ดราม่าระอุ! ประธานาธิบดีทรัมป์เปิดศึกใส่เจอโรม พาวเวลล์ ขู่ปลดจากเก้าอี้ประธานเฟด เหตุไม่ยอมลดดอกเบี้ยตามสั่ง แม้กฎหมายคุ้มครองพาวเวลล์แน่นหนา แต่การเมืองร้อนแรงอาจสั่นสะเทือนความเชื่อมั่นตลาด ขณะนโยบายภาษีทรัมป์ยิ่งซ้ำเติมความเสี่ยงเงินเฟ้อพุ่ง!
เอเยนซี่ - เมื่อวันที่ 17 เมษายน 2025 ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ออกโรงโจมตีการทำงานของนาย เจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) อย่างดุเดือด โดยระบุว่าการปลดพาวเวลล์ “ต้องเกิดขึ้นให้เร็วที่สุด” สาเหตุหลักคือความไม่พอใจที่พาวเวลล์ไม่ยอมลดอัตราดอกเบี้ยตามที่ทรัมป์เรียกร้อง ซึ่งเขามองว่าเป็นกุญแจสำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจ
เปรียบเฟดช้า-ผิดพลาด เทียบ ECB
ทรัมป์ยังวิจารณ์นโยบายของเฟดว่า “ช้าเกินไปและผิดพลาด” โดยเปรียบเทียบกับธนาคารกลางยุโรป (ECB) ที่เขาคิดว่ามีการตอบสนองที่รวดเร็วกว่า ความขัดแย้งครั้งนี้จุดชนวนความกังวลเกี่ยวกับความเป็นอิสระของเฟด ซึ่งเป็นสถาบันที่ได้รับการออกแบบมาให้ทำงานโดยปราศจากอิทธิพลทางการเมือง
ปลดประธานเฟด ไม่ใช่เรื่องง่าย
การปลดพาวเวลล์ไม่ใช่เรื่องที่ทรัมป์จะสามารถทำได้ตามใจชอบ เนื่องจากตามพระราชบัญญัติธนาคารกลางสหรัฐฯ การปลดประธานเฟดต้องมี “เหตุผลที่ชอบธรรม” เช่น การประพฤติมิชอบหรือไร้ความสามารถ แต่ความขัดแย้งด้านนโยบายไม่ถือว่าเพียงพอ นอกจากนี้ ศาลสูงสุดสหรัฐฯ กำลังพิจารณาคดีที่อาจส่งผลต่ออำนาจของประธานาธิบดีในการปลดหัวหน้าหน่วยงานอิสระ ซึ่งอาจกำหนดทิศทางความเป็นอิสระของเฟดในอนาคต
พาวเวลล์ยันเฟดอิสระ ไม่ยอมให้การเมืองแทรก
เจอโรม พาวเวลล์ ซึ่งจะดำรงตำแหน่งจนถึงปี 2569 ออกมายืนกรานว่า เฟดจะยังคงดำเนินนโยบายอย่างเป็นอิสระ โดยไม่ยอมให้การเมืองเข้ามาครอบงำ พร้อมกันนี้เขายังส่งสัญญาณเตือนอีกว่า หากการตัดสินใจทางเศรษฐกิจถูกขับเคลื่อนโดยแรงกดดันทางการเมือง อาจทำลายความเชื่อมั่นในระบบการเงินของสหรัฐฯ ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญของเศรษฐกิจโลก
นโยบาย "ภาษีทรัมป์" ตอกย้ำซ้ำเติมความเสี่ยงเศรษฐกิจสหรัฐดิ่งลง
การปะทะกันระหว่างทรัมป์และพาวเวลล์ครั้งนี้เกิดขึ้นในช่วงที่สหรัฐฯ เผชิญความกังวลจากนโยบายภาษีศุลกากรของทรัมป์ ซึ่งนักวิเคราะห์มองว่าอาจจุดชนวนให้เงินเฟ้อพุ่งสูงและฉุดเศรษฐกิจให้ชะลอตัว ความไม่ลงรอยระหว่างผู้นำทำเนียบขาวและเฟดยิ่งทำให้สถานการณ์เปราะบางมากขึ้น
นักวิเคราะห์ชี้ ปลดพาวเวลล์ เสี่ยงทำตลาดทุนปั่นป่วนหนัก
ด้านนักวิเคราะห์การเงิน ได้ออกโรงเตือนว่า หากทรัมป์ยังดึงดันที่จะปลดนายพาวเวลล์จริง อาจก่อให้เกิดความโกลาหลในตลาดการเงินทั่วโลก เนื่องจากการเปลี่ยนตัวประธานเฟดโดยไม่มีเหตุผลที่ชัดเจนตามกฎหมาย อาจบ่อนทำลายความน่าเชื่อถือของสถาบันการเงินสหรัฐฯ ซึ่งเป็นที่ยอมรับในระดับสากล
นักลงทุนตั้งคำถาม "เฟดอยู่ตรงไหนในเกมการเมือง?"
ความขัดแย้งครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่ทรัมป์พยายามกดดันเฟด ในสมัยแรกของการเป็นประธานาธิบดี เขาก็เคยวิจารณ์พาวเวลล์ซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่คราวนี้สถานการณ์ดูจะรุนแรงกว่าเดิม ด้วยบริบทของนโยบายภาษีและความกังวลเรื่องเงินเฟ้อที่กำลังคุกคามเศรษฐกิจ
พาวเวลล์ย้ำ การสร้างความเชื่อมั่น คือกุญแจพลิกฟื้นนโยบายเศรษฐกิจ
พาวเวลล์เน้นย้ำว่า ความเชื่อมั่นของสาธารณชนต่อความเป็นอิสระของเฟดคือสิ่งที่ทำให้ระบบการเงินสหรัฐฯ แข็งแกร่ง หากความเป็นอิสระนี้ถูกตั้งคำถาม ผลกระทบอาจลุกลามไปถึงค่าเงินดอลลาร์ ตลาดหุ้น และสินทรัพย์เสี่ยงอย่างคริปโต รวมถึงบิทคอยน์ ที่ผันผวนตามนโยบายการเงิน
ทรัมป์ vs พาวเวลล์ ศึกนี้ใครจะชนะ?
ขณะที่ทรัมป์เดินหน้าโจมตี และพาวเวลล์ยืนหยัดปกป้องความเป็นอิสระของเฟด ศึกครั้งนี้กลายเป็นจุดสนใจของนักลงทุนและนักวิเคราะห์ทั่วโลก คำถามใหญ่คือ การเมืองจะครอบงำนโยบายการเงินได้หรือไม่ และผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกจะรุนแรงแค่ไหน? นี่คือเกมที่คนทั้งโลกต่างต้องจับตา