xs
xsm
sm
md
lg

อาเซียนรับสมาชิกใหม่ครั้งแรกในรอบ26ปี ติมอร์-เลสเตสมหวังหลังฝ่าฟันกว่าทศวรรษ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เอพี - อาเซียนต้อนรับติมอร์-เลสเตในฐานะสมาชิกใหม่เมื่อวันอาทิตย์ (26 ต.ค.) ซึ่งถือเป็นการขยายกลุ่มครั้งแรกนับจากปี 1999 และจะช่วยปูทางให้ประเทศขนาดเล็กแห่งนี้เข้าถึงข้อตกลงการค้าเสรี โอกาสในการลงทุน การศึกษา เศรษฐกิจดิจิทัล และตลาดขนาดใหญ่มูลค่า 3.8 ล้านล้านดอลลาร์

นายกรัฐมนตรีซานานา กุสเมาของติมอร์-เลสเต แถลงต่อผู้นำคนอื่นๆ ของสมาคมประชาชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) ว่า “วันนี้ประวัติศาสตร์ได้ก่อกำเนิดขึ้น” ขณะที่มีการติดธงของติมอร์-เลสเตหรือติมอร์ตะวันออก เพิ่มบนเวทีในพิธีต้อนรับประเทศนี้เข้าร่วมเป็นสมาชิกอาเซียนอย่างเป็นทางการที่กัวลาลัมเปอร์

การรับติมอร์-เลสเตถือเป็นการขยายสมาชิกครั้งแรกของอาเซียนนับจากทศวรรษ 1990 และใช้เวลาดำเนินการนานกว่าสิบปี โดยประเทศล่าสุดที่เข้าเป็นสมาชิกคือกัมพูชาในปี 1999

กุสเมากล่าวว่า สำหรับประชาชนติมอร์-เลสเต นี่ไม่ใช่แค่ความฝันที่เป็นจริง แต่ยังเป็นการยืนยันอันทรงพลังสำหรับการเดินทางของติมอร์-เลสเตที่เต็มไปด้วยการปรับตัว ความมุ่งมั่น และความหวัง

พิธีนี้เกิดขึ้นระหว่างการเปิดประชุมสุดยอดประจำปีของอาเซียน ซึ่งมีผู้นำจากประเทศหุ้นส่วนสำคัญเข้าร่วมด้วย ได้แก่ จีน ญี่ปุ่น อินเดีย ออสเตรเลีย รัสเซีย เกาหลีใต้ และอเมริกา

การเข้าเป็นสมาชิกในอาเซียนจะช่วยให้ติมอร์ตะวันออกที่มีประชากรเพียง 1.4 ล้านคน และเศรษฐกิจมูลค่าราว 2,000 ล้านดอลลาร์ สามารถเข้าถึงชุมชนเศรษฐกิจของประเทศสมาชิกได้มากขึ้น โดยอาเซียนมีประชากรรวมกัน 680 ล้านคน และเศรษฐกิจมูลค่า 3.8 ล้านล้านดอลลาร์

นายกรัฐมนตรีอันวาร์ อิบราฮิมของมาเลเซีย ที่เป็นประธานอาเซียนวาระปัจจุบัน กล่าวว่า การเข้าเป็นสมาชิกของติมอร์-เลสเตช่วยเติมเต็มครอบครัวอาเซียน ซึ่งตอกย้ำโชคชะตาที่มีร่วมกันและความเกี่ยวดองอย่างลึกซึ้งในภูมิภาค

อันวาร์เสริมว่า เป้าหมายของอาเซียนคือส่งเสริมการเติบโตที่ยืดหยุ่นและเป็นกลาง เพื่อปกป้องสวัสดิภาพของประชากรรุ่นต่อๆ ไป

