xs
xsm
sm
md
lg

ทรัมป์ไม่แคร์!เดินหน้าสู้ถึงศาลสูงสุด หลังศาลอุทธรณ์ชี้รีดภาษีโลกไม่ชอบด้วยกฎหมาย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ประกาศกร้าวจะสู้ต่อในศาลสูงสุด หลังจากเมื่อวันศุกร์(29ส.ค.) ศาลอุทธรณ์แห่งหนึ่งพิพากษาว่าการรีดภาษีส่วนใหญ่ของเขา ซึ่งส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อการค้าค้าโลก "ไม่ชอบด้วยกฎหมาย" แต่เปิดทางให้มาตรการดังกล่าวยังมีผลบังคับใช้ และให้เวลาเขาสำหรับต่อสู้ในศาลสูงสุด

ศาลอุทธรณ์สหรัฐฯสำหรับเขตอำนาจศาลกลางลงมติ 7-4 พิพากษายืนคำตัดสินของศาลล่าง ที่พบว่า ทรัมป์ ใช้อำนาจเกินขอบเขตในการใช้กฎหมายฉุกเฉินทางเศรษฐกิจ กำหนดเพดานภาษีในวงกว้าง อย่างไรก็ตามบรรดาผู้พิพากษาเปิดทางให้คงมาตรการรีดภาษีเหล่านั้นไว้จนถึงช่วงกลางเดือนตุลาคม และ ทรัมป์ แสดงจุดยืนอย่างชัดเจนว่าเขาจะใช้เวลานี้ให้เป็นประโยชน์

ในถ้อยแถลงที่เขียนบนทรุตช์โซเชียล ทรัมป์ ประณามคำพิพากษาว่า "ศาลอุทธรณ์ไม่ถูกต้องที่บอกว่ามาตรการรีดภาษีของเราควรถูกรื้อทิ้ง แต่พวกเขารู้ว่าท้ายที่สุดแล้วสหรัฐอเมริกาจะเป็นฝ่ายชนะ" เขากล่าว พร้อมระบุเขาจะตีโต้กลับ "ภายใต้ความช่วยเหลือของศาลสูงสุดสหรัฐฯ"

คำพิพากษาก่อความเสียหายแก่ประธานาธิบดีรายนี้ ที่ใช้มาตรการรีดภาษีเป็นหนึ่งในเครื่องมือทางเศรษฐกิจอย่างครอบคลุม นอกจากนี้แล้วมันยังก่อข้อสงสัยต่อข้อตกลงทั้งหลายที่ทรัมป์บรรลุกับบรรดาคู่หูการค้าหลักๆไปแล้ว อาทิเช่น สหภาพยุโรป และก่อคำถามว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับภาษีหลายหมื่นล้านดอลลาร์ที่สหรัฐฯจัดเก็บมาแล้ว นับตั้งแต่มาตรการรีดภาษีมีผลบังคับใช้ ถ้าศาลสูงสุดที่มีพิพากษาหัวอนุรักษ์นิยมครองเสียงส่วนใหญ่ ไม่สนับสนุนเขา

อย่างไรก็ตามคดีในวันศุกร์(29ส.ค.) ไม่ครอบคลุมถึงมาตรการรีดภาษีที่เจาะจงเป็นรายภาคอุตสาหกรรม ที่รัฐบาลทรัมป์กำหนดจัดเก็บกับเหล็ก อลูมีเนียม ยานยนต์และสินค้านำเข้าอื่นๆ

นับตั้งแต่กลับเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีในเดือนมกราคม ทรัมป์ใช้กฎหมายอำนาจทางเศรษฐกิจฉุกเฉินระหว่างประเทศ (IEEPA) กำหนดเพดานภาษีตอบโต้บรรดาคู่ค้าเกือบทั้งหมดของสหรัฐฯ ประกอบด้วยภาษีพื้นฐาน 10% และอัตราภาษีเพิ่มเติมเป็นรายประเทศ

นอกจากนี้แล้วเขายังใช้อำนาจเดียวกันในการกำหนดเพดานภาษีแยกกันเล่นงานเม็กซิโก แคนาดาและจีน เกี่ยวกับการไหลบ่าเข้ายาอันตรายเข้าสู่สหรัฐฯ

ก่อนหน้านี้ศาลการค้าระหว่างประเทศ พิพากษาเมื่อเดือนพฤษภาคม ระบุว่า ทรัมป์ ใช้อำนาจเกินขอบเขตด้วยการกำหนดเพดานภาษีทั่วโลกอย่างกว้าง ขัดขวางไม่ให้มาตรการรีดภาษีของเขามีผลบังคับใช้ แต่ต่อมาศาลอุทธรณ์มีคำสั่งพักคำตัดสินไว้ชั่วคราว เพื่อพิจารณาคดี

ในเอกสารที่ยื่นเพิ่มเติมไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้าที่ศาลอุทธรณ์จะมีคำพิพากษา บรรดาพวกเจ้าหน้าาที่ในรัฐบาลทรัมป์กล่าวอ้างว่าถ้าศาลตัดสินว่ามาตรการรีดภาษีโลกไม่ชอบด้วยกฎหมาย และมีคำสั่งขัดขวาง มันจะส่งผลกระทบต่อนโยบายต่างประเทศและความมั่นคงแห่งชาติของอเมริกา

โฮเวิร์ด ลุตนิค รัฐมนตรีพาณิชย์สหรัฐฯ ระบุว่า "คำพิพากษาดังกล่าวจะคุกคามผลประโยชน์ทางยุทธศาสตร์ของอเมริกาในวงกว้างทั้งภายในประเทศและในต่างประเทศ มีความเป็นไปได้ที่จะนำไปสู่การแก้แค้นและถอนสถานะข้อตกลงที่เห็นพ้องกันกับบรรดาคู่หูการค้าทั้งหลายไปแล้ว" นอกจากนี้เขายังเตือนว่าคำตัดสินอาจจะส่งผลกระทบกับการเจรจาอันสำคัญที่กำลังดำเนินการอยู่กับบรรดาคู่หูการค้าอื่นๆที่เหลือเช่นกัน

ขณะเดียวกัน สกอตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ เตือนว่าการระงับบังคับใช้มาตรการรีดภาษี "จะนำมาซึ่งความอับอายทางการทูตที่เป็นอันตราย"

(ที่มา:เอเอฟพี)


กำลังโหลดความคิดเห็น