“ปูติน”ยอมรับคุยกับ “สี จิ้นผิง”เรื่องการปลูกถ่ายอวัยวะเพื่อให้ชีวิตยืนยาวขึ้นและความเป็นอมตะ ก่อนพิธีสวนสนามยิ่งใหญ่ตระการตาในกรุงปักกิ่งเมื่อวันพุธ (3 ก.ย.) ซึ่งกระทั่งทรัมป์ยังชมว่า เป็นพิธีที่งดงาม แต่เสียอย่างเดียวน่าจะยกเครดิตให้อเมริกาบ้างในฐานะที่ช่วยพิชิตญี่ปุ่นเมื่อ 80 ปีก่อน ในอีกด้านหนึ่ง นักข่าวเครมลินก็โพสต์คลิปซึ่งแสดงให้เห็นว่าพวกเจ้าหน้าที่เกาหลีเหนือจัดการ “เคลียร์ร่องรอย” ของผู้นำโสมแดง คิม จองอึน ทันทีที่เสร็จสิ้นการหารือกับผู้นำรัสเซีย
ภาพประธานาธิบดีสี จิ้นผิง จับมือและพูดคุยกับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน และ คิม จองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือ ขณะเดินบนพรมแดงพร้อมกับคณะผู้นำจากอีก 20 กว่าประเทศ เข้าสู่จุดชมพิธีสวนสนามแสดงแสนยานุภาพของกองทัพจีน ณ จัตุรัสเทียนอันเหมิน เมื่อเช้าวันพุธ (3) กลายเป็นภาพประวัติศาสตร์ โดยเฉพาะในแง่ที่ว่า เป็นการท้าทายแข็งขืนความพยายามแซงก์ชั่นมุ่งให้อยู่อย่างโดดเดี่ยวจากบรรดาชาติตะวันตก รวมทั้งจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของอเมริกา
แต่เวลาเดียวกัน ก็ปรากฏข่าว “ควันหลง” ซึ่งดูจะถูกเผยแพร่ออกมาอย่างไม่ได้ตั้งใจ ที่สะท้อนให้เห็นถึงความสนใจและพฤติกรรม “ไม่ธรรมดา” ซึ่งไม่ค่อยเป็นที่ทราบกันมาก่อนของพวกผู้นำในฝ่ายต่อต้านตะวันตกเหล่านี้
ทั้งนี้ ฟีดข่าวหนึ่งของสถานีโทรทัศน์ส่วนกลางของทางการจีน (ซีซีทีวี) ซึ่งบันทึกภาพและเสียงการสนทนากันระหว่าง ปูติน, สี, และคิม ขณะเดินบนพรมแดง โดยที่มีบรรดาล่ามคอยแปลภาษาอยู่ข้างๆ แสดงให้เห็นว่า ประมุขแดนมังกรพูดว่า ทุกวันนี้อายุ 70 แล้ว ในอดีตน้อยคนที่จะอยู่ถึงอายุ 70 แต่วันนี้หลายคนพูดว่า อายุ 70 ยังเด็กๆ อยู่เลย ด้านปูตินก็ขานรับว่า เทคโนโลยีชีวภาพช่วยให้สามารถปลูกถ่ายอวัยวะ และคนอาจดูอ่อนเยาว์ลงเมื่ออายุมากขึ้นหรือแม้กระทั่งเป็นอมตะ
จากนั้น สี กล่าวว่า เห็นด้วยว่าภายในศตวรรษนี้มีความเป็นไปได้ว่า คนเราอาจมีอายุยืนยาวถึง 150 ปีไ
ในเวลาต่อมา ปูตินยืนยันระหว่างแถลงกับพวกผู้สื่อข่าวว่า พูดคุยเรื่องดังกล่าวกับสีจริง และเสริมว่า วิทยาการสมัยใหม่ทั้งการปรับปรุงสุขภาพและการแพทย์ ไปจนถึงการผ่าตัดทุกรูปแบบที่เกี่ยวกับการเปลี่ยนอวัยวะ ช่วยให้มนุษยชาติมีความหวังในการมีชีวิตอยู่อย่างแข็งแรงต่อไป
ทั้งนี้ ทั้งสีและปูตินต่างอายุ 72 ปีเท่ากัน และทั้งคู่ไม่เคยแสดงเจตนารมณ์ที่จะลงจากอำนาจ
