อี แจ-มยอง ประธานาธิบดีคนใหม่ของเกาหลีใต้ ประกาศฟื้นฟูประเทศจากที่เคยเกือบล่มสลายจากความพยายามในการประกาศกฎอัยการศึกของผู้นำคนก่อน รวมทั้งฟื้นเศรษฐกิจที่กำลังเผชิญลัทธิกีดกันการค้า ลั่นพร้อมป้องปรามการยั่วยุจากเปียงยางควบคู่กับเปิดช่องทางเจรจา ด้านทำเนียบขาวยกย่องการเลือกตั้งของเกาหลีใต้เสรีและเป็นธรรม แต่ยังกังวลการแทรกแซงของปักกิ่ง
คณะกรรมการการเลือกตั้งแห่งชาติของเกาหลีใต้ประกาศในตอนเช้าวันพุธ (4 มิ.ย.) รับรองว่า การเลือกตั้งประธานาธิบดีคนใหม่ซึ่งจัดขึ้นในวันอังคาร (3) ผู้ชนะคือ อี แจ-มยอง ผู้นำฝ่ายค้านที่มีแนวทางกลาง-ซ้ายจากพรรคประชาธิปไตย โดยเขาสามารถเอาชนะคู่แข่งคนสำคัญ คือ คิม มุนซู ผู้สมัครในนามพรรคพลังประชาชน (พีพีพี) ที่มีแนวทางอนุรักษนิยมของอดีตประธานาธิบดียุน ซอกยอล ด้วยคะแนนเสียง 49.4% ต่อ 41.2% จากจำนวนผู้ไปใช้สิทธิ์เกือบ 35 ล้านคน สูงที่สุดในการเลือกตั้งประธานาธิบดีนับตั้งแต่ปี 1997
อี ซึ่งทำพิธีสาบานตัว ณ รัฐสภาเกาหลีใต้ เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีคนใหม่ทันทีในวันเดียวกัน ประกาศว่า รัฐบาลชุดใหม่มีนโยบายส่งเสริมตลาด และให้สัญญาผ่อนคลายกฎระเบียบเพื่อกระตุ้นนวัตกรรมและการเติบโตของธุรกิจ
ผู้นำใหม่ของเกาหลีใต้แถลงว่า จะจัดการความท้าทายทางเศรษฐกิจเร่งด่วนตั้งแต่วันแรกที่เข้ารับตำแหน่ง โดยเน้นที่ปัญหาค่าครองชีพที่ส่งผลกระทบต่อครอบครัวผู้มีรายได้ปานกลางถึงต่ำ และปัญหาของเจ้าของธุรกิจขนาดเล็ก
ตลาดหุ้นเกาหลีใต้พุ่งขึ้นกว่า 2% ทำสถิติสูงสุดในรอบ 10 เดือนเมื่อวันพุธ จากการคาดหวังต่อแผนการปฏิรูปตลาดของอี
ทั้งนี้ อีเข้ารับตำแหน่งในวันเดียวกับที่การขึ้นภาษีเหล็กกล้าและอะลูมิเนียม 50% ของอเมริกามีผลบังคับใช้ ซึ่งจะส่งผลกระทบอย่างมากต่อการส่งออกของเกาหลีใต้
อีกล่าวว่า การเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของระเบียบโลก เช่น ลัทธิกีดกันการค้าที่แพร่หลายมากขึ้นและการปรับโครงสร้างห่วงโซ่อุปทานถือเป็นภัยคุกคามต่อความอยู่รอดของเกาหลีใต้
ในวันเดียวกันนี้ อีประกาศแต่งตั้งคิม มินซอก ที่ปรึกษาซึ่งทำงานให้เขามายาวนาน เป็นนายกรัฐมนตรี และลี จองซอก อดีตรัฐมนตรีกระทรวงรวมชาติเป็นผู้บัญชาการหน่วยข่าวกรอง รวมทั้งร่วมประชุมกับผู้บัญชาการทหารสูงสุด โดยปลุกเร้าให้กองทัพ “เตรียมพร้อม” สำหรับการยั่วยุจากเปียงยาง แต่สำทับว่า เขาพร้อมเยียวยาบาดแผลจากความขัดแย้งและสงคราม รวมถึงสร้างอนาคตแห่งสันติภาพและความมั่งคั่ง
อีเสริมว่า โซลจะป้องปรามการยั่วยุด้วยนิวเคลียร์และการทหารของเกาหลีเหนือ ควบคู่กับการเปิดช่องทางการสื่อสาร และส่งเสริมความร่วมมือเพื่อสร้างสันติภาพบนคาบสมุทรเกาหลี
ฮอง มิน นักวิเคราะห์อาวุโสของสถาบันเพื่อการรวมชาติ ชี้ว่า จุดยืนของอีแตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับแนวทางสายเหยี่ยวของอดีตประธานาธิบดียุน ซอกยอล และบ่งชี้ว่า อีต้องการแก้ไขความขัดแย้งด้วยการเจรจา
ทางด้าน มาร์โค รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ แสดงความยินดีกับอี และบอกว่า วอชิงตันยังคงเป็นพันธมิตรที่แข็งแกร่งกับโซล โดยอ้างอิงค่านิยมร่วมกันและความสัมพันธ์ลึกซึ้งทางเศรษฐกิจ รวมทั้งจะกระชับความร่วมมือสามเส้าระหว่างอเมริกา เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น เพื่อส่งเสริมความมั่นคงในภูมิภาค ความยืดหยุ่นทางเศรษฐกิจ และปกป้องหลักการประชาธิปไตยที่มีร่วมกัน
ทำเนียบขาวออกคำแถลงระบุว่า การเลือกตั้งประธานาธิบดีเกาหลีใต้ “เสรีและเป็นธรรม” กระนั้น อเมริกายังกังวลและคัดค้านการแทรกแซงและการพยายามของจีนในการเข้าไปมีอิทธิพลในประเทศประชาธิปไตยทั่วโลก
ทั้งนี้ อีเคยเสนอแผนการที่ประนีประนอมมากขึ้นกับจีนและเกาหลีเหนือ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการประกาศว่า จีนมีความสำคัญในฐานะประเทศคู่ค้ารายใหญ่ แต่กลับลังเลในการแสดงจุดยืนที่ชัดเจนเกี่ยวกับความตึงเครียดด้านความมั่นคงในช่องแคบไต้หวัน
สำหรับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน ได้แสดงความยินดีกับอี และย้ำความสำคัญในการพัฒนาความสัมพันธ์จีน-เกาหลีใต้เพื่อผลประโยชน์และชัยชนะร่วมกัน
ส่วนนายกรัฐมนตรีชิเงรุ อิชิบะ กล่าวว่า ญี่ปุ่นต้องการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างโตเกียวกับโซล
ขณะที่นายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดิ แสดงความยินดีกับอี และเสริมว่า อินเดียต้องการกระชับความสัมพันธ์กับเกาหลีใต้
(ที่มา: เอเอฟพี/รอยเตอร์)