เกาหลีเหนือทำการทดสอบขีปนาวุธร่อนทางยุทธศาสตร์ใหม่เป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 1 สัปดาห์ในวันอาทิตย์ (28 ม.ค.) เรียกมันว่าเป็นขีปนาวุธร่อนยิงจากเรือดำน้ำ (SLCM) ที่พัฒนาใหม่ล่าสุดของพวกเขา ความเคลื่อนไหวที่เป็นการเร่งติดอาวุธนิวเคลยร์ให้แก่กองทัพเรือของประเทศ ตามรายงานของเคซีเอ็นเอ สื่อมวลชนแห่งรัฐ ในวันจันทร์ (29 ม.ค.)
คิม จองอึน ตรวจตราการทดสอบขีปนาวุธที่มีชื่อว่า "พุลฮวาซัล-3-31 (Pulhwasal-3-31)" ด้วยตนเอง ในขณะที่ขีปนาวุธลูกนี้เป็นรุ่นเดียวกับขีปนาวุธร่อนทางยุทธศาสตร์ที่เกาหลีเหนือกล่าวอ้างเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่าอยู่ระหว่างการพัฒนา
เคซีเอ็นเอ ระบุว่าขีปนาวุธพุ่งเหนือนอกชายฝั่งทางตะวันออกของประเทศ เป็นเวลา 7,421 วินาที และ 7,445 วินาที และพุ่งโดนเกาะเป้าหมายที่ไม่ระบุอย่างเจาะจง บ่งชี้ว่าเที่ยวบินของขีปนาวุธมีระยะเวลาการบินเกินกว่า 2 ชั่วโมง
คิม เรียกการทดสอบครั้งนี้ว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี ในขณะที่มันมีความสำคัญในทางยุทธศาสตร์ สำหรับดำเนินการตามแผนปรับปรุงกองทัพให้มีความทันสมัย ซึ่งมีเป้าหมายสร้างกองทัพเรือให้ทรงแสนยานุภาพ ตามรายงานของเคซีเอ็นเอ
กองทัพเกาหลีใต้ระบุในวันอาทิตย์ (28 ม.ค.) ว่าเกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธร่อนออกมาหลายลูกนอกชายฝั่ง แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติม
โดยทั่วไปแล้วขีปนาวุธแบบทิ้งตัวของเกาหลีเหนือมักเป็นที่ถกเถียงและชัดเจนว่าถูกแบนภายใต้มติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ แต่พวกนักวิเคราะห์บอกว่าขีปนาวุธร่อนพิสัยปานกลาง ไม่ได้เป็นภัยคุกคามน้อยไปกว่าขีปนาวุธแบบทิ้งตัว และเป็นศักยภาพที่ร้ายแรงของเกาหลีเหนือ
ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา เกาหลีเหนือได้ทำการทดสอบอาวุธต่างๆ ในนั้นรวมถึงระบบขีปนาวุธที่กำลังอยู่ระหว่างการพัฒนาและโดรนใต้น้ำ
สำนักข่าวเคซีเอ็นเอรายงานว่า คิม ยังได้เดินทางไปตรวจสอบโครงการก่อสร้างเรือดำน้ำนิวเคลียร์ลำหนึ่ง และได้มีการพูดคุยหารือในในประเด็นต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการผลิตเรือรบใหม่รุ่นอื่นๆ
(ที่มา : รอยเตอร์)