แม้ผู้นำจีนคนก่อนๆ คือเจียง เจ๋อหมิน และหู จิ่นเทา สละอำนาจหลังอยู่ในตำแหน่งครบ 10 ปี แต่สำหรับสีได้ยกเลิกการจำกัดระยะเวลาการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีเมื่อปี 2018 และในปี 2023 ได้รับมอบหมายให้รับตำแหน่งต่อเป็นสมัยที่ 3
ทรัมป์โอดจีนไม่ให้เครดิต
ในอีกด้านหนึ่ง ทรัมป์ได้กล่าวกับพวกผู้สื่อข่าวในทำเนียบขาวถึงพิธีสวนสนามเนื่องในวาระครบรอบ 80 ปี “วันแห่งชัยชนะ” ญี่ปุ่นและสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 ของจีนคราวนี้ว่า เป็นพิธีที่งดงามและน่าประทับใจมาก รวมทั้งได้ฟังคำปราศรัยของสีซึ่งถือเป็นมิตรสหายของตน แต่เขาคิดว่า น่าจะมีการกล่าวถึงอเมริกาบ้างในฐานะที่ช่วยเหลือจีนอย่างมากในการเอาชนะญี่ปุ่น
ทั้งนี้ ญี่ปุ่นรุกรานจีนในปี 1937 และมีการสู้รบครั้งใหญ่ที่นำไปสู่สงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งสุดท้ายญี่ปุ่นยอมจำนนในปี 1945 ส่วนอเมริกานั้นเข้าร่วมสงครามในปี 1941 และช่วยกองทัพจีนต่อสู้กับทหารญี่ปุ่น รวมทั้งยังมีบทบาทสำคัญที่ทำให้ญี่ปุ่นพ่ายแพ้
ทว่า เมื่อวันพุธ สีกล่าวขอบคุณรัฐบาลและมิตรสหายประเทศต่างๆ ที่สนับสนุนและช่วยเหลือคนจีน แต่ไม่ได้เอ่ยถึงบทบาทของอเมริกาในสงครามครั้งนั้น
โสมแดงเก็บกวาด“ร่องรอย”คิม
วันเดียวกันนั้น อเล็กซานเดอร์ ยูนาเชฟ ผู้สื่อข่าวประจำทำเนียบเครมลินได้โพสต์ฟุตเทจภาพเจ้าหน้าที่เกาหลีเหนือสองคนบรรจงทำความสะอาดห้องที่คิมคุยกับปูตินนานกว่าสองชั่วโมงที่ปักกิ่ง
ทั้งนี้ ที่วางแขนและพนักพิงของเก้าอี้ถูกเช็ดอย่างดีเช่นเดียวกับโต๊ะกาแฟถัดจากเก้าอี้ที่คิมนั่ง และแก้วน้ำดื่มของผู้นำโสมแดงถูกเก็บออกมา
ยูนาเชฟเผยว่า ทันทีที่การเจรจาจบลง เจ้าหน้าที่ของเกาหลีเหนือจัดการทำลายร่องรอยดีเอ็นเอทั้งหมดของคิมทันที
นอกจากนั้น หนังสือพิมพ์นิกเกอิของญี่ปุ่นยังรายงานโดยอ้างอิงข้อมูลจากหน่วยงานข่าวกรองของเกาหลีใต้และญี่ปุ่นว่า คิมพกพาห้องน้ำส่วนตัวมาด้วยในขบวนรถไฟหุ้มเกราะที่เขาใช้เดินทางจากบ้านเกิดมาปักกิ่งครั้งนี้ โดยนี่ก็เป็นวิธีปฏิบัติเช่นเดียวกับทริปต่างแดนครั้งก่อนๆ ของผู้นำเกาหลีเหนือผู้นี้
ไมเคิล แมดเดน ผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับผู้นำเกาหลีเหนือของหน่วยงานคลังสมองในสหรัฐฯ สติมสัน เซ็นเตอร์ ชี้ว่า การดำเนินการเหล่านั้นเป็นแนวทางมาตรฐานตั้งแต่ยุคผู้นำเกาหลีเหนือคนก่อนคือ คิม จองอิล พ่อของคิม จองอึน เพื่อป้องกันไม่ให้หน่วยข่าวกรองต่างชาติที่รวมถึงประเทศพันธมิตร เก็บตัวอย่างดีเอ็นเอของผู้นำเกาหลีเหนือไปตรวจสอบเพื่อหาข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับปัญหาสุขภาพ
(ที่มา: เอเอฟพี/รอยเตอร์)