xs
xsm
sm
md
lg

‘เฟด’ลดดอกเบี้ยนโยบายหนแรกในกว่า4ปี แถมหั่นแรง0.5% ‘แฮร์ริส’พอใจ แต่‘ทรัมป์’แซะสะท้อนศก.แย่-เกมการเมือง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


เจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟด ขณะแถลงข่าวเมื่อวันพุธ (18 ก.ย)
ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายรวดเดียว 0.50% เมื่อวันพุธ (18 ก.ย.) ซึ่งถือเป็นการพลิกกลับนโยบายครั้งแรกในรอบกว่า 4 ปี อีกทั้งเกิดขึ้นขณะการเลือกตั้งประธานาธิบดีกำลังจะมีขึ้นในอีกไม่ถึง 2 เดือน โดยที่หลายฝ่ายคาดว่าเรื่องนี้น่าจะส่งผลดีต่อ กมลา แฮร์ริส ขณะที่โดนัลด์ ทรัมป์ เปิดปากวิจารณ์ว่า การตัดสินใจครั้งนี้ของเฟดอาจมุ่งเป็นคำตอบสำหรับเศรษฐกิจที่เลวร้ายมาก หรือไม่ก็เป็นเกมการเมือง

การตัดสินใจของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟด ภายหลังประชุมกันเป็นเวลา 2 วันครั้งนี้ คือการชี้นำที่จะส่งผลต่ออัตราดอกเบี้ยซึ่งธนาคารพาณิชย์ปล่อยกู้ให้กับผู้บริโภคและภาคธุรกิจ ดังนั้นจึงจะทำให้ต้นทุนการกู้ยืมทุกอย่างลดลงตั้งแต่สินเชื่อบ้านไปจนถึงบัตรเครดิต

ความเคลื่อนไหวนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นของการยุติสภาพแวดล้อมอัตราดอกเบี้ยสูงของเฟดซึ่งมุ่งควบคุมดีมานด์ ในเมื่อเวลานี้อัตราเงินเฟ้อกำลังลดลงสู่เป้าหมายระยะยาวที่ 2% และตลาดแรงงานยังคงชะลอความร้อนแรงลง หลังจากที่ผ่านมาเศรษฐกิจฟื้นตัวอย่างน่าประทับใจหลังวิกฤตโควิด

ท่ามกลางสถานการณ์นี้ การลดดอกเบี้ยครั้งใหญ่ของเฟดอาจเป็นข่าวดีสำหรับรองประธานาธิบดี แฮร์ริส ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีจากพรรคเดโมแครต โดยเธอออกมาแถลงว่า ความเคลื่อนไหวนี้ของเฟดเป็นข่าวที่น่ายินดีสำหรับอเมริกันชนที่แบกรับภาระจากต้นทุนสูง และเธอก็จะจะทุ่มเทความสนใจกับการคงต้นทุนให้อยู่ในระดับต่ำต่อไป

ทางด้านอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ตัวแทนพรรครีพับลิกันในศึกชิงทำเนียบขาวที่จะมีขึ้นต้นเดือนพฤศจิกายนที่จะถึง ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่า การตัดสินใจอย่างอิสระของเฟดอาจเป็นคำตอบสำหรับเศรษฐกิจที่เลวร้ายมาก หรือไม่มันก็อาจจะเป็นเกมการเมือง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องถือเป็นการลดดอกเบี้ยครั้งใหญ่มาก

คำแถลงของเฟดที่ออกมาหลังการประชุมในวันพุธ ระบุว่า บรรดาผู้วางนโยบายการเงินมีมติ 11-1 ให้ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายเฟด ฟันด์ส เรต 0.50% ลงมาอยู่ที่ 4.75-5% และมีแผนลดดอกเบี้ยลงอีก 0.50% ก่อนสิ้นปีนี้, 1% ในปีหน้า และ 0.5% ในปี 2026 แต่สำทับว่า แนวโน้มระยะยาวอาจไม่แน่นอน

