xs
xsm
sm
md
lg

เวเนซุเอลาหันซบคริปโตท่ามกลางเงินเฟ้อพุ่ง–ค่าเงินโบลิวาร์ทรุดหนักกว่า 70%

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


นายนิโคลัส มาดูโร ประธานาธิบดีเวเนซุเอลา
เศรษฐกิจเวเนซุเอลากำลังเผชิญวิกฤติค่าเงินโบลิวาร์ทรุดหนักกว่า 70% ในเวลาไม่กี่เดือน ขณะที่เงินเฟ้อพุ่งแตะ 229% ประชาชนทุกชนชั้นหันพึ่งสเตเบิลคอยน์และคริปโตเคอร์เรนซีทั้งใช้ซื้อขาย จ่ายค่าจ้าง ไปจนถึงเก็บออม ขับเคลื่อนให้ประเทศติดอันดับ 13 ของโลกด้านการยอมรับคริปโต แม้รัฐบาลยังมีท่าทีไม่แน่นอน และการคว่ำบาตรสหรัฐสร้างอุปสรรคด้านเชื่อมต่อทางการเงิน แต่แรงกดดันทางเศรษฐกิจได้ผลักเวเนซุเอลาเข้าสู่ “เศรษฐกิจดิจิทัลโดยจำเป็น”

ค่าเงินโบลิวาร์พังทลาย ประชาชนแห่หันหาคริปโต

การล่มสลายของค่าเงินโบลิวาร์นับตั้งแต่รัฐบาลยุติการป้องกันค่าเงินในเดือนตุลาคม ทำให้สกุลเงินท้องถิ่นสูญเสียมูลค่ากว่า 70% ภายในเวลาไม่กี่เดือน พร้อมกับเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นแตะ 229% ในเดือนพฤษภาคม

ตามรายงานของ Venezuelan Finance Observatory (OVF) สถานการณ์ดังกล่าวผลักให้ประชาชนจำนวนมากหันไปพึ่งพาคริปโตเคอร์เรนซีเพื่อรักษามูลค่าทรัพย์สินและใช้ในการดำรงชีวิตประจำวัน

จากร้านค้าริมถนนไปจนถึงเชนค้าปลีกรายใหญ่ ล้วนหันมาเปิดรับการชำระเงินด้วยคริปโตผ่านแพลตฟอร์มอย่าง Binance และ Airtm บางธุรกิจใช้สเตเบิลคอยน์ในการจ่ายค่าจ้างพนักงาน ขณะที่มหาวิทยาลัยเริ่มเปิดหลักสูตรคริปโตเพื่อรองรับความต้องการที่พุ่งสูงขึ้น

Victor Sousa ชาวเวเนซุเอลาที่เพิ่งซื้ออุปกรณ์มือถือด้วย USDT บอกกับ Financial Times ว่า “ทุกวันนี้มีหลายร้านที่รับการใช้จ่ายด้วยคริปโตแล้ว แผนของผมคืออยากเก็บเงินออมทั้งหมดไว้ในคริปโต”

เวเนซุเอลาไต่อันดับ 13 โลกด้านการใช้คริปโต

รายงานจาก Chainalysis Crypto Adoption Index 2567 ชี้ว่าเวเนซุเอลาไต่อันดับขึ้นมาอยู่ที่ 13 ของโลกด้วยอัตราการใช้คริปโตที่เพิ่มขึ้นถึง 110% ภายในหนึ่งปี การเร่งยอมรับนี้สะท้อนชัดว่า คริปโตไม่ใช่แค่ “ทางเลือก” แต่คือ “ความจำเป็น” ของประชาชนในประเทศที่เงินเฟ้อกัดกินค่าจ้างและโอกาสทางเศรษฐกิจ

นักเศรษฐศาสตร์ Aarón Olmos วิเคราะห์ว่า “ชาวเวเนซุเอลาใช้คริปโตเพราะไม่มีทางเลือกอื่น พวกเขาต้องเจอเงินเฟ้อ ค่าจ้างต่ำ ขาดแคลนเงินตราต่างประเทศ และอุปสรรคในการเปิดบัญชีธนาคาร”

การคว่ำบาตร–อินเทอร์เน็ต–ท่าทีรัฐที่ไร้จุดยืนชัดเจน เป็นอุปสรรคใหญ่

แม้ระบบนิเวศคริปโตจะแสดงความยืดหยุ่น แต่เส้นทางการยอมรับไม่ได้ราบรื่นนัก สหรัฐยังคงใช้มาตรการคว่ำบาตรสถาบันการเงินของเวเนซุเอลา ทำให้ Binance ต้องจำกัดบริการบางประเภท ขณะเดียวกันปัญหาการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตในหลายพื้นที่ยังเป็นอุปสรรคใหญ่

อย่างไรก็ตาม ท่าทีของรัฐบาลต่อคริปโตยังสับสนและไม่ต่อเนื่อง ย้อนกลับไปปี 2561 รัฐบาลเปิดตัว Petro เหรียญดิจิทัลที่อิงกับน้ำมัน แต่โครงการล้มเหลวและถูกยกเลิกในปี 2566 หลังเกิดคดีคอร์รัปชันเชื่อมโยงกับการซื้อขายน้ำมันจนหน่วยงานกำกับดูแลหลักถูกยุบ

คริปโตโอนเงินกลับบ้านพุ่ง–กลายเป็นเส้นเลือดใหญ่เศรษฐกิจครอบครัว

รายงานของ Cointelegraph ระบุว่า การโอนเงินกลับบ้านด้วยคริปโตกลายเป็นเส้นเลือดใหญ่ของประชาชน โดยในปี 2566 คิดเป็น 9% ของเงินโอนเข้าประเทศมูลค่า 5.4 พันล้านดอลลาร์ หรือราว 461 ล้านดอลลาร์ ครอบครัวจำนวนมากเลือกคริปโตแทนบริการอย่าง Western Union ที่มีค่าธรรมเนียมสูงและล่าช้า

เวเนซุเอลาอยู่อันดับที่ 13 ของโลกในด้านการนำคริปโตมาใช้ ที่มา: Chainalysis
ชนวนความขัดแย้ง "สหรัฐ–เวเนซุเอลา" ทำภูมิรัฐศาสตร์ตึงเครียด

ในมิติการเมืองระหว่างประเทศ ความตึงเครียดทางทหารเพิ่มระดับ เมื่อรัฐมนตรีกลาโหมเวเนซุเอลาประกาศส่งเรือรบและโดรนลาดตระเวนตามแนวชายฝั่งแคริบเบียน เพื่อตอบโต้การเคลื่อนกำลังของสหรัฐที่ส่งเรือรบสะเทินน้ำสามลำ พร้อมเรือรบติดขีปนาวุธและเรือดำน้ำนิวเคลียร์เข้ามาในภูมิภาค

การเผชิญหน้าครั้งนี้เกิดขึ้นหลังรัฐบาลวอชิงตันกล่าวหาประธานาธิบดี นิโคลัส มาดูโร มีสายสัมพันธ์กับแก๊งค้ายา พร้อมเพิ่มค่าหัวจับกุมมาดูโรเป็น 50 ล้านดอลลาร์ และอีก 25 ล้านดอลลาร์สำหรับรัฐมนตรีมหาดไทย ดิโอสดาโด คาเบลโย

เศรษฐกิจดิจิทัลที่ถือกำเนิดจาก “ความจำเป็น”

เวเนซุเอลาคือกรณีศึกษาสำคัญว่าคริปโตสามารถกลายเป็น “สกุลเงินประชาชน” ได้จริง เมื่อระบบเศรษฐกิจและค่าเงินดั้งเดิมล่มสลาย แต่การพึ่งพาคริปโตในสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยการคว่ำบาตรและความไม่แน่นอนทางการเมืองยังเปราะบาง การยอมรับคริปโตในประเทศนี้จึงไม่ใช่เพียงการทดลองทางการเงิน แต่คือสัญญาณเตือนถึงประเทศอื่น ๆ ที่อาจต้องหันมาใช้คริปโตไม่ใช่ด้วยความสมัครใจ แต่เพราะ “ไม่มีทางเลือก”