“ทรัมป์” ยืนยัน ออกคำสั่งให้ซีไอเอทำภารกิจลับในเวเนซุเอลา และกำลังชั่งใจว่า จะเปิดการโจมตีภาคพื้นดินเล่นงานแก๊งค้ายาในประเทศนั้นด้วยหรือไม่ ขณะที่นิวยอร์กไทมส์แฉคณะบริหารทรัมป์มีเป้าหมายโค่นอำนาจ “มาดูโร” ผู้นำชาติละตินอเมริการายนี้ซึ่งเป็นปรปักษ์กับสหรัฐฯมายาวนาน
การยอมรับของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เรื่องปฏิบัติการลับในเวเนซุเอลา ของสำนักงานข่าวกรองกลางสหรัฐฯ (ซีไอเอ) เกิดขึ้นหลังจากช่วงไม่กี่สัปดาห์มานี้ ทรัมป์ ได้สั่งกองทัพอเมริกาให้โจมตีเรือต้องสงสัยขนยาเสพติดในทะเลแคริบเบียนหลายระลอก โดยทำลายเรืออย่างน้อย 5 ลำนับตั้งแต่ต้นเดือนก.ย. ซึ่ง 4 ลำในจำนวนนี้มีต้นทางจากเวเนซุเอลา ทำให้มีผู้เสียชีวิต 27 คน
นิวยอร์กไทมส์เป็นสื่อค่ายแรกที่รายงานเรื่องซีไอเอได้รับคำสั่งให้ทำภารกิจลับในเวนซุเอลา โดยอ้างอิงการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ที่รับรู้การตัดสินใจดังกล่าวของทรัมป์ และระบุว่า ยุทธศาสตร์ต่อเวเนซุเอลาของคณะบริหารทรัมป์มีเป้าหมายในการโค่นอำนาจประธานาธิบดีนิโคลัส มาดูโร โดยคณะบริหารเสนอเงิน 50 ล้านดอลลาร์แลกเปลี่ยนกับข้อมูลที่จะนำไปสู่การจับกุมและตัดสินลงโทษผู้นำเวเนซุเอลาในข้อหาลักลอบค้ายาเสพติด
นิวยอร์กไทมส์เสริมว่า คำสั่งใหม่ของทรัมป์ยังเปิดทางให้ซีเอเอเข้าปฏิบัติภารกิจลับอันตรายในเวเนซุเอลาและทะเลแคริบเบียน
ในวันพุธ (15 ต.ค.) เมื่อถูกผู้สื่อข่าวถามถึงเหตุผลในการส่งซีไอเอไปทำภารกิจในเวเนซุเอลา ทรัมป์บอกว่า มีสองข้อด้วยกัน ข้อแรกคือ เวเนซุเอลาปล่อยนักโทษรวมทั้งผู้ป่วยจากสถานบริการด้านสุขภาพจิต และส่งข้ามแดนเข้าสู่อเมริกา และข้อสองคือ การลักลอบค้ายาเสพติด
อย่างไรก็ดี ทรัมป์ไม่ได้แสดงหลักฐานยืนยันคำกล่าวอ้างเรื่องนักโทษเวเนซุเอลา ขณะที่เขาอวดว่าอเมริกามีความคืบหน้าในการสกัดการขนยาเสพติดทางทะเลอย่างได้ผล และตอนนี้ได้ปรับโฟกัสมาเน้นที่เส้นทางบกด้วย รวมทั้งกำลังพิจารณาเรื่องการโจมตีภาคพื้นดินเพื่อเล่นงานปราบปรามแก๊งค้ายาในเวเนซุเอลา
ในอดีตที่ผ่านมา มีรายงานว่าซีไอเอมีส่วนร่วมกับปฏิบัติการลับในเวเนซุเอลาอย่างกว้างขวาง ตั้งแต่การปฏิบัติการของกองกำลังกึ่งทหาร จนถึงการรวบรวมข่าวกรอง และการสนับสนุนโดยทิ้งร่องรอยทางกายภาพไว้น้อยมากหรือไม่มีเลย
ทั้งนี้ในละตินอเมริกาซึ่งเป็นเหมือนพื้นที่หลังบ้านของสหรัฐฯ ซีไอเอมีการปฏิบัติภารกิจลับมาอย่างยาวนาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงสงครามเย็น รวมทั้งยังช่วยทำลายอาณาจักรลักลอบค้าโคเคนในอเมริกาใต้เมื่อปลายศตวรรษที่ 20 นอกจากนั้น สำนักข่าวรอยเตอร์ยังรายงานว่า ในเม็กซิโก ซึ่งในทางภูมิศาสตร์แล้วถือเป็นประเทศในทวีปอเมริกาเหนือ ซีไอเอก็ได้ทำภารกิจลับมาอย่างยาวนาน เพื่อติดตามเบาะแสพวกแก๊งค้ายาซึ่งเป็นที่ต้องการตัวมากที่สุดของประเทศเพื่อนบ้านของสหรัฐฯรายนี้
ที่เวเนซุเอลา ทางด้านประธานาธิบดีมาดูโร ออกมากล่าวถึงปฏิบัติการของซีไอเอในการแทรกแซงความขัดแย้งของประเทศต่างๆ ทั่วโลก ทว่าไม่ได้พาดพิงโดยตรงถึงการยืนยันของทรัมป์เรื่องภารกิจลับในเวเนซุเอลา โดยเขาบอกว่า กรุงการากัสต่อต้านการที่สหรัฐฯดำเนินการเปลี่ยนแปลงระบอบปกครองในประเทศอื่น ซึ่งเตือนให้นึกถึงการที่สหรัฐฯโค่นล้มรัฐบาลทั้งในอัฟกานิสถาน อิรัก ลิเบีย และอีกมากมายในสงครามที่ล้มเหลวตลอดกาลของอเมริกา
มาดูโรสำทับว่า เวเนซุเอลาและละตินอเมริกาไม่ต้องการรัฐประหารของซีไอเอที่เตือนให้นึกถึงว่าได้เป็นสาเหตุทำให้เกิดผู้หายสาปสูญไปถึง 30,000 คน ตามการประมาณการของพวกองค์การสิทธิมนุษยชน ทั้งนี้รวมถึงในช่วงเผด็จการทหารในอาร์เจนตินา (ปี 1976-1983) และการรัฐประหารในชิลี (ปี 1973)
อีวาน กิล รัฐมนตรีต่างประเทศเวเนซุเอลา ประกาศว่า คำแถลงของทรัมป์แสดงให้เห็นถึงการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศและกฎบัตรสหประชาชาติอย่างร้ายแรง และการดำเนินการของอเมริกาที่มีเป้าหมายในการสร้างความชอบธรรมให้แก่การเปลี่ยนแปลงระบอบปกครองในเวเนซุเอลานั้น ก็เพื่อเข้ายึดทรัพยากรน้ำมันของเวเนซุเอลา
กิลสำทับว่า คณะผู้แทนถาวรประจำสหประชาชาติของเวเนซุเอลาจะร้องเรียนต่อคณะมนตรีความมั่นคงและเลขาธิการยูเอ็นในวันพฤหัสฯ (16) เพื่อเรียกร้องความรับผิดชอบจากรัฐบาลสหรัฐฯ
ทรัมป์นั้นกล่าวหามาตลอดว่า เวเนซุเอลาเป็นฮับค้ายาเฟนทานิล ทว่า ข้อมูลของอเมริกาเองกลับระบุว่า เม็กซิโกเป็นแหล่งที่มาหลักของยาเสพติดชนิดนี้
ต้นเดือนนี้ คณะบริหารสหรัฐฯ ประกาศว่า แก๊งยาเสพติดเป็นนักรบผิดกฎหมาย และอเมริกากำลังอยู่ในสถานการณ์ความขัดแย้งทางอาวุธกับแก๊งเหล่านั้น เห็นกันว่าการประกาศเช่นนี้ก็เพื่อสร้างความชอบธรรมสำหรับการใช้ปฏิบัติการทางทหารด้วยเหตุผลว่าเพื่อสกัดการหลั่งไหลของยาเสพติดเข้าสู่อเมริกา
เมื่อถูกถามว่า ทำไมไม่สั่งให้หน่วยยามฝั่งสกัดเรือที่สงสัยว่า ลักลอบขนยาเสพติดตามที่เคยทำมาตลอดหลายทศวรรษ ทรัมป์ตอบว่า ปฏิบัติการดังกล่าวไม่ได้ผลแล้ว
ผู้นำสหรัฐฯ ปฏิเสธที่จะตอบคำถามว่า ซีไอเอมีอำนาจในการสังหารมาดูโรหรือไม่ โดยบอกว่า สถานการณ์ในเวเนซุเอลาตอนนี้ตึงเครียดมากอยู่แล้ว
ความเคลื่อนไหวของทรัมป์ กำลังสร้างความไม่พอใจให้สมาชิกรัฐสภาจากทั้งสองพรรค เนื่องจากเป็นการนำประเทศเข้าสู่สงครามโดยไม่ขอความเห็นชอบจากรัฐสภาเสียก่อน นอกจากนั้นทรัมป์ยังเปิดเผยรายละเอียดน้อยมากเกี่ยวกับเหตุผลที่ตัดสินใจทำสงครามกับแก๊งค้ายา หรือระบุว่า แก๊งอาชญากรใดที่เป็น “นักรบที่ไม่ถูกต้องตามกฎมาย” อีกทั้งไม่เคยส่งมอบหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่า เรือที่ถูกกองทัพอเมริกาโจมตีนั้นขนยาเสพติดจริง
(ที่มา: รอยเตอร์/เอพี/เอเอฟพี)