คณะกรรมการกำหนดนโยบายของเฟดยังคาดการณ์ว่า อัตราว่างงานในไตรมาส 4 จะอยู่ที่ 4.4% เพิ่มขึ้นจาก 4% ในการอัพเดตครั้งที่แล้วเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ส่วนอัตราเงินเฟ้อทั่วไปประจำปีคาดว่า จะอยู่ที่ 2.3% ลดลงเล็กน้อยจากเดือนมิถุนายน

เจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟด แถลงสำทับว่า ถึงเวลาแล้วสำหรับการปรับนโยบายสู่บางสิ่งที่เหมาะสมกว่า โดยอิงกับความคืบหน้าด้านเงินเฟ้อที่ขณะนี้อยู่ที่ 2.5% และอัตราจ้างงานที่กำลังขยับสู่ระดับที่ยั่งยืนมากขึ้น ก่อนทิ้งท้ายว่า นี่คือจุดเริ่มต้นของกระบวนการดังกล่าว

นักวิเคราะห์คาดการณ์อย่างกว้างขวางว่า เฟดจะลดเบี้ยในวันพุธ แต่ไม่แน่ใจว่า จะลด 2.5% หรือ 5.0%

การลดดอกเบี้ยเพียงเล็กน้อยอาจเป็นขั้นตอนที่ราบรื่นมากกว่า ขณะที่การลดดอกเบี้ยแรงจะกระตุ้นดีมานด์ได้มากกว่า แต่ก็มีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นว่า จะผลักดันให้เงินเฟ้อพุ่งขึ้นอีก

อิริก โรเซนเกรน อดีตผู้ว่าการเฟดสาขาบอสตันและปัจจุบันเป็นนักวิชาการแลกเปลี่ยนของสถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเสตส์ (เอ็มไอที) บอกว่า แปลกใจเล็กน้อยที่เฟดลดอกเบี้ย 0.50% แทนที่จะลดแค่ 0.25% แต่คิดว่า พาวเวลล์ชี้แจงได้ดี และสาเหตุที่คณะกรรมการผู้วางนโยบายตัดสินใจแบบนี้น่าจะเป็นเพราะต้องการรับมือข้อมูลการจ้างงานที่อ่อนแอเกินคาด รวมทั้งข่าวที่ดีมากเกี่ยวกับเงินเฟ้อ

นาธาน ชีตส์ หัวหน้านักวิเคราะห์ทั่วโลกของซิตี้ แสดงความเห็นว่า ความเคลื่อนไหวล่าสุดของเฟดเป็นการตัดสินใจเชิงยุทธศาสตร์ไม่ใช่ความตื่นตระหนก

ถึงแม้ถือกันว่าเฟดพึงดำเนินการอย่างอิสระ แต่การตัดสินใจของธนาคารกลางสหรัฐฯก็มักมีนัยทางการเมือง เนื่องจากภาวะเงินเฟ้อและค่าครองชีพเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่อาจตัดสินผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ

ทรัมป์นั้นวิจารณ์พาวเวลล์อยู่บ่อยครั้ง แม้เขาเองเป็นผู้แต่งตั้งให้พาวเวล์คุมเฟดตั้งแต่ทีแรก นอกจากนั้น เมื่อไม่นานมานี้ เขาส่งสัญญาณว่า “อย่างน้อยประธานาธิบดีสหรัฐฯ ควรมีอำนาจในการตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ย”

ทว่า ระหว่างการแถลงในวันพุธ พาวเวลล์ประกาศว่า ความเป็นอิสระของเฟดเป็นสิ่งที่ดีสำหรับสาธารณชน เขายังหวังและเชื่อมั่นว่า เฟดจะยังดำเนินการอย่างอิสระต่อไป

(ที่มา: เอเอฟพี/รอยเตอร์)
กำลังโหลดความคิดเห็น