เจ้าหน้าที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากรสหรัฐฯ (ICE) บุกจับแรงงานต่างด้าวกว่า 400 คนที่โรงงานผลิตแบตเตอรีรถยนต์ของ ฮุนได มอเตอร์ (Hyundai Motor) ที่กำลังก่อสร้างในรัฐจอร์เจีย เมื่อวันพฤหัสบดี (4 ก.ย.) ซึ่งส่งผลให้การปฏิบัติงานภายในโรงงานของหนึ่งในบริษัทสัญชาติเกาหลีใต้ที่เข้าไปลงทุนในสหรัฐฯ มากที่สุดต้องหยุดชะงักลง
แรงงานประมาณ 475 คนซึ่งส่วนใหญ่เป็นพลเมืองเกาหลีใต้ถูกจับกุม ตามข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองสหรัฐฯ ซึ่งถือเป็นปฏิบัติการกวาดจับในสถานที่หนึ่งๆ ครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ (DHS)
รัฐบาลประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ได้ยกระดับกวาดล้างผู้อพยพเข้าเมือง ซึ่งส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจทั่วอเมริกา แม้ทำเนียบขาวจะมีนโยบายส่งเสริมการลงทุนจากต่างชาติก็ตามที
ปฏิบัติการจับกุมครั้งนี้คาดว่าจะยิ่งกระพือความตึงเครียดระหว่างวอชิงตันและโซล ซึ่งเป็นทั้งชาติพันธมิตรและนักลงทุนรายใหญ่สำหรับสหรัฐฯ
ทั้ง 2 ชาติยังคงมีปัญหากันในเรื่องของรายละเอียดข้อตกลงการค้าซึ่งรวมถึงการลงทุนมูลค่า 350,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยระหว่างการประชุมซัมมิตเมื่อเดือน ส.ค. เกาหลีใต้ได้รับปากจะเพิ่มเม็ดเงินลงทุนในสหรัฐฯ 150,000 ล้านดอลลาร์ ในจำนวนนี้เป็นการลงทุนจาก ฮุนได มอเตอร์ ถึง 26,000 ล้านดอลลาร์
เจ้าหน้าที่กระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิระบุว่า แรงงานที่ถูกจับภายในโรงงานที่เมืองเอลลาเบลล์ รัฐจอร์เจีย ถูกห้ามไม่ให้ทำงานในสหรัฐฯ เนื่องจากข้ามแดนอย่างผิดกฎหมาย หรือพำนักอยู่เกินเวลาที่ได้รับอนุญาตตามวีซ่า (overstay)
ด้าน สตีเวน แชรงก์ เจ้าหน้าที่ซึ่งรับผิดชอบงานสอบสวนในรัฐจอร์เจีย ระบุในงานแถลงข่าวว่า การสอบสวนกรณีนี้ได้กระทำมานานหลายเดือนแล้ว
“นี่ไม่ใช่ปฏิบัติการของสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองที่เจ้าหน้าที่บุกเข้าไปในสถานที่ ล้อมจับคน แล้วก็คุมตัวพวกเขาขึ้นรถบัส” แชรงก์ กล่าว พร้อมระบุว่าโรงงานแห่งนี้มีเครือข่ายผู้รับเหมาช่วง (subcontractors) หลายเจ้ามาเกี่ยวข้องด้วย
โฆษก ฮุนได มอเตอร์ ยอมรับว่า แรงงานที่ถูกจับทั้งหมดไม่ได้เป็นลูกจ้างโดยตรงของบริษัท
ทางบริษัทยืนยันว่า คริส ชูซ็อก หัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายผลิตประจำภูมิภาคอเมริกาเหนือ จะ “เข้าตรวจสอบการบริหารจัดการภายในโรงงานขนาดใหญ่ที่จอร์เจีย” และ “จะดำเนินการสอบสวนเพื่อให้มั่นใจว่า ซัพพลายเออร์และบริษัทรับเหมาช่วงทุกรายปฏิบัติตามข้อกฎหมาย”
บริษัทยังเน้นย้ำว่า “ฮุนได จะไม่อดทนกับบุคคลใดก็ตามที่ไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย”
ปฏิบัติการบุกจับแรงงานผิดกฎหมายครั้งนี้ได้รับการตั้งชื่อว่า ‘Operation Low Voltage’ โดยใช้ระยะเวลาสอบสวนนานหลายเดือน และมีเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายเข้าร่วมมากกว่า 400 นาย
ที่มา: รอยเตอร์