เกาหลีใต้ประกาศเพิ่ม 3 เท่าตัวงบประมาณรายจ่ายด้านเอไอ เพื่อผลักดันประเทศสู่สถานะมหาอำนาจปัญญาประดิษฐ์อันดับ 3 ของโลก รวมทั้งยังเล็งเพิ่มงบประมาณกลาโหมสูงสุดในรอบ 6 ปีตามแผนปรับปรุงระบบอาวุธและกองทัพสู่ความทันสมัยและลดการพึ่งพิงอเมริกา
ในวันอังคาร (4 พ.ย.) ประธานาธิบดีอี แจ-มยองของเกาหลีใต้ แถลงงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2026 ต่อรัฐสภา โดยระบุว่า ยอดใช้จ่ายโดยรวมจะเพิ่มขึ้นจากปีงบประมาณปัจจุบัน 8.1% เป็น 728 ล้านล้านวอน (506,000 ล้านดอลลาร์) ซึ่งถือว่าสูงสุดเป็นประวัติการณ์
อี กล่าวว่า เวลานี้เกาหลีใต้ยังคงเผชิญช่วงเวลาสำคัญสำหรับ “ความอยู่รอดของประเทศชาติ” ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงของระเบียบการค้าโลกและคลื่นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่จากเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ)
ผู้นำเกาหลีใต้เสริมว่า รัฐบาลจะจัดสรรงบประมาณ 10.1 ล้านล้านวอน (7,000 ล้านดอลลาร์) สำหรับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เพื่อส่งเสริมการประมวลผลด้วยเอไอและศักยภาพการผลิต โดยมุ่งเน้นอุตสาหกรรม เช่น เซมิคอนดักเตอร์ รถยนต์ การต่อเรือ และหุ่นยนต์ ภายใต้เป้าหมายในการนำพาเกาหลีใต้สู่ตำแหน่งมหาอำนาจเอไออันดับ 3 ของโลก รองจากอเมริกาและจีน
ทั้งนี้ งบประมาณในส่วนนี้ 2.6 ล้านล้านวอนจะลงทุนในการนำเอไอเข้าสู่ชีวิตประจำวันของผู้คนและภาคอุตสาหกรรม ขณะที่อีก 7.5 ล้านล้านวอนจะนำไปใช้ในการพัฒนาทักษะและการสร้างโครงสร้างพื้นฐาน โดยที่ อี ยังตั้งข้อสังเกตว่า งบประมาณเอไอสำหรับปีหน้าสูงเป็น 3 เท่าตัวของปีนี้
เกาหลีใต้เป็นบ้านเกิดของบริษัทผู้ผลิตชิปหน่วยความจำชั้นนำของโลก 2 แห่งคือ ซัมซุง อิเล็กทรอนิกส์ และ เอสเค ไฮนิกซ์ โดยชิปเหล่านี้ก็ครอบคลุมถึงพวกเซมิคอนดักเตอร์ซึ่งมีความสำคัญสำหรับผลิตภัณฑ์เอไอและศูนย์ข้อมูล
เมื่อวันศุกร์ (31 ต.ค.) ที่ผ่านมา เจนเซน หวง ซีอีโอของอินวิเดีย บริษัทชิปเอไอรายยักษ์ของอเมริกา เพิ่งประกาศแผนจัดหาชิปหน่วยประมวลผลกราฟิก (จีพียู) 260,000 ชุดให้พวกบริษัทใหญ่ของแดนโสมขาวอย่าง ซัมซุง, เอสเค กรุ๊ป, ฮุนได มอเตอร์ กรุ๊ป และ เนเวอร์ พร้อมแสดงความเห็นว่า เป้าหมายในการขึ้นเป็นมหาอำนาจเอไอโลกอันดับ 3 ของเกาหลีใต้ไม่ใช่เรื่องไกลเกินจริง เนื่องจากประเทศนี้มีทั้งเทคโนโลยี ความเชี่ยวชาญด้านซอฟต์แวร์ และความสามารถในการสร้างโรงงานผลิต
อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีความชัดเจนว่า อินวิเดียจะจัดส่งจีพียูให้บริษัทเกาหลีใต้เหล่านี้เมื่อใด เนื่องจากหลังจากนั้น หวง ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า ต้องมีการสร้างศูนย์ข้อมูลเอไอและเครือข่ายพลังงานก่อน บริษัทจึงจะเริ่มส่งจีพียูให้ได้
นอกจากนั้นเมื่อวันจันทร์ (3 พ.ย.) ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ยังประกาศว่า มีเพียงบริษัทอเมริกันเท่านั้นที่จะได้รับอนุญาตให้เข้าถึง “แบล็กเวลล์” ซึ่งเป็นชิปเอไอขั้นก้าวหน้าสูงสุดในเวลานี้ของอินวิเดีย
เพิ่มงบกลาโหมครั้งใหญ่
ร่างงบประมาณประจำปีใหม่ของเกาหลีใต้ ยังมีการจัดสรรเงินเพิ่มให้แก่การใช้จ่ายด้านการทหารขึ้นอีก 8.2% จากปีนี้ เป็น 66.3 ล้านล้านวอน ซึ่งหากผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภาจะถือเป็นการเพิ่มงบประมาณกลาโหมสูงที่สุดนับจากปี 2019 โดย อี ตั้งข้อสังเกตว่า งบประมาณการทหารของเกาหลีใต้สูงกว่ามูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ของเกาหลีเหนือถึง 1.4 เท่า และกองทัพเกาหลีใต้ถือเป็นกองทัพที่แข็งแกร่งอันดับ 5 ของโลก
อีเสริมว่า รัฐบาลต้องการปฏิรูปจากระบบอาวุธดั้งเดิมให้เป็นระบบอาวุธล้ำสมัย ที่รวมถึงการนำเทคโนโลยีเอไอมาใช้ เพื่อปรับเปลี่ยนกองทัพเป็นกองกำลังอัจฉริยะที่พึ่งพิงตัวเองได้มากขึ้น และลดการพึ่งพิงอเมริกา
ในปัจจุบัน อเมริกายังคงมีทหารประจำการในเกาหลีใต้ราว 28,500 นาย เพื่อช่วยรับมือภัยคุกคามทางทหารจากเกาหลีเหนือ
(ที่มา: เอเอฟพี/เอพี)