แองเจลีน ตัน นักวิเคราะห์ของสถาบันศึกษายุทธศาสตร์และการระหว่างประเทศของมาเลเซีย มองว่า การรวมติมอร์ตะวันออกซึ่งเป็นประเทศที่มีอายุน้อยที่สุดและหนึ่งในประเทศที่ยากจนที่สุดสะท้อนความมุ่งมั่นของอาเซียนที่มีต่อภูมิภาคนิยม การเปิดกว้าง และการเข้าร่วมอย่างเท่าเทียม โดยเฉพาะอย่างยิ่งท่ามกลางความผันผวนทางภูมิรัฐศาสตร์และความแพร่หลายของลัทธิกีดกันการค้า

ติมอร์ตะวันออกตั้งอยู่ระหว่างอินโดนีเซียและออสเตรเลีย เคยเป็นอาณานิคมของโปรตุเกสมานานกว่า 4 ทศวรรษก่อนที่จะประกาศเอกราชในปี 1975 ทว่า 9 วันหลังจากนั้น อินโดนีเซียส่งทหารบุกและเข้ายึดครองติมอร์-เลสเตอย่างทารุณนาน 24 ปี ส่งผลให้ประชาชนนับหมื่นเสียชีวิตจากความขัดแย้ง การขาดอาหาร และเจ็บป่วย

การทำประชามติที่กำกับดูแลโดยสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ในปี 1999 ปูทางไปสู่การประกาศเอกราชซึ่งมีการฟื้นฟูอย่างเป็นทางการในปี 2002

ปัจจุบัน ติมอร์-เลสเตอยู่ภายใต้การนำของวีรบุรุษสองคนคือ กุสเมา และประธานาธิบดีโฮเซ รามอส-ฮอร์ตา ที่ได้รับรางวัลโนเบลสันติภาพในปี 1996

ทั้งคู่กำลังพยายามต่อสู้กับปัญหาการว่างงาน การขาดอาหาร และความยากจน ประชากร 42% มีรายได้ยังชีพต่ำกว่าเกณฑ์ความยากจนของประเทศ

แหล่งรายได้หลักของรัฐบาลมาจากอุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซ ทว่า ทรัพยากรทั้งสองอย่างเหือดแห้งลงอย่างรวดเร็วทำให้ต้องมองหาแหล่งรายได้อื่นมาทดแทน

โจแอนน์ ลิน ผู้ประสานงานร่วมของศูนย์ศึกษาอาเซียนของสถาบันอาคเนย์ศึกษายูซูฟ อิสฮัค ชี้ว่า แรกทีเดียวนั้น แนวคิดในการรับติมอร์ตะวันออกเข้าสู่อาเซียนเป็นที่เคลือบแคลงของชาติสมาชิกหลายแห่ง แม้ต่อมาความเคลือบแคลงเหล่านั้นจะผ่านพ้นไปก็ตาม

ลินเสริมว่า ติมอร์ตะวันออกเผชิญความท้าทายหลายอย่าง เช่น ศักยภาพในการบริหารและสถาบันยังคงล้าหลังสมาชิกส่วนใหญ่ของอาเซียน และการมีส่วนร่วมอย่างสมบูรณ์จำเป็นต้องได้รับการสนับสนุนทางเทคนิคและการเงินอย่างต่อเนื่องจากเลขาธิการและชาติสมาชิกอาเซียน

การเข้าร่วมของติมอร์-เลสเตนำมาซึ่งพลังและมุมมองใหม่ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกี่ยวกับประเด็นการเพิ่มศักยภาพให้คนหนุ่มสาว ธรรมาภิบาลในระบอบประชาธิปไตย และการทูตจากประเทศขนาดเล็ก

สำหรับติมอร์-เลสเต การเป็นสมาชิกอาเซียนเปิดช่องทางเข้าถึงข้อตกลงการค้าเสรี โอกาสในการลงทุน การศึกษา เศรษฐกิจดิจิทัล และตลาดขนาดใหญ่ในภูมิภาค
กำลังโหลดความคิดเห็น