ทรัมป์เมินคำเตือน-โจมตีแฮร์ริส โพลชี้แคนดิเดตเดโมแครตยังนำ

เอเอฟพี - ทรัมป์ไม่ฟังเสียงที่ปรึกษาทีมหาเสียงและพรรครีพับลิกัน ขอพูดนอกสคริปต์โจมตีเรื่องส่วนตัวแฮร์ริส ขณะที่โพลพบรองประธานาธิบดีหญิงจากพรรคเดโมแครตยังคงมีคะแนนนำในรัฐที่เป็นสมรภูมิเลือกตั้งสำคัญ

อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน เริ่มกล่าวหารองประธานาธิบดีกมลา แฮร์ริส ระหว่างหาเสียงที่รัฐเพนซิลเวเนียเมื่อวันเสาร์ (17 ส.ค.) ว่า ทำให้เงินเฟ้อพุ่งขึ้นและสร้างความเสียหายใหญ่หลวง ซึ่งเป็นหนึ่งในประเด็นหาเสียงสำคัญ แต่หลังจากนั้นไม่นานก็หลุดสคริปต์และหันมาล้อเลียนการหัวเราะของแฮร์ริส พร้อมเรียกเธอว่า “คอมมิวนิสต์” และ “วิปลาส” ทรัมป์ยังวิจารณ์ภาพแฮร์ริสบนปกนิตยสารไทม์ และยืนยันว่า ตัวเอง “ดูดีกว่าเยอะเลย”

ทั้งนี้ ที่ปรึกษาทั้งของรีพับลิกันและของทรัมป์ที่กำลังกังวลกับแคมเปญหาเสียงที่ทรงพลังของแฮร์ริส ต่างเรียกร้องอย่างเปิดเผยให้ทรัมป์มุ่งมั่นกับประเด็นปัญหาต่างๆ และงดเว้นการโจมตีส่วนตัวซึ่งเชื่อว่าส่งผลลบร้ายแรงในสายตาผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่ยังไม่ได้ตัดสินใจ และกลุ่มที่ไม่ฝักใฝ่พรรคใดที่ทรัมป์จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องได้มาเพื่อเอาชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีวันที่ 5 พ.ย.

อย่างไรก็ตาม อดีตประธานาธิบดีจากรีพับลิกันผู้นี้ไม่มีทีท่าว่าจะเปลี่ยนแปลงแนวทางประชานิยมและสไตล์การเผชิญหน้า โดยระหว่างการหาเสียงเมื่อวันเสาร์ เขากล่าวกับผู้ฟังปราศรัยว่า ขอเวลา 15 นาทีที่จะไม่พูดตามสคริปต์ ก่อนสำทับว่า “หลายคนบอกไม่ให้ใช้คำหยาบคาบ อย่าว่าคนอื่นโง่ อย่าเรียกหล่อนว่าวิปลาส แต่หล่อนวิปลาสจริงๆ”

โมเมนตัมในศึกชิงทำเนียบขาวเปลี่ยนไปอย่างชัดเจนนับจากที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ประกาศถอนตัวเมื่อวันที่ 21 ก.ค. และแฮร์ริสได้รับการสนับสนุนท่วมท้นในการเป็นตัวแทนเดโมแครตลงเลือกตั้งแทน

ผลสำรวจของนิวยอร์ก ไทมส์ และเซียนา คอลเลจที่เผยแพร่เมื่อวันเสาร์พบว่า แฮร์ริสมาแรงใน 4 รัฐที่เป็นสมรภูมิเลือกตั้งสำคัญซึ่งทรัมปมีแนวโน้มชนะไบเดนสบายๆ ก่อนหน้านี้ โพลดังกล่าวมีแนวโน้มกระตุ้นให้ทีมหาเสียงทรัมป์ยิ่งแตกตื่นมากขึ้น เนื่องจากตอนนี้แฮร์ริสมีคะแนนนำทรัมป์ในแอริโซนาและนอร์ธแคโรไลนา และสูสีกันมากในเนวาดาและจอร์เจีย

ที่วิลค์-แบร์รี ทรัมป์โจมตีแฮร์ริสที่เคยต่อต้านการขุดน้ำมันแบบแฟรกกิ้งในเพนซิลเวเนีย ซึ่งเป็นรัฐที่ผลิตก๊าซธรรมชาติใหญ่อันดับ 2 ของอเมริกา รองจากเทกซัส อย่างไรก็ตาม เขาใช้เวลานานกว่าในการอวดอ้างความสำเร็จของตัวเองในการดีเบตกับไบเดนเมื่อเดือนมิถุนายน รวมทั้งพูดวกไปวนมาเกี่ยวกับโซเฟีย ลอเรน นักแสดงหญิงระดับตำนานของอิตาลี จนถึงประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครงของฝรั่งเศส

ทั้งนี้ ขณะที่โพลล่าสุดแสดงให้เห็นว่า ทรัมป์และแฮร์ริสมีคะแนนสูสีกันมาก แต่ผลการเลือกตั้งจะชี้ขาดจากสนามเลือกตั้งในสวิงสเตท หรือรัฐที่ประชาชนมีความคิดเห็นทางการเมืองแตกต่างกันในจำนวนที่ใกล้เคียงกันมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งรัฐเพนซิลเวเนียที่ทรัมป์เคยแพ้ไบเดนเฉียดฉิวในการเลือกตั้งปี 2020 แต่ได้รับการสนับสนุนแข็งแกร่งในชนบทและเมืองเล็กๆ

โพลของนิวยอร์ก ไทมส์-เซียนา ระบุเมื่อสัปดาห์ก่อนว่า แฮร์ริสนำหน้าทรัมป์เล็กน้อยในเพนซิลเวเนีย และอีก 2 รัฐสำคัญคือมิชิแกนและวิสคอนซิน

ขณะเดียวกัน ขณะที่วันเลือกตั้งใกล้เข้ามา แฮร์ริสกำลังพยายามพาตัวเองออกห่างจากนโยบายที่ไม่ได้รับความนิยมของไบเดน ควบคู่กับการก้าวนำหน้าความพยายามของทรัมป์ในการตีตราตนเป็นพวกเสรีนิยมสุดโต่ง

เมื่อวันเสาร์ ทรัมป์ย้ำว่า การที่แฮร์ริสผลักดันให้รัฐบาลแบนการขึ้นราคาอย่างไม่เป็นธรรมของบริษัทเอกชนเป็นนโยบายของประเทศคอมมิวนิสต์

ทางด้านแฮร์ริสยอมรับระหว่างหาเสียงเมื่อวันศุกร์ (16 ส.ค.) ว่า แม้เศรษฐกิจเติบโต แต่มีชาวอเมริกันมากมายไม่รับรู้ถึงความสำเร็จนี้ในชีวิตประจำวัน และสำทับว่า ทรัมป์พยายามสู้เพื่อมหาเศรษฐีและบริษัทยักษ์ใหญ่ แต่เธอจะสู้เพื่อคืนรายได้ให้ชนชั้นกลางและชนชั้นแรงงาน