ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ กล่าวเมื่อวันพฤหัสบดี (25 ก.ย.)ว่า เขาจะไม่อนุญาตให้อิสราเอลผนวกดินแดนเวสต์แบงก์ โดยปฏิเสธข้อเรียกร้องจากนักการเมืองฝ่ายขวาจัดบางคนในอิสราเอลที่ต้องการขยายอำนาจอธิปไตยเหนือพื้นที่ดังกล่าว และดับความหวังชาวปาเลสไตน์ในการมีรัฐของตนเอง
นายกรัฐมนตรี เบนจามิน เนทันยาฮู แห่งอิสราเอล เผชิญกับแรงกดดันบางส่วนจากพันธมิตรให้ผนวกดินแดนเวสต์แบงก์ ซึ่งสร้างความกังวลให้กับพวกผู้นำอาหรับ ซึ่งบางคนได้พบปะกับ ทรัมป์ ในวันอังคาร (23) ระหว่างการประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ
“ผมจะไม่อนุญาตให้อิสราเอลผนวกเวสต์แบงก์ ไม่... ผมจะไม่อนุญาตให้มันเกิดขึ้น มันจะไม่เกิดขึ้น” ทรัมป์ บอกกับผู้สื่อข่าวในห้องทำงานรูปไข่
“มันมากพอแล้ว ถึงเวลาที่ต้องหยุดแล้ว” เขากล่าว
ฝรั่งเศส อังกฤษ แคนาดา ออสเตรเลีย และโปรตุเกส เป็นหนึ่งในประเทศตะวันตกที่ให้การรับรองรัฐปาเลสไตน์ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ส่วนหนึ่งก็เพื่อช่วยค้ำจุนทางออกแบบ 2 รัฐให้คงอยู่ ซึ่งอิสราเอลได้ประณามการกระทำดังกล่าว
ทรัมป์ แสดงความคิดเห็นนี้ ใขณะที่ เนทันยาฮู กำลังเดินทางถึงนิวยอร์กเพื่อขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ต่อสหประชาชาติในวันศุกร์ (26)
สำนักงานของ เนทันยาฮู ระบุว่า นายกรัฐมนตรีจะรอจนกว่าจะเดินทางกลับอิสราเอลจึงจะให้ความเห็นเกี่ยวกับสุนทรพจน์ของทรัมป์
นิคมอิสราเอลมีขนาดและจำนวนเพิ่มขึ้นนับตั้งแต่อิสราเอลยึดครองเวสต์แบงก์ในสงครามปี 1967 นิคมเหล่านี้แผ่ขยายเข้าไปด้วยระบบถนนและโครงสร้างพื้นฐานอื่นๆ ภายใต้การควบคุมของอิสราเอล ทำให้ดินแดนเวส์แบงก์ถูกแบ่งแยกออกเป็น 2 ส่วนมากขึ้นเรื่อยๆ
แผนตั้งถิ่นฐานของชาวยิวที่ถูกประณามอย่างกว้างขวางรู้จักกันในชื่อโครงการ E1 ซึ่งจะแบ่งเวสต์แบงกออกเป็นสองส่วนและตัดขาดจากเยรูซาเลมตะวันออก แผนนี้ได้รับการอนุมัติขั้นสุดท้ายเมื่อเดือน ส.ค. โดยจะตัดผ่านดินแดนที่ชาวปาเลสไตน์ต้องการตั้งเป็นรัฐในอนาคตด้วย
เบซาเลล สโมตริช รัฐมนตรีกระทรวงการคลังของอิสราเอล ซึ่งเป็นนักการเมืองสายชาตินิยมสุดโต่งในรัฐบาลผสมฝ่ายขวาของ เนทันยาฮู กล่าวในขณะนั้นว่า รัฐปาเลสไตน์กำลังจะ "ถูกลบออกจากโต๊ะเจรจา"
กลุ่มประเทศอาหรับและมุสลิมได้เตือน ทรัมป์ ระหว่างการประชุมเมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมาเกี่ยวกับผลกระทบร้ายแรงจากการผนวกเวสต์แบงก์ ซึ่งเป็นสิ่งที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ "เข้าใจเป็นอย่างดี" ตามที่เจ้าชายไฟซอล บิน ฟาร์ฮาน อัล-สะอูด รัฐมนตรีว่กระทรวงการต่างประเทศซาอุดีอาระเบีย กล่าว
ผู้ตั้งถิ่นฐานชาวอิสราเอลราว 700,000 คน อาศัยอยู่ท่ามกลางชาวปาเลสไตน์ 2.7 ล้านคนในเขตเวสต์แบงก์และเยรูซาเลมตะวันออก ซึ่งอิสราเอลได้ผนวกเข้าเป็นดินแดนของตน โดยที่ประเทศส่วนใหญ่ในโลกยังไม่ยอมรับ
อิสราเอลปฏิเสธที่จะสละการควบคุมเวสต์แบงก์ และแสดงจุดยืนอย่างแข็งกร้าวมากขึ้นตั้งแต่ถูกกลุ่มฮามาสบุกโจมตีเมื่อวันที่ 7 ต.ค. ปี 2023 ซึ่งทำให้มีประชาชนถูกสังหารไปราว 1,200 คน และอีก 251 คนถูกจับเป็นตัวประกัน 251 คน
ประชาคมโลกส่วนใหญ่มองว่า การตั้งถิ่นฐานของชาวยิวในเขตเวสต์แบงก์ขัดต่อกฎหมายระหว่างประเทศ
รัฐบาลอิสราเอลโต้แย้งเรื่องนี้ โดยอ้างถึงความเชื่อมโยงทางประวัติศาสตร์และพระคัมภีร์ไบเบิลกับพื้นที่ดังกล่าว และย้ำว่าการตั้งถิ่นฐานในพื้นที่เหล่านี้ให้ความมั่นคงเชิงยุทธศาสตร์
ที่มา: รอยเตอร์