ทางการเวเนซุเอลาจับกุมทหารและพลเรือนรวม 32 คน ฐานต้องสงสัยมีส่วนร่วมในแผนสมคบคิดของสหรัฐฯ เพื่อลอบสังหารประธานาธิบดี นิโคลัส มาดูโร
ทาเร็ก วิลเลียม ซาบ อัยการสูงสุดเวเนซุเอลา แถลงต่อผู้สื่อข่าวที่กรุงการากัสวานนี้ (22 ม.ค.) ว่า ผู้ต้องหาทุกราย “รับสารภาพ และยอมเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับแผนการของพวกเขาแล้ว”
ซาบ ซึ่งเป็นหนึ่งในพันธมิตรที่ภักดีกับ มาดูโร ยังบอกด้วยว่า คนเหล่านี้ถูกตั้งข้อหาเป็นกบฏ (treason) และถูกดำเนินคดีตามความผิดที่ก่อ ขณะที่สำนักงานอัยการเวเนฯ ยังได้ออกหมายจับผู้ต้องสงสัยอีก 11 คนฐานร่วมกันวางแผนปองร้ายรัฐมนตรีกลาโหม วลาดิมีร์ พาดริโน โดยมีทั้งนักสิทธิมนุษยชน ผู้สื่อข่าว และพวกนายทหารที่ลี้ภัยในต่างแดน
ประธานาธิบดี มาดูโร ออกมาเรียกร้องให้กลุ่มบุคคลเหล่านี้ “รับโทษขั้นสูงสุด... ฐานก่อการร้าย สมคบคิด และเป็นกบฏ” พร้อมสั่งให้กระทรวงกลาโหมไล่ออกพวกนายทหารทุกคนที่มีส่วนร่วมในแผนการนี้ด้วย
ด้านรัฐมนตรีกลาโหมเวเนฯ ระบุว่า ปฏิบัติการทลายเครือข่ายสมคบคิดเริ่มขึ้นตั้งแต่ปีที่แล้ว แต่ถูกปิดเป็นความลับเนื่องจากเป็นช่วงที่รัฐบาล มาดูโร กำลัง “เจรจา” กับสหรัฐฯ จนนำมาสู่ข้อตกลงแลกเปลี่ยนตัวนักโทษ
พาดริโน โทษว่าแผนทั้งหมดเป็นฝีมือของ “พวกขวาจัด” ซึ่งเป็นคำที่รัฐบาลมาดูโรมักใช้อ้างถึง “ฝ่ายค้าน” และยังอ้างว่าคนกลุ่มนี้ได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานข่าวกรองกลางสหรัฐฯ (CIA) และสำนักงานปราบปรามยาเสพติดสหรัฐฯ (DEA)
เจ้าหน้าที่เวเนฯ ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอซึ่งมีการเอ่ยเป็นนัยๆ ว่า มาเรีย โครินา มาชาโด (Maria Corina Machado) ผู้นำฝ่ายค้าน พัวพันกับแผนลอบสังหารผู้นำประเทศด้วย ขณะที่ ซาบ ประกาศว่า “จะมีคนถูกจับเพิ่มเติมอีก”
มาดูโร ชนะศึกเลือกตั้งสมัยที่ 2 เมื่อปี 2018 โดยหลายสิบประเทศไม่ให้การยอมรับ ส่งผลให้รัฐบาลเทอมสองของเขาเผชิญกับการคว่ำบาตร
ปีที่แล้ว คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (United Nations Human Rights Committee) ได้ออกรายงานแสดงความเป็นห่วง “การเล่นงานผู้ต่อต้าน” ในเวเนซุเอลา รวมถึงการที่ภาครัฐมีพฤติกรรม “ข่มขู่ ใช้กฎหมายเล่นงาน จับกุมโดยพลการ และคุมขังสื่อมวลชน นักสิทธิมนุษยชน และนักเคลื่อนไหวทางการเมือง”
มาดูโร มักออกมาอ้างว่ามีผู้วางแผนโค่นอำนาจตนอยู่เนืองๆ และฝ่ายที่ถูกครหาว่าให้การสนับสนุนก็มักจะหนีไม่พ้นสหรัฐฯ ฝ่ายค้าน หรือไม่ก็พวกแก๊งค้ายาเสพติดในโคลอมเบีย
ที่มา: เอเอฟพี