ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ยื่นคำขาดในวันอังคาร (30 ก.ย.) ให้เวลากลุ่มฮามาส “3 หรือ 4 วัน” ในการตอบรับแผนการของเขาที่มุ่งสร้างสันติภาพขึ้นมาในฉนวนกาซา ขณะที่กลุ่มนักรบปาเลสไตน์กลุ่มนี้ระบุว่าอยู่ระหว่างพิจารณาข้อเสนอ ซึ่งอิสราเอลประกาศยอมรับไปแล้ว และเหล่าชาติอาหรับตลอดจนประเทศมุสลิมสำคัญก็พากันเห็นดีเห็นงาม เช่นเดียวกับพวกพันธมิตรของอเมริกาในยุโรป ตลอดจนรัสเซียและจีน
แผนการซึ่งทรัมป์ ประกาศออกมาอย่างเป็นทางการเมื่อวันจันทร์ (29) ครอบคลุมทั้งการหยุดยิงระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮามาส การปล่อยตัวประกันชาวอิสราเอลทั้งหมดภายใน 72 ชั่วโมง การปลดอาวุธฮามาส และการถอนทหารอิสราเอลออกจากกาซาอย่างค่อยเป็นค่อยไป รวมทั้งการจัดตั้งองค์การบริหารชั่วคราวที่อยู่ใต้การนำของทรัมป์ และอดีตนายกรัฐมนตรีโทนี่ แบลร์ ของสหราชอาณาจักร ตลอดจนการจัดตั้งกองกำลังรักษาเสถียรภาพระหว่างประเทศชั่วคราวขึ้นมา
“เรากำลังจะทำเรื่องนี้ในเวลาราวๆ 3 หรือ 4 วัน” ทรัมป์ตอบพวกผู้สื่อข่าวในวันอังคาร (30) เมื่อถูกสอบถามเกี่ยวกับกรอบเวลา โดยที่เขาย้ำว่า “เรากำลังรอทางฮามาสเท่านั้น และฮามาสอาจจะเอาด้วยหรือไม่เอาด้วยก็ได้ แต่ถ้าไม่เอา มันก็จะมีจุดจบที่เศร้ามากๆ”
ทรัมป์ประกาศแผนการที่มีข้อเสนอรวม 20 ข้อฉบับนี้ที่ทำเนียบขาวในวันจันทร์ ภายหลังพบปะหารือกับนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอล
ในวันอังคาร แหล่งข่าวชาวปาเลสไตน์รายหนึ่งบอกกับเอเอฟพีโดยขอให้สงวนนามว่า ฮามาสได้เริ่มปรึกษาหารือเรื่องแผนการนี้ “ภายในคณะผู้นำทางการเมืองและทางทหารของตน ทั้งที่ภายในปาเลสไตน์และในต่างแดนแล้ว” โดยแหล่งข่าวรายงานว่าการปรึกษาหารือาจกินเวลาหลายวันเนื่องจากเป็นเรื่องที่สลับซับซ้อน
ด้าน กาตาร์ ซึ่งเป็นเจ้าภาพรับรองคณะผู้นำของฮามาสส่วนที่ลี้ภัยอยู่ต่างแดน แจ้งว่ากลุ่มนี้ให้สัญญาจะศึกษาข้อเสนอนี้ “อย่างรับผิดชอบ” นอกจากนั้นกาตาร์แถลงว่าตนจะจัดการประชุมกับฮามาสและตุรกีในช่วงต่อไปของวันอังคาร
มาเจด อัล-อันซารี โฆษกกระทรวงการต่างประเทศกาตาร์แถลงว่า “ยังเร็วเกินไปที่จะพูดเกี่ยวกับการตอบสนอง (ของฝ่ายฮามาส) แต่เรามองแง่ดีจริงๆ เกี่ยวกับแผนการนี้ ซึ่งอย่างที่เราพูดไปแล้ว มันเป็นแผนการที่รอบด้าน”
ระหว่างการแถลงข่าวร่วมที่ทำเนียบขาวเมื่อวันจันทร์ ภายหลังการประชุมกับเนทันยาฮู ทรัมป์กล่าวว่า พวกเขา "ใกล้บรรลุข้อตกลงสันติภาพที่ยากจะบรรลุได้" สำหรับดินแดนปาเลสไตน์ ขณะเดียวกันก็เตือนกลุ่มฮามาสว่า อิสราเอลจะได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่จากสหรัฐฯ ในปฏิบัติการใดๆ ก็ตามที่สหรัฐฯ เห็นว่าจำเป็น หากกลุ่มติดอาวุธปาเลสไตน์ปฏิเสธข้อเสนอนี้
ทรัมป์ ยังกล่าวขอบคุณ เนทันยาฮู "ที่เห็นด้วยกับแผนดังกล่าว และเชื่อมั่นว่าหากเราทำงานร่วมกัน เราจะสามารถยุติความตายและการทำลายล้างที่เราเห็นมานานหลายปี หลายทศวรรษ หรือแม้กระทั่งหลายศตวรรษได้"
ส่วนเนทันยาฮู ซึ่งยืนเคียงข้างทรัมป์ ตอบว่า เขาสนับสนุนแผนของทรัมป์ เนื่องจากมีเป้าหมายเดียวกันกับการปฏิบัติการทางทหารของอิสราเอล
เขาแจกแจงว่า "แผนดังกล่าวนี้ จะนำตัวประกันทั้งหมดของเรากลับคืนสู่อิสราเอล รื้อถอนขีดความสามารถทางทหารของฮามาส ยุติอำนาจทางการเมืองของพวกเขา และรับรองว่ากาซาจะไม่เป็นภัยคุกคามต่ออิสราเอลอีกต่อไป"
เนทันยาฮู ย้ำว่า ถ้าฮามาสไม่ยอมรับแผนการนี้หรือยอมรับแต่กลับทำทุกอย่างเพื่อต่อต้าน อิสราเอลจะจบสงครามด้วยตัวเอง นอกจากนั้น ในระหว่างการแถลงข่าว เขายังตั้งข้อสงสัยว่า องค์การบริหารปาเลสไตน์ที่ปกครองเขตยึดครองเวสต์แบงก์ในขณะนี้ จะได้รับอนุญาตให้มีบทบาทในการปกครองกาซาหรือไม่
ภายหลังการแถลงข่าวร่วม เนทันยาฮูยังโพสต์วิดีโอบนช่องเทเลแกรม ระบุว่ากองทัพอิสราเอลจะคงอยู่ในพื้นที่ส่วนใหญ่ของกาซา พร้อมยืนยันกับทรัมป์ว่า ไม่เห็นด้วยเรื่องการสถาปนารัฐปาเลสไตน์ แม้เป็นสิ่งที่แผนการล่าสุดของอเมริกาเปิดช่องไว้
อย่างไรก็ดี พวกขวาจัดในรัฐบาลผสมของเนทันยาฮู ยังคงแสดงความไม่พอใจในข้อเสนอของทรัมป์
เบซาเลล สโมทริชต์ รัฐมนตรีคลังอิสราเอลที่เป็นสมาชิกพรรคขวาจัด แถลงโจมตีว่า แผนการของทรัมป์เป็นความล้มเหลวทางการทูตอย่างร้ายแรง และลูกหลานอิสราเอลจะถูกบีบให้กลับไปทำสงครามในกาซาอีก
สำหรับปฏิกิริยาจากทั่วโลก ปรากฏว่า แผนการของทรัมป์ได้รับการตอบรับในทางสนับสนุนอย่างรวดเร็ว ผู้นำยุโรปจำนวนมาก เช่น นายกรัฐมนตรี ฟรีดิช เมิร์ซ ของเยอรมนี, นายกรัฐมนตรีเคียร์ สตาร์เมอร์ ของสหราชอาณาจักร, ประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครง แห่งฝรั่งเศส, นายกรัฐมนตรีเปโดร ซานเชส ของสเปน ตลอดจน อันโตนิโอ คอสตา ประธานของคณะมนตรียุโรป ซึ่งเป็นองค์การที่ประชุมของบรรดาผู้นำชาติสมาชิกอียู ต่างแสดงความยินดีต้อนรับแผนการกาซาของทรัมป์
ที่รัสเซีย ดมิตริ เปสคอฟ โฆษกทำเนียบเครมลิน แถลงว่า รัสเซียต้องการให้แผนการนี้ถูกนำมาปฏิบัติ เพื่อช่วยนำพาเหตุการณ์ต่างๆ ในตะวันออกกลางให้ไปสู่บทสรุปที่มีสันติภาพ
ขณะเดียวกัน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน กัว เจียคุน แถลงว่า ปักกิ่งสนับสนุนความพยายามทั้งหลายที่โน้มนำไปสู่การผ่อนคลายความตึงเครียดระหว่างปาเลสไตน์กับอิสราเอล
ด้านชาติอาหรับและชาติที่ประชากรส่วนใหญ่เป็นมุสลิมรวม 8 ราย ออกคำแถลงร่วมบอกว่า “ยินดีต้อนรับบทบาทของประธานาธิบดีอเมริกัน และความพยายามอย่างจริงใจของเขาที่มุ่งหมายยุติสงครามในกาซา”
พวกเขาทั้ง 8 ซึ่งประกอบด้วย อียิปต์, จอร์แดน, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี), ตุรกี, กาตาร์, ซาอุดีอาระเบีย, อินโดนีเซีย, และปากีสถาน บอกว่า พวกเขา “ยืนยันความพร้อมของพวกเขาในการเข้ามีปฏิสัมพันธ์ในทางบวกและในทางสร้างสรรค์กับสหรัฐฯและฝ่ายต่างๆ เพื่อมุ่งทำให้ข้อตกลงนี้สำเร็จเสร็จสิ้นในขั้นสุดท้าย รวมทั้งทำให้แน่ใจว่ามีการนำเอาข้อตกลงนี้ไปปฏิบัติ
ทางฝ่ายองค์การบริหารปาเลสไตน์ที่อาจมีบทบาทในรัฐบาลกาซาหลังสงคราม ชมความจริงใจและความพยายามอย่างเด็ดเดี่ยวของทรัมป์
กระนั้น ประชาชนในกาซายังไม่มั่นใจนัก เป็นต้นว่า อิบราฮิม จูเดห์ โปรแกรมเมอร์คอมพิวเตอร์วัย 39 ปี บอกว่า แผนการดังกล่าวไม่สอดคล้องกับความเป็นจริงอย่างชัดเจน เนื่องจากร่างขึ้นภายใต้เงื่อนไขที่ทั้งอเมริกาและอิสราเอลรู้ดีว่า ฮามาสไม่มีทางยอมรับ ซึ่งสำหรับชาวกาซา สิ่งนี้หมายความว่า สงครามและความยากลำบากจะดำเนินต่อไป
กลุ่มอิสลามิก ญิฮาดที่เป็นพันธมิตรกับฮามาส ก็วิจารณ์ว่า แผนการของทรัมป์จะจุดชนวนการประหัตประหารคนปาเลสไตน์รุนแรงขึ้น เนื่องจากอิสราเอลใช้อเมริกาบังหน้าเพื่อสร้างเงื่อนไขที่เป็นไปไม่ได้ในระหว่างการทำสงคราม
(ที่มา: เอเอฟพี/รอยเตอร์)