เอเจนซีส์ - ทรัมป์ขึ้นเวทีหาเสียงครั้งแรกหลังรอดชีวิตจากการพยายามลอบสังหาร ยืนยันตัวเองไม่ได้เป็นภัยคุกคามประชาธิปไตย แต่ “สัปดาห์ก่อนเพิ่งรับกระสุนเพื่อประชาธิปไตย” แถมเยาะพรรคเดโมแครตที่กำลังชุลมุนวุ่นวายกับกระแสกดดันให้ไบเดนถอนตัวจากการเลือกตั้ง และวิจารณ์เพโลซีโจมตีไบเดนเหมือนสุนัขและบ้าเหมือนตัวเรือด
ระหว่างการหาเสียงเมื่อวันเสาร์ (20 ก.ค.) ที่มิชิแกนซึ่งเป็นหนึ่งในรัฐที่สองพรรคใหญ่มีคะแนนสูสี โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีจากพรรครีพับลิกัน ยืนยันว่า ตนเองไม่ใช่พวกสุดโต่ง และปฏิเสธรายงานที่มีการเชื่อมโยงตนเองกับแถลงการณ์ของโปรเจกต์ 2025 ซึ่งเป็นกลุ่มคลังสมองหัวรุนแรงนำโดยบุคคลที่ใกล้ชิดกับทรัมป์ที่ฝ่ายตรงข้ามวิจารณ์ว่า เป็นรายการสิ่งที่ต้องทำของพวกเผด็จการปีกขวา
ทรัมป์ยังเยาะเย้ยพรรคเดโมแครตที่กำลังชุลมุนกับความกดดันที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนจากการเรียกร้องให้ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ถอนตัวจากการเลือกตั้งชิงทำเนียบขาวสมัยสอง ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับอายุและความพร้อมทั้งทางร่างกายและสติปัญญาในการบริหารประเทศจนถึงปี 2029 หากชนะการเลือกตั้ง
ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีจากพรรครีพับลิกัน เย้ยไบเดนเป็นประจำว่า อ่อนแอ และดูถูกสมาชิกอาวุโสของเดโมแครตที่รวมถึงแนนซี เพโลซี อดีตประธานสภาผู้แทนราษฎร ที่พยายามโน้มน้าวให้ไบเดนถอนตัว ซึ่งครั้งนี้เขาวิจารณ์ว่า เพโลซีโจมตีไบเดนเหมือนสุนัขและบ้าเหมือนตัวเรือด
เมื่อสอบถามเกี่ยวกับการที่ทรัมป์ใช้คำว่า “สุนัข” สตีเวน เฉิง โฆษกทีมหาเสียงของอดีตประธานาธิบดีผู้นี้ตอบกลับว่า “ฮ่าๆๆๆๆๆๆ”
ทรัมป์ยังกล่าวถึงจุดยืนแข็งกร้าวของตนเองเกี่ยวกับผู้อพยพ รวมทั้งสนับสนุนการเผยแพร่ข้อมูลผิดๆ เกี่ยวกับอาชญากรรมจากผู้อพยพ และแสดงความชื่นชมผู้นำเผด็จการต่างชาติ เช่น ชมประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีนว่า “ปราดเปรื่อง” ที่สามารถควบคุมประชาชน 1,400 ล้านคนด้วยกำปั้นเหล็ก
ทรัมป์ย้ำเรื่องที่ตัวเองถูกลอบสังหารเมื่อสัปดาห์ก่อนหลายครั้ง บางครั้งชูกำปั้นและตะโกน “สู้ๆ!” และบางครั้งบอกว่า หวังว่าจะไม่ต้องพบเหตุการณ์ระทึกขวัญแบบนั้นอีก
รอนนี แจ็กสัน แพทย์ที่เคยดูแลทรัมป์ระหว่างดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี เปิดเผยเมื่อวันเสาร์ว่า ทรัมป์กำลังฟื้นตัวจากแผลถูกกระสุนเฉี่ยวที่ใบหูด้านขวา แต่ยังมีเลือดซึมเป็นครั้งคราว และอาจต้องเข้ารับการทดสอบการได้ยิน
ขณะเดียวกัน ที่พรรคเดโมแครต บรรดาผู้จงรักภักดีพยายามปกป้องไบเดนที่กำลังถูกเรียกร้องมากขึ้นให้ถอนตัว ถึงกระนั้น ประธานาธิบดีวัย 81 ปีผู้นี้ และทีมหาเสียงยังคงป่าวประกาศว่า จะสู้ต่อ แม้มีรายงานจากบางแหล่งบ่งชี้ว่า บรรดาคนใกล้ตัวเริ่มหารือกันแล้วเกี่ยวกับวิธีการถอนตัว
นอกจากนี้ ยังมีการคาดเดาอย่างกว้างขวางเกี่ยวกับผู้ที่จะลงสมัครแทนไบเดน ซึ่งดูเหมือนคนที่เหมาะสมที่สุดน่าจะเป็นรองประธานาธิบดี กมลา แฮร์ริส
วุฒิสมาชิกเอลิซาเบธ วอร์เรน ผู้นำสมาชิกเดโมแครตสายก้าวหน้าที่เคยลงสมัครเป็นตัวแทนพรรคในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อปี 2020 กล่าวกับเอ็มเอสเอ็นบีซีเมื่อวันเสาร์ว่า ไบเดนคือผู้ได้รับการเสนอชื่อจากพรรค แต่ถ้าเขาตัดสินใจถอนตัว เดโมแครตยังมีความหวังกับแฮร์ริสที่พร้อมจะทำให้พรรคสามัคคีและเอาชนะทรัมป์ได้ในการเลือกตั้งเดือนพฤศจิกายน
สมาชิกเดโมแครตบางคนกลัวว่า การเปลี่ยนตัวผู้สมัครล่าช้าแบบนี้อาจทำให้สถานการณ์ยิ่งวุ่นวายและส่งผลร้ายต่อพรรคในการเลือกตั้ง ซึ่งตรงข้ามกับสถานการณ์ของทรัมป์ที่ดีวันดีคืน ทั้งจากความพยายามลอบสังหารที่ล้มเหลว คำตัดสินของศาล และผลงานการดีเบตสุดเลวร้ายของไบเดนเมื่อเดือนที่แล้ว
วุฒิสมาชิก เจ.ดี. แวนซ์ จากรัฐโอไฮโอที่เป็นผู้ลงสมัครชิงตำแหน่งรองประธานาธิบดีคู่กับทรัมป์ อุ่นเครื่องในการหาเสียงครั้งแรกร่วมกับทรัมป์ด้วยการโจมตีแฮร์ริส อดีตวุฒิสมาชิกและอัยการสูงสุดรัฐแคลิฟอร์เนียว่า เคยแต่รับเช็ค พร้อมคุยข่มว่า ตนเคยรับใช้ชาติในบทบาทนาวิกโยธินและยังสร้างธุรกิจของตัวเอง
ทั้งนี้ แวนซ์ วัย 39 ปี ถูกคาดหวังว่าจะช่วยให้ทรัมป์คว้าชัยในรัฐที่สองพรรคมีคะแนนก้ำกึ่งอย่างมิชิแกน เพนซิลเวเนีย และวิสคอนซิน ขณะที่ผลสำรวจความคิดเห็นพบว่า ทรัมป์และไบเดนได้คะแนนนิยมทั่วประเทศสูสี แต่ไบเดนเป็นรองในรัฐที่เป็นสมรภูมิสำคัญและอาจชี้ขาดผลการเลือกตั้งปลายปีนี้