทนที่เขาได้สำเร็จแล้ว คณะรัฐบาลผสมที่จัดตั้งขึ้นมาใหม่โดยยึดโยงอยู่กับฐานเสียงของฝ่ายต่างๆ ในขอบเขตกว้างขวางยิ่งขึ้นกว่าเดิม ก็ไม่น่าที่จะค้นพบมนตราอัศจรรย์ใดๆ สำหรับการเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ทางทหารที่น่าเป็นห่วงของยูเครนให้กลับดีขึ้นมาได้

เรื่องที่สองซึ่งยังขาดหายไม่ทราบกันอย่างแน่นอนชัดเจน ได้แก่ ท่าทีของทำเนียบขาว และการทำข้อตกลงของพวกเขากับทำเนียบเครมลิน จากรายงานข่าวที่เผยแพร่ออกมาดูเหมือนว่าเวลานี้สหรัฐฯกับรัสเซียกำลังจัดทำแผนสันติภาพยูเครนที่มีเนื้อหารวม 28 ข้อ โดยที่มีแนวโน้มว่า แผนการนี้จะเรียกร้องให้ฝ่ายยูเครนต้องยินยอมอ่อนข้ออย่างสำคัญ [19] ทั้งในเรื่องการสละดินแดน และการลดขนาดกองทัพของพวกเขาในอนาคต ทว่าในเวลาเดียวกันนี้ก็จะไม่ได้รับหลักประกันด้านความมั่นคงปลอดภัยที่ทรงประสิทธิภาพใดๆ

ทางพวกรัฐมนตรีต่างประเทศของยุโรปที่มีการปรึกษาหารือกันอย่างรวดเร็ว ได้แสดงปฏิกิริยาอันว่องไวในการยืนกราน [20] ว่าแผนการสันติภาพใดๆ ก็ตามจำเป็นต้องได้รับการหนุนหลังจากฝ่ายยูเครนและฝ่ายยุโรปด้วย ทว่าความกระหายของพวกเขาในการต้านทานผลักไสแผนการเช่นนี้ให้ตกไปอาจจะกำลังอ่อนแรงเสียแล้ว ถ้าหากพวกพันธมิตรตะวันตกของเคียฟเกิดอารมณ์ความรู้สึกขึ้นมาว่า ยูเครน และ เซเลนสกี กำลังกลายเป็นหัวข้อการรณรงค์เรียกร้องที่พ่ายแพ้ปราชัยเสียแล้ว ไม่ว่าในทางทหารหรือทางการเมือง พวกเขาก็อาจเลือกใช้วิธีการตัดขาดทุนและล่าถอย

สิ่งที่บางทีเราอาจจะได้เห็นกันจากแนวโน้มเช่นนี้ก็คือ ประเทศเหล่านี้จะดำเนินการเพิ่มความแข็งขันให้แก่การป้องกันชาติของพวกเขาเอง และเข้าร่วมเอาด้วยกับแผนการที่สหรัฐฯหนุนหลัง ในการแลกเปลี่ยนดินแดนและอธิปไตยของยูเครน กับความคาดหวังซึ่งผอมเรียวบอบบางสุดๆ ว่ารัสเซียก็จะยอมรับการต่อรองเช่นนี้ด้วยดี

เรื่องสำคัญยิ่งที่ขาดหายยังไม่ทราบกันอย่างชัดเจนเลยเรื่องที่สาม ได้แก่ ปูติน จะยอมทำดีลกับทรัมป์แล้ว หรือยังจะลากยาวการเจรจาต่อรองและผลักดันข้อเรียกร้องตามความต้องการของตนต่อไปโดยไม่แยแสสนใจยูเครน ทั้งนี้ ประวัติความเป็นมาในอดีตของ ปูติน ซึ่งขึ้นชื่อลือชาในเรื่องการใช้กลยุทธ์จงใจเตะถ่วงหรือทำให้เกิดการล่าช้า ย่อมเป็นสิ่งที่บ่งบอกตัวเองอยู่แล้ว

ยิ่งไปกว่านั้น การที่โฆษกทำเนียบเครมลิน ดมิตริ เปสคอฟ (Dmitry Peskov) แถลงเอาไว้เมื่อเร็วๆ นี้ ]21] ที่ว่าเขาไม่มีข่าวพัฒนาการใหม่ๆ ใดๆ จะประกาศให้ทราบในเรื่องเกี่ยวกับแผนการสันติภาพที่อาจเกิดขึ้นมาได้ นี่ย่อมเป็นเครื่องบ่งชี้อย่างแข็งแรงว่าแบบแผนวิธีการของเครมลินยังคงไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลง เมื่อพิจารณาจากสิ่งที่ดูเหมือนวางอยู่บนโต๊ะเจรจา[22] แม้กระทั่งถ้าหาก ปูติน เกิดเอนโอนมาในทางที่จะทำข้อตกลง มันก็ยากที่จะสร้างความสบายบใจใดๆ ให้แก่เคียฟและบรัสเซลส์

อันตรายสำหรับเคียฟและพวกหุ้นส่วนยุโรปของยูเครนก็คือว่า การเที่ยวพูดจาว่ายูเครนกำลังจะพังครืนทั้งทางการเมืองและทางทหารนั้น จะกลายเป็นวาจาคำทำนายซึ่งคอยหล่อเลี้ยงทำให้มันกลายเป็นความจริงขึ้นมาจนได้ในท้ายที่สุด ผลพวงต่อเนื่องจากการนี้ ซึ่งได้แก่การที่เคียฟสยบยืนยอมตามคำบงการเรื่องสันติภาพของฝายรัสเซีย จะต้องถือเป็นผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจากความไร้สมรรถภาพของการเมืองภายในประเทศของยูเครนเอง และความไม่เอาไหนของแรงสนับสนุนของฝ่ายตะวันตก พอ ๆ กับที่เป็นการสมรู้ร่วมคิดกันใดๆ ก็ตามระหว่าง ทรัมป์ กับ ปูติน

สเตฟาน วูลฟ์เป็นศาสตราจารย์ด้านความมั่นคงระหว่างประเทศ อยู่ที่มหาวิทยาลัยเบอร์มิงแฮม, สหราชอาณาจักร ส่วน เทตยานา มัลยาเรนโก เป็นศาสตราจารย์ด้านความมั่นคงระหว่างประเทศ และศาสตราจารย์ฌองโมเนต์ ด้านความมั่นคงยุโรป (Jean Monnet professor of European security) ณ มหาวิทยาลัยแห่งชาติสถาบันวิชาการกฎหมายโอเดสซา (National University Odesa Law Academy) , ยูเครน

ข้อเขียนนี้มาจากเว็บไซต์ เดอะ คอนเวอร์เซชั่น https://theconversation.com/ โดยสามารถติดตามอ่านข้อเขียนดั้งเดิมชิ้นนี้ได้ที่ https://theconversation.com/ukraine-and-europes-weakness-exposed-as-us-and-russia-again-negotiate-behind-kyivs-back-270104

เชิงอรรถ

[1]https://www.ft.com/content/23536bf6-c550-4896-931f-a33a1c2ad91a
[2]https://theconversation.com/ukraine-energy-corruption-scandal-threatens-to-derail-zelenskys-government-and-undermine-its-war-effort-269437
[3]https://theconversation.com/topics/russia-1376
[4]https://theconversation.com/topics/ukraine-invasion-2022-117045
[5]https://theconversation.com/topics/ukraine-8201
[6]https://kyivindependent.com/what-would-russias-capture-of-pokrovsk-mean-in-the-war/
[7]https://understandingwar.org/research/russia-ukraine/russian-offensive-campaign-assessment-november-19-2025/
[8]https://www.france24.com/en/europe/20251119-russian-strikes-ukraine-injure-dozens-whole-country-alert
[9]https://www.britannica.com/place/Ukraine/The-Maidan-protest-movement
[10]https://carnegieendowment.org/russia-eurasia/politika/2024/02/what-does-general-zaluzhnys-dismissal-mean-for-ukraine?lang=en
[11]https://theconversation.com/ukraine-energy-corruption-scandal-threatens-to-derail-zelenskys-government-and-undermine-its-war-effort-269437
[12]https://english.nv.ua/nation/shabunin-warns-new-mindich-tapes-may-expose-zelenskyy-s-inner-circle-and-test-anti-graft-resolve-50561619.html
[13]https://www.reuters.com/world/ukrainian-parliament-sacks-justice-minister-galushchenko-2025-11-19/
[14]https://www.bbc.co.uk/news/articles/c0ex0y0p31jo
[15]https://www.bbc.co.uk/news/articles/cwy170jkekdo
[16]https://www.rferl.org/a/eu-options-ukraine-financing-russia-war/33594928.html
[17]https://www.pravda.com.ua/eng/news/2025/11/18/8007753/index.amp
[18]https://kyivindependent.com/who-is-andriy-yermak-and-can-ukraines-new-corruption-scandal-finally-sink-him/
[19]https://www.reuters.com/world/europe/ukraines-zelenskiy-set-talks-turkey-new-peace-drive-2025-11-19/
[20]https://www.reuters.com/world/europe/ukrainians-europeans-must-be-board-with-any-plan-end-war-eu-ministers-say-2025-11-20/
[21]https://www.reuters.com/world/europe/kremlin-says-nothing-new-report-ukraine-peace-proposals-2025-11-19/
[22]https://www.bbc.co.uk/news/articles/cvgdgrqwnq9o

แผนสันติภาพยูเครน 28 ข้อของโดนัลด์ ทรัมป์

แอคซิออส (Axios) เว็บไซต์ข่าวออนไลน์ชื่อดังที่ตั้งสำนักงานใหญ่ในสหรัฐฯ เป็นสื่อมวลชนรายแรกที่รายงานข่าวเมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน โดยอ้างแหล่งข่าวทั้งที่เป็นพวกเจ้าหน้าที่ของสหรัฐฯและของยูเครน เปิดเผยว่า คณะบริหารของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กำลังทำงานอย่างลับๆ โดยมีการปรึกษาหารือกับรัสเซีย เพื่อร่างแผนการใหม่ในการยุติสงครามในยูเครน หลังจากนั้น แอคซิออส ก็รายงานข่าวในวันถัดมาเกี่ยวกับเนื้อหาบางส่วนของแผนการนี้ และสื่อมวลชนสำนักอื่นๆ ก็พากันรายงานข่าวเดียวกันนี้โดยอ้างแหล่งข่าวของพวกตนเช่นเดียวกัน

แผนการนี้ซึ่งอยู่ในรูปของข้อเสนอ 28 ข้อ และถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักจากฝ่ายตะวันตกว่าเข้าข้างทำให้รัสเซียเป็นฝ่ายได้เปรียบอย่างชัดเจนนั้น ยังคงอยู่ในขั้นตอนของการร่าง อีกทั้งไม่ได้นำออกเผยแพร่ต่อสาธารณชนอย่างเป็นทางการ อย่างไรก็ดี เป็นที่เข้าใจกันว่าเจ้าหน้าที่ยูเครนได้จัดหาจัดส่งรายละเอียดต่างๆ ของข้อเสนอนี้ให้แก่พวกสื่อมวลชนระหว่างประเทศ ซึ่งหลายสำนักได้นำออกเผยแพร่ โดยปรากฏว่ามีเนื้อหารายละเอียดที่เหมือนกัน

สำหรับต้นฉบับที่ผู้แปลเก็บความนำมาเสนอในที่นี้ ได้มาจากสำนักข่าวเอเอฟพี ซึ่งระบุว่าได้รับมาเมื่อคืนวันที่ 20 พ.ย. และทางเอเอฟพีนำมาเผยแพร่แบบเต็มทั้งฉบับ เนื้อความของแผนการ 28 ข้อ มีดังนี้

1.อธิปไตยของยูเครนจะได้รับการยืนยันรับรอง

2.รัสเซีย, ยูเครน, และยุโรป จะทำข้อตกลงไม่รุกรานกันอย่างรอบด้าน (comprehensive non-aggression agreement) ความกำกวมคลุมเครือทั้งหมดของระยะเวลา 30 ปีที่ผ่านมาจะต้องได้รับการตกลงแก้ไขโดยผ่านการพิจารณาไตร่ตรอง

3.เป็นที่คาดหมายว่า รัสเซียจะไม่รุกรานพวกประเทศเพื่อนบ้าน และนาโต้ก็จะไม่ขยายตัวต่อไปอีก

4.จะมีการจัดการสนทนากันระหว่างรัสเซียกับนาโต้ โดยที่มีสหรัฐฯเป็นคนกลาง เพื่อแก้ไขคลี่คลายประเด็นปัญหาทางด้านความมั่นคงทั้งหมด และสร้างเงื่อนไขต่างๆ สำหรับการลดระดับความขัดแย้ง เพื่อเป็นหลักประกันสำหรับความมั่นคงในระดับโลก และเพิ่มพูนโอกาสสำหรับการร่วมมือประสานงานกันและการพัฒนาทางเศรษฐกิจในอนาคต

5.ยูเครนจะได้รับหลักประกันต่างๆ ทางด้านความมั่นคงที่เชื่อถือได้

6.กองทัพยูเครนจะถูกจำกัดขนาดไม่ให้มีกำลังพลเกิน 600,000 นาย

7.ยูเครนตกลงที่จะระบุลงในรัฐธรรมนูญของตนว่า ยูเครนจะไม่เข้าร่วมเป็นสมาชิกองค์การนาโต้ และองค์การนาโต้ก็ตกลงที่จะบรรจุมาตราลงไปในกฎบัตรของตนว่าจะไม่รับยูเครนเข้าเป็นสมาชิกในอนาคตข้างหน้า

8.นาโต้ตกลงที่จะไม่มีกำลังทหารประจำอยู่ในยูเครน

9.เครื่องบินขับไล่ทั้งหลายของยุโรปจะถูกนำไปประจำอยู่ในโปแลนด์

10.การค้ำประกันของสหรัฐฯ:

-สหรัฐฯจะได้รับค่าชดเชยสำหรับการค้ำประกันดังกล่าวนี้
-ถ้ายูเครนรุกรานรัสเซีย ยูเครนก็จะสูญเสียการค้ำประกันนี้
-ถ้ารัสเซียรุกรานยูเครน นอกเหนือจากถูกตอบโต้ทางทหารแบบมีการร่วมมือประสานงานกันอย่างเด็ดขาดแล้ว มาตรการแซงก์ชั่นคว่ำบาตรจากทั่วโลกทั้งหมดก็จะถูกนำมาบังคับใช้อีกครั้ง ขณะที่การยอมรับเรื่องดินแดนใหม่ๆ ตลอดจนผลประโยชน์อื่นๆ ทั้งหมดของข้อตกลงนี้จะถูกยกเลิก
-ถ้ายูเครนยิงขีปนาวุธใส่มอสโกหรือเซนต์ปิเตอร์สเบิร์กโดยไม่มีเหตุผลสมควรแล้ว การค้ำประกันความมั่นคงนี้ก็จะถูกถือว่าไม่มีผลบังคับ

11.ยูเครนมีสิทธิที่จะสมัครเข้าเป็นสมาชิกของสหภาพยุโรป และจะได้รับสิทธิพิเศษระยะสั้นในการเข้าถึงตลาดยุโรป ในช่วงที่ประเด็นปัญหานี้กำลังได้รับการพิจารณา

12.ชุดมาตรการต่างๆ ในระดับโลกที่ทรงพลังมาก เพื่อการฟื้นฟูบูรณะยูเครน ซึ่งจะประกอบด้วย –แต่ไม่ได้จำกัดอยู่แต่เฉพาะ—เรื่องต่อไปนี้

a.การก่อตั้งกองทุนพัฒนายูเครน (Ukraine Development Fund) ขึ้นมา เพื่อลงทุนในพวกอุตสาหกรรมเติบโตเร็วต่างๆ เป็นต้นว่า เทคโนโลยี, ศูนย์ข้อมูล (data centres), และปัญญาประดิษฐ์
b.สหรัฐฯจะร่วมมือประสานงานกับยูเครนเพื่อร่วมมือกันฟื้นฟูบูรณะ, พัฒนา, ปรับปรุงให้ทันสมัย, และดำเนินการ โครงสร้างพื้นฐานด้านก๊าซของยูเครน โดยครอบคลุมถึงพวกสายท่อส่งและสิ่งปลูกสร้างในการจัดเก็บก๊าซ
c.ความพยายามร่วมกันในการฟื้นฟูพวกพื้นที่ซึ่งได้รับความกระทบกระเทือนจากสงคราม ให้กลับคืนสู่ภาวะปกติ, การก่อสร้างเมืองใหญ่ๆ และพวกพื้นที่พำนักอาศัยขึ้นมาใหม่ และการปรับปรุงสร้างความทันสมัยให้แก่เมืองใหญ่ๆ และพวกพื้นที่พำนักอาศัย
d.การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน
e.การขุดค้นแร่ธาตุและทรัพยากรธรรมชาติต่างๆ
f.ธนาคารโลกจะจัดทำชุดความสนับสนุนทางการเงินพิเศษขึ้นมาชุดหนึ่ง เพื่อเร่งรัดความพยายามเหล่านี้

13.รัสเซียจะได้รับการบูรณาการเข้าสู่เศรษฐกิจโลกอีกครั้งหนึ่ง ดังนี้

a.จะมีการหารือกันเพื่อยกเลิกมาตรการแซงก์ชั่นต่างๆ และตกลงกันเพื่อให้มีการยกเลิกเป็นขั้นๆ และมีการพิจารณากันเป็นรายกรณี
b.สหรัฐฯจะเข้าร่วมในข้อตกลงความร่วมมือกันทางเศรษฐกิจระยะยาว เพื่อการร่วมมือกันในการพัฒนาด้านต่างๆ ของพวกโครงการทางด้านพลังงาน, ทรัพยากรธรรมชาติทั้งหลาย, โครงสร้างพื้นฐาน, ปัญญาประดิษฐ์, พวกศูนย์ข้อมูล, การขุดค้นและถลุงโลหะแรร์เอิร์ธ ในภูมิภาคอาร์กติก ตลอดจนโอกาสต่างๆ
สำหรับผลประโยชน์ร่วมกันในทางธุรกิจอื่นๆ
c.รัสเซียจะได้รับการเชื้อเชิญให้กลับเข้าร่วมกลุ่ม จี8

14.กองทุนต่างๆ ที่ถูกอายัดเอาไว้ จะถูกนำมาใช้ดังต่อไปนี้

ทรัพย์สินของรัสเซียที่ถูกอายัดเอาไว้จำนวน 100,000 ล้านดอลลาร์ จะถูกนำมาลงทุนในความพยายามต่างๆ ซึ่งมีสหรัฐฯเป็นผู้นำ ในการฟื้นฟูบูรณะและในการลงทุนในยูเครน สหรัฐฯจะได้รับผลกำไร 50% จากการดำเนินการนี้ ยุโรปจะเพิ่มเติมเงินอีก 100,000 ล้านดอลลาร์ เข้าไปในจำนวนเงินลงทุนที่นำมาใช้ได้สำหรับการฟื้นฟูบูรณะยูเครน กองทุนของยุโรปที่ถูกอายัดไว้จะได้รับการยกเลิกอายัด กองทุนของรัสเซียที่ถูกอายัดไว้ซึ่งยังเหลืออยู่ จะถูกนำไปลงทุนในพาหะการลงทุนสหรัฐฯ-รัสเซีย (US-Russian investment vehicle) ที่แยกต่างหากออกไป ซึ่งจะนำไปใช้ดำเนินโครงการร่วมต่างๆ ในพื้นที่พิเศษเจาะจงทั้งหลาย กองทุนนี้จะมีจุดมุ่งหมายเพื่อการกระชับเพิ่มพูนความสัมพันธ์ให้เข้มแข็งยิ่งขึ้น และเพิ่มผลประโยชน์ต่างๆ ที่มีอยู่ร่วมกัน เพื่อสร้างแรงจูงใจอันแข็งแรงที่จะไม่หวนกลับไปสู่การสู้รบขัดแย้งอีก

15.จะมีการจัดตั้งกลุ่มทำงานร่วมอเมริกา-รัสเซียว่าด้วยประเด็นปัญหาต่างๆ ทางด้านความมั่นคง (joint 
American-Russian working group on security issues) เพื่อส่งเสริมสนับสนุนและทำให้เกิดความมั่นใจว่ามีการปฏิบัติตามบทมาตราทั้งหมดของข้อตกลงนี้

16.รัสเซียจะระบุเอาไว้ในกฎหมาย เรื่องที่รัสเซียมีนโยบายไม่ก้าวร้าวรุกรานใดๆ ต่อยุโรปและต่อยูเครน

17.สหรัฐฯกับรัสเซียจะตกลงเห็นชอบในการขยายการมีผลอย่างสมบูรณ์ตามกฎหมาย (validity) ของพวกสนธิสัญญาว่าด้วยการไม่แพร่กระจายอาวุธนิวเคลียร์และการควบคุมอาวุธนิวเคลียร์ โดยรวมไปถึงสนธิสัญญา สตาร์ท 1 (START I Treaty)

18.ยูเครนจะตกลงเห็นชอบในการมีฐานะเป็นรัฐที่ไม่มีอาวุธนิวเคลียร์ (non-nuclear state) ตามที่ระบุเอาไว้ในสนธิสัญญาว่าด้วยการไม่แพร่กระจายอาวุธนิวเคลียร์ (Treaty on the Non-Proliferation of Nuclear Weapons)

19.โรงไฟฟ้าพลังนิวเคลียร์ซาโปริซเซีย (Zaporizhzhya Nuclear Power Plant) จะได้รับการเปิดดำเนินการ ภายใต้การกำกับตรวจสอบของIAEA (International Atomic Energy Agency ทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ) และกระแสไฟฟ้าที่ผลิตได้จะถูกนำมาจัดสรรเท่าๆ กันระหว่างรัสเซียกับยูเครน –50:50

20.ทั้งสองประเทศรับรองที่จะดำเนินโครงการต่างๆ ทางการศึกษา ทั้งในโรงเรียนและในสังคม ซึ่งมีจุดมุ่งหมายเพื่อส่งเสริมสนับสนุนความเข้าใจและการมีขันติธรรมต่อวัฒนธรรมต่างๆ ที่มีความผิดแผกแตกต่างกัน และกำจัดลัทธิเหยียดเชื้อชาติ (racism) ตลอดจนอคติต่างๆ ดังนี้

a.ยูเครนจะยอมรับปฏิบัติตามกฎระเบียบต่างๆ ของสหภาพยุโรปว่าด้วยขันติธรรมทางศาสนา และการพิทักษ์ปกป้องภาษาของชนกลุ่มน้อย 
b.ทั้งสองประเทศจะเห็นชอบกับการยกเลิกพวกมาตรการแบ่งแยกกีดกันทั้งหมด และรับประกันสิทธิของสื่อมวลชนและการศึกษาที่เป็นภาษายูเครนและภาษารัสเซีย
c.ความคิดอุดมการณ์นาซี และกิจกรรมของความคิดอุดมการณ์นี้ทั้งหมด จะต้องถูกปฏิเสธและถือเป็นสิ่งต้องห้าม

21.เรื่องดินแดน

a.ไครเมีย (Crimea), ลูฮันสก์ (Luhansk), และ โดเนตสก์ (Donetsk) จะได้รับการยอมรับว่าเป็นของรัสเซียในทางพฤตินัย รวมทั้งได้รับการยอมรับจากสหรัฐฯด้วย
b.เคียร์ซอน (Kherson) และ ซาโปริซเซีย (Zaporizhzhia) จะคงเอาไว้ตามแนวเส้นการปะทะ (line of contact) ในปัจจุบัน ซึ่งหมายความถึงการยอมรับในทางพฤตินัยต่อการแบ่งดินแดนตามแนวเส้นการปะทะ
c.รัสเซียจะสละดินแดนอื่นๆที่ตนควบคุม ซึ่งอยู่นอกเหนือจากทั้ง 5 แคว้นตามที่ตกลงกันไว้นี้

d.กองกำลังอาวุธฝ่ายยูเครน จะถอนตัวออกจากพื้นที่ของแคว้นโดเนตสก์ ส่วนที่พวกเขาควบคุมอยู่ในปัจจุบัน และเขตซึ่งถอนตัวออกไปนี้จะถูกถือเป็นเขตกันชนเป็นกลางที่ปลอดกำลังทหาร โดยเป็นที่ยอมรับในระดับระหว่างประเทศว่าเป็นดินแดนของสหพันธรัฐรัสเซีย ทั้งนี้กองกำลังอาวุธของฝ่ายรัสเซียจะไม่เข้าไปในเขตปลอดทหารนี้

22.หลังจากทำความตกลงกันเกี่ยวกับการดำเนินการต่างๆ ทางด้านดินแดนในอนาคตแล้ว ทั้งสหพันธรัฐรัสเซียและยูเครนให้คำรับรองที่จะไม่เปลี่ยนแปลงการดำเนินการต่างๆ เหล่านี้โดยพลการ ทั้งนี้ การค้ำประกันความมั่นคงใดๆ ก็ตาม จะไม่สามารถนำมาบังคับใช้ได้ในกรณีที่มีการละเมิดข้อผูกพันนี้

23.รัสเซียจะไม่ขัดขวางยูเครนในการใช้แม่น้ำดนีเปอร์ (Dnieper River) เพื่อกิจกรรมทางการพาณิชย์ และจะมีการจัดทำข้อตกลงกันว่าด้วยการขนส่งธัญพืชอย่างเสรีข้ามทะเลดำ (free transport of grain across the Black Sea)

24.จะมีการจัดตั้งคณะกรรมการมนุษยธรรม (humanitarian committee) ชุดหนึ่งขึ้นมา เพื่อแก้ไขคลี่คลายประเด็นปัญหาต่างๆ ที่คั่งค้างอยู่ อันได้แก่

a.นักโทษตลอดจนศพนักโทษที่ยังเหลืออยู่ทั้งหมด จะมีการแลกเปลี่ยนกันบนพื้นฐานของการแลก “ทั้งหมดกับทั้งหมด” ('all for all' basis)
b.ผู้ต้องขังและตัวประกันที่เป็นพลเรือนทั้งหมดจะถูกส่งคืน โดยรวมไปถึงเด็กๆ
c.จะมีการดำเนินโครงการให้ครอบครัวได้กลับมารวมกันอีกครั้ง
d.จะมีการดำเนินมาตรการต่างๆ เพื่อบรรเทาความทุกข์ยากลำบากของบรรดาเหยื่อของการสู้รบขัดแย้งครั้งนี้

25.ยูเครนจะจัดให้มีการเลือกตั้งต่างๆ ภายในระยะเวลา 100 วัน

26.ทุกๆ ฝ่ายที่เกี่ยวข้องอยู่ในการสู้รบขัดแย้งนี้ จะได้รับการนิรโทษกรรมอย่างสมบูรณ์สำหรับการกระทำต่างๆ ของพวกเขาในระหว่างสงคราม และเห็นชอบที่จะไม่มีการเรียกร้องสิทธิใดๆ หรือมีการพิจารณาคำร้องเรียนใดๆ ในอนาคต

27.ข้อตกลงนี้จะถือว่ามีผลผูกพันทางกฎหมาย การบังคับใช้จะได้รับการตรวจตราและรับประกันโดยคณะมนตรีสันติภาพ (Peace Council) ที่มีประธานาธิบดีโดนัลด์ เจ. ทรัมป์ เป็นประธาน โดยที่จะมีการแซงก์ชั่นลงโทษสำหรับการล่วงละเมิด

28.ในทันทีที่ฝ่ายต่างๆ ทั้งหมดเห็นชอบกับบันทึกความเข้าใจฉบับนี้ การหยุดยิงจะมีผลบังคับในทันทีหลังจากทั้งสองฝ่ายถอยไปสู่จัดต่างๆ ที่ตกลงกันได้ เพื่อเริ่มต้นการปฏิบัติตามข้อตกลงนี้

(ที่มา: สำนักข่าวเอเอฟพี)

ในรายงานข่าวของ แอคซิออส ระบุว่า แผนการ 28 ข้อนี้ร่างขึ้นโดย สตีฟ วิตคอฟฟ์ (Steve Witkoff) ผู้แทนพิเศษของประธานาธิบดีทรัมป์ โดยได้อินพุตจากรัฐมนตรีต่างประเทศสหรับฯ มาร์โค รูบิโอ และ จาเรด คุชเนอร์ (Jared Kushner) บุตรเขยของทรัมป์

แอคซิออส แจกแจงว่า วิตคอฟฟ์ ยังได้ปรึกษาหารือแผนการนี้กับ คิริลล์ ดมิเตรียฟ (Kirill Dmitriev) ผู้แทนของรัสเซีย โดยที่ ดมิเตรียฟ ได้บอกกับ แอคซิออส ว่า เขามองการณ์แง่ดีกับข้อเสนอใหม่เนื่องจากมันไม่เหมือนกับความพยายามในอดีตที่ผ่านมา “เรามีความรู้สึกว่าจุดยืนของฝ่ายรัสเซียกำลังได้รับการรับฟังอย่างแท้จริง” แต่สำหรับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ยังมิได้มีการออกมารับรองแผนการนี้ต่อสาธารณชนแต่อย่างใด

หลังจากพบหารือกับ ดมิเตรียฟ แล้ว วิตคอฟฟ์ กับ คุชเนอร์ ยังได้หารือแผนการนี้กับ รุสเตม อูเมรอฟ (Rustem Umerov) ที่ปรึกษาฝ่ายความมั่นคงแห่งชาติของประธานาธิบดีเซเลนสกี รายงานข่าวของแอคซิออส ระบุ

รัฐมนตรีทบวงทหารบกสหรัฐฯ (U.S. Army Secretary) แดน ดริสคอลล์ (Dan Driscoll) ได้ยื่นเสนอแผนการนี้ที่อยู่ในรูปลายลักษณ์อักษรต่อประธานาธิบดีเซเลนสกีเมื่อวันที่ 20 พ.ย. หลังจากนั้น เซเลนสกี แถลงว่าเขาเตรียมพร้อมแล้วที่จะจัดการพูดจาเรื่องข้อเสนอนี้กับ ทรัมป์ และทีมงานฝ่ายสหรัฐฯ

เซเลนสกี เรียกแผนการนี้ว่า เป็น “วิสัยทัศน์” ของสหรัฐฯ และไม่ใช่เป็นข้อเสนอสุดท้าย เขากล่าวว่ายูเครนนั้นมีความชัดเจนเกี่ยวกับพวกเส้นสีแดงห้ามล่วงละเมิดของตนเอง และจะให้อินพุตของฝ่ายตนเพื่อทำให้แผนการนี้ “มีความหมายอย่างแท้จริง”

ขณะที่เจ้าหน้าที่สหรัฐฯผู้หนึ่งก็บอกกับ แอคซิออส เช่นเดียวกันว่า คณะบริหารทรัมป์มองแผนการนี้ว่าเป็น “เอกสารที่มีชีวิต” ซึ่งสามารถที่จะเปลี่ยนแปลงได้โดยอิงอยู่กับการหารือกับฝ่ายต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เจ้าหน้าที่สหรัฐฯผู้นี้อ้างว่าในระหว่างที่มีการเจรจากัน ยูเครนแสดงท่าทีเป็นบวกเกี่ยวกับจุดต่างๆ
จำนวนมากของแผนการนี้ ขณะเดียวกับที่พยายามรวมจุดยืนของตนเองบางประการเข้าไปในแผนการนี้ด้วย แอคซิออส บอกว่า ทรัมป์ได้ให้คำรับรองแบบเป็นส่วนตัวต่อแนผการนี้แล้ว

ทางด้านเจ้าหน้าที่อาวุโสของทำเนียบขาวกล่าวว่า “เรากำลังพยายามใช้ความพยายามอย่างจริงจังเพื่อค้นหาทางออกที่จะยุติสงครามในยูเครน ด้วยวิธีการเดียวกันกับที่เรายุติสงครามในกาซา เราเชื่อว่าแผนการนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ แต่มันดีสำหรับยูเครน”
กำลังโหลดความคิดเห็น