xs
xsm
sm
md
lg

พายุ‘บัวลอย’อ่อนกำลังเป็นดีเปรสชั่นเคลื่อนเข้าเขต‘ลาว’ หลังถล่มเวียดนามตายเพิ่มเป็น13 ขณะฟิลิปปินส์อัปเดตผู้เสียชีวิตขึ้นเป็น 27

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


สภาพความเสียหายของชายหาด หลังจากไต้ฝุ่นบัวลอยพัดผ่านเขตจังหวะเหงะอาน ของเวียดนาม เมื่อวันจันทร์ (29 ก.ย.)
ไต้ฝุ่น “บัวลอย” ที่ถึงแม้อ่อนกำลังลงแล้ว ยังคงทำให้เกิดฝนตกหนักและลมพัดแรง ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมและมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 13 คนในตอนกลางของเวียดนาม ก่อนที่พายุลูกนี้อ่อนกำลังลงอีกจนกลายเป็นดีเปรสชันเขตร้อนและพัดเข้าสู่ลาวเมื่อบ่ายวันจันทร์ (29 ก.ย.) ขณะเดียวกัน ฟิลิปปินส์ซึ่งประสบภัยจากพายุลูกนี้ตั้งแต่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ได้ปรับตัวเลขความเสียหายล่าสุดโดยระบุว่า มีผู้สิ้นชีพไปอย่างน้อย 27 คน หรือกว่าเท่าตัวของตัวเลขที่แจ้งกันก่อนหน้านี้



ในเวียดนาม บัวลอยซึ่งขึ้นฝั่งเมื่อตอนดึกวันอาทิตย์ (28) โดยมีความรุนแรงของลมระดับที่ยังถูกจัดเป็นพายุไต้ฝุ่นอยู่ นั่นคือกว่า 130 กม./ชม. พายุลูกนี้ได้เคลื่อนตัวผ่านชุมชนต่างๆ สร้างความเสียหายให้แก่บ้านเรือน โรงเรียน เสาไฟฟ้า สะพานชั่วคราว อีกทั้งทำให้น้ำท่วมถนนหลายสายในหลายจังหวัด และมีหลายพื้นที่ถูกตัดขาด

กระทรวงสิ่งแวดล้อมเวียดนามแถลงว่า ประชาชนกว่า 53,000 คนอพยพไปยังโรงเรียนและศูนย์การแพทย์ที่ถูกแปลงสภาพเป็นศูนย์หลบภัยชั่วคราวก่อนที่บัวลอยจะขึ้นฝั่ง

นอกจากนั้นทางการยังสั่งเรือประมงงดออกจากฝั่ง และระงับการให้บริการของสนามบินที่อยู่ใกล้ชายฝั่งรวม 4 แห่ง มีเที่ยวบินกว่า 180 เที่ยวถูกยกเลิกหรือเลื่อนเวลาออกไป ขณะเดียวกันยังสั่งปิดทางหลวงแห่งชาติบางส่วน

รายงานข่าวระบุว่า มีผู้เสียชีวิต 9 คนในจังหวัดนิงห์บิงห์ ที่มีลมแรงจัดพัดบ้านเรือนจำนวนมากพังถล่ม และยังพบผู้เสียชีวิตในจังหวัดทัญฮว้า รวมถึงเมืองเว้และดานัง รวมตัวเลขผู้เสียชีวิตอัปเดตล่าสุดในวันจันทร์อยู่ที่อย่างน้อย 13 คน และมีคนสูญหายอีก 20 คน

หน่วยงานรับมือภัยพิบัติแห่งชาติและระดับท้องถิ่นเผยว่า มีผู้สูญหาย 9 คนอยู่ในเรือประมงลำหนึ่งซึ่งขาดการติดต่อมาตั้งแต่คืนวันอาทิตย์ที่ทะเลมีคลื่นลมแรงจัด

สื่อของทางการเวียดนามรายงานว่า ประชาชน 347,100 ครัวเรือนไม่มีไฟฟ้าใช้ตั้งแต่ก่อนที่บัวลอยจะพัดขึ้นฝั่ง ขณะลมกรรโชกแรงทำให้โครงหลังคาเหล็กพังลงมา เสาคอนกรีตล้ม และกระเบื้องลูกฟูกปลิวไปตกกระจัดกระจายบนถนน

สื่อระบุว่า เวียดนามต้องรีบอพยพประชาชนจำนวนหนึ่งออกจากจังหวัดตอนกลางและเหนือของประเทศ เมื่อพายุบัวลอยเคลื่อนที่เร็วกว่าที่คาดหมาย โดยขึ้นฝั่งที่จังหวัดห่าติ๋ญเมื่อเวลา 0.30 น. วันจันทร์ พร้อมลมที่มีกำลังแรงสูงสุด 133 กม./ชม. คลื่นพายุซัดฝั่งสูงกว่า 1 เมตร และฝนตกหนัก

ศูนย์พยากรณ์อุทกวิทยาแห่งชาติของเวียดนามระบุว่า ช่วงสายวันจันทร์ศูนย์กลางของพายุเคลื่อนเข้าใกล้จังหวัดเหงะอานที่อยู่ติดกับลาว โดยมีความเร็วลม 74 กม./ชม. ก่อนเคลื่อนตัวเข้าสู่ลาวในช่วงบ่ายและอ่อนกำลังลงเป็นดีเปรสชันเขตร้อน โดยมีความเร็วลม 39-31 กม./ชม.

ทางด้านฟิลิปปินส์ เจ้าหน้าที่ป้องกันภัยฝ่ายพลเรือนแถลงในวันจันทร์ (29) ยอดผู้เสียชีวิตอัปเดตล่าสุดจากไต้ฝุ่นบัวลอยซึ่งพัดเข้าฟิลิปปินส์เมื่อวันศุกร์ (26) อยู่ที่อย่างน้อย 27 คน เพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวจากตัวเลขที่รายงานก่อนหน้านี้ ส่วนใหญ่เนื่องจากจมน้ำและถูกต้นไม้หรือเศษซากหักพังต่างๆ ล้มทับ นอกจากนั้นบัวลอยยังทำให้ไฟฟ้าดับในหลายเมือง ประชาชนราว 400,000 คนต้องอพยพไปยังศูนย์หลบภัยฉุกเฉินกว่า 1,400 แห่ง

บัวลอยเป็นพายุใหญ่ลูกที่ 2 ที่อาละวาดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในรอบ 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากก่อนหน้านี้ไม่กี่วันเป็นคิวของไต้ฝุ่นรากาซา ซึ่งเป็นหนึ่งในพายุที่มีความรุนแรงมากที่สุดในรอบหลายปี ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 28 คนในฟิลิปปินส์และไต้หวัน ก่อนที่พายุจะเคลื่อนขึ้นฝั่งที่จีนและสลายตัวเหนือเวียดนามในวันพฤหัสฯ (25)

ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า ภาวะโลกร้อนเป็นสาเหตุทำให้พายุ เช่น พายุวิภาในเดือนกรกฎาคม มีกำลังลมแรงขึ้นและฝนตกหนักขึ้น เนื่องจากมหาสมุทรที่อุ่นขึ้นทำให้พายุเขตร้อนมีกำลังรุนแรงยิ่งขึ้น ลมกรรโชกหนักขึ้น และฝนตกหนักขึ้น และเปลี่ยนแปลงรูปแบบหยาดน้ำฟ้าทั่วเอเชียตะวันออก

เฉพาะฟิลิปปินส์เผชิญพายุและไต้ฝุ่นเฉลี่ยปีละ 20 ลูก

สำนักงานสถิติเวียดนามเผยว่า ในช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้มีผู้เสียชีวิตหรือสูญหายจากภัยพิบัติธรรมชาติ 175 คน สร้างความเสียหายทั้งสิ้นราว 371 ล้านดอลลาร์ หรือเกือบ 3 เท่าตัวของมูลค่าความเสียหายจากภัยพิบัติธรรมชาติในช่วงเดียวกันของปี 2024

(ที่มา: เอพี/เอเอฟพี)
กำลังโหลดความคิดเห็น