คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนกัมพูชา(CHRC) ยื่นคำร้องเร่งด่วนถึงสำนักงานข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (OHCHR) ทั้งในเจนีวา และ OHCHR สำหรับภูมิภาคอาเซียน ในกรุงเทพฯ, สถาบันสิทธิมนุษยชนอิสระในอาเชียน รวมไปถึงคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนระหว่างรัฐบาลอาเซียน (AICHR) ในเรื่องเกี่ยวกับคำกล่าวหาที่ว่าไทยโจมตีพลเรือนกัมพูชาในวันที่ 12 พฤศจิกายน
รายงานของ Agence Kampuchea Presse สำนักข่าวแห่งชาติกัมพูชา ระบุว่าในถ้อยแถลงของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนกัมพูชา ที่เผยแพร่เมื่อช่วงเย็นวันพุธ(12พ.ย.) ระบุว่าการโจมตีพลเรือนกัมพูชา เข้าองค์ประกอบของการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศอย่างร้ายแรง ในนั้นรวมถึงกฎบัตรสหประชาชาติ, ปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน (UDHR), กติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง(ICCPR), อนุสัญญาว่าด้วยสิทธิทางเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรมระหว่างประเทศ(ICESCR), อนุสัญญาต่อต้านการทรมาน และปฏิญญาความร่วมมือกัวลาลัมเปอร์ ระหว่างไทยกับกัมพูชา ที่ลงนามในวันที่ 26 ตุลาคม 2025 ที่มีประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ และนายกรัฐมนตรีอันวาร์ อิบราฮิม แห่งมาเลเซีย เป็นสักขีพยาน
ในหนังสือคำร้องเร่งด่วน คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนกัมพูชา เรียกร้องให้ยุติกิจกรรมทางทหารที่เป็นปรปักษ์ทั้งหมดในทันที และร้องขอมาตรการต่างๆสำหรับรับประกันความปลอดภัยของพลเรือนกัมพูชา เช่นเดียวกับการสืบสวนที่เป็นอิสระและเป็นกลาง เพื่อนำตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษ
นอกจากนี้แล้วทาง คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนกัมพูชา ยังเรียกร้องขอให้ทำการรักษาทางการแพทย์ในทันที และจ่ายเงินชดเชยแก่เหยื่อและครอบครัวเหยื่อ เช่นเดียวกับมาตรการป้องกันที่มีประสิทธิภาพ และปฏิบัติตามฏิญญาความร่วมมือกัวลาลัมเปอร์อย่างเต็มรูปแบบ
ยิ่งไปกว่านั้นทาง คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนกัมพูชา ได้เสนอให้หยิบยกประเด็นนี้ขึ้นหารือ ณ คณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ หรือขั้นตอนพิเศษอื่นๆที่เกี่ยวข้อง และขอให้จัดตั้งคณะทำงานยูเอ็นตรวจสอบข้อเท็จจริง เพื่อประเมินสถานการณ์และป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำรอย นอกจากนี้แล้วยังเรียกร้องให้ไทยปล่อยตัวและส่งทหารกัมพูชา 18 นายกลับประเทศ ในทันทีอย่างไม่มีเงื่อนไข
รายงานข่าวของ Agence Kampuchea Presse ระบุต่อว่าทางคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนกัมพูชา เน้นย้ำว่ากัมพูชายึดถืออย่างมั่นคงต่อหลักการของกฎหมายสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ และเรียกร้องให้ประชาคมนานาชาติลงโทษไทย และดำเนินการในทันที เพื่อรับประกันความยุติธรรมแก่เหยื่อและปกป้องพลเรือนทุกคนตามแนวชายแดนกัมพูชาและไทย
(ที่มา:เอเคพี